xs
xsm
sm
md
lg

รื้อ!“ก๊ก"เพื่อไทย 19 พื้นที่ส่อรับเลือกตั้งใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-เอาแน่! มติรื้อ“ก๊กเพื่อไทย”! สั่งปรับโครงสร้างแบ่ง 19 พื้นที่ดูแลประชาชน ปัดไม่เกี่ยวรองรับเลือกตั้งใหม่ เชื่อฝ่ายค้านจ้องถล่มอภิปรายงบ56 ด้านฝ่ายค้านโวย รบ.ตุกติกถกงบปี 56 ดึงเวลาส่งเอกสารข้อมูล บีบส.ส.มีเวลาทำการบ้าน

วานนี้(13พ.ค.55)นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงภายหลังการประชุมพรรค ฯว่า ที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องการปรับโครงสร้างการทำงานของพรรคเพื่อไทย โดยพรรคเพื่อไทยจะปรับโครงสร้างเพื่อให้เป็นสถาบันทางการเมืองมากขึ้น ทั้งนี้ จะมีการปรับจากคณะทำงาน 5 ภาคเป็น 19 โซนแทน โดยจะมีประธานโซนซึ่งคัดเลือกมาจากกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการบริหารโซนเป็นผู้ดูแลแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดความใกล้ชิดกับประชาชน และรับฟังปัญหาของประชาชนได้รวดเร็วขึ้น และนอกจากมีคณะกรรมการบริหารพรรคแล้ว ยังกำหนดให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค คณะกรรมการยุทธศาสตร์ประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการสนับสนุนกิจการพรรค และคณะกรรมการกิจการประสานงานรัฐบาล เพื่อให้เป็นศูนย์รวมและเป็นศูนย์กลางแก้ปัญหาประชาชนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยืนยันว่าไม่ใช่การปรับโครงสร้างเพื่อเตรียมความพร้อมรับการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่เป็นการแบ่งความรับผิดชอบในการดูแลประชาชน

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงที่พรรคประชาธิปัตย์เดินสายสานสานเสวนา และวิพากษ์รัฐบาลในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการนิรโทษกรรมลบล้างความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการกล่าวหาโดยปราศจากข้อเท็จจริง เป็นการโยนบาปให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เราแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 มาจาการร่างโดยอำนาจเผด็จการ ขณะที่ประชาชนก็อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ การที่พรรคประชาธิปัตย์เดินสายเสวนาดังกล่าวถือเป็นการบิดเบือนข้อมูล ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และหากการเดินสายเสวนาบิดเบือนขอมูลของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้เกิดความชัดแย้งในสังคมเพิ่มขึ้นจนนำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบ

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมพรรคได้หารือถึงการประชุมร่วมรัฐสภาระหว่างวันที่ 14-15 พฤษภาคมนี้ โดยเรียกร้องให้สมาชิกพรรคคำนึงถึงองค์ประชุม อย่าเพิ่งเดินทางไปต่างประเทศระหว่างช่วงก่อนปิดสมัยประชุม เนื่องจากยังมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ.2556 จนกว่าจะปิดสมัยประชุมสมัยสามัญนิติบัญญัติ
 

นายพร้อมพงศ์ แถลงว่า พรรคได้เรียกประชุมสมาชิกเพื่อหารือถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 มาตรา 5 เพื่อวางกรอบให้ส.ส.พรรค รวมทั้งจะขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านดำเนินการอภิปรายอยู่ในกรอบของการแปรญัตติตามวาระ 2 ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาจบในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เพื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้พิจารณากรอบสนธิสัญญาอื่นที่ค้างอยู่ประมาณ 8 ฉบับ

"เชื่อว่าจะลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ได้ภายในเดือนพ.ค. โดยถ้ามีการอภิรายนอกกรอบทางพรรคเพื่อไทยจะมีการจัดทีมประท้วง"นายพร้อมพงศ์กล่าว

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า หลังจากพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจบแล้ว ก็จะเป็นการพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี56 ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจย่อยของพรรคฝ่ายค้านซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าจะตรวจสอบรัฐบาล โดยเพื่อไทยและรัฐบาลมีความพร้อมในการตอบปัญหาทั้งเรื่องสินค้าที่มีราคาแพง เรื่องการทุจริตคอรัปชั่น แต่ขอให้อยู่ในกรอบการพิจาณาของการประชุม

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการพิจาณางบประมาณประจำปี 56 มี่จะเข้าสู่การประชุมพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร์ในวันที่21-23 พฤษภาคมว่า เป็นความเร่งรัดของรัฐบาลที่ต้องการจะให้มีการพิจารณางบประมาณในสมัยสามัญนิติบัญญัติ ที่ขยายสมัยประชุมออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดวิสามัญเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งกรณีดังกล่าวแม้จะเป็นสิทธิ์ที่จะทำได้แต่ก็ต้องคำนึงถึงสิทธิการทำหน้าที่ของส.ส.ด้วย เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการเตรียมข้อมูลที่จะพิจารณางบประมาณอย่างรอบคอบ มีเนื้อหาสาระข้อมูลสลับซับซ้อนมาก ดังนั้นควรจะให้ส.ส.มีระยะเวลาศึกษาข้อมูลตัวเลขโครงการงบประมาณอย่างละเอียด และก่อนที่จะมีการเปิดประชุมก็ควรจะส่งเอกสารข้อมูลให้สมาชิกล่วงหน้าไม่น้อยกว่า15วัน แต่ทราบข่าวว่าทางสภาจะให้รับเอกสารได้ในวันที่16 พฤษภาคมเป็นต้นไป ทำให้มีเวลาพิจารณาเพียง5 วันซึ่งจะไม่เพียงพอต่อการพิจารณาจึงอยากให้รัฐบาลประสานงานมายังประธานรัฐสภาเพื่อนำเอกสารเกี่ยวกับพ.ร.บ.งบประมาณ ส่งให้สมาชิกโดยเร็วกว่านี้

อีกด้าน นายเทพไท กล่าวกรณีการเลือกตั้งซ่อม เขต 3 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังจากพรรคเพื่อไทย นำโดยนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้ขนคนไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมและขึ้นปราศรัยเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2555 ที่ผ่านมาว่านายกฯยิ่งลักษณ์ มั่นอกมั่นใจในพื้นที่ดังกล่าวว่าจะต้องชนะได้รับเลือกอย่างแน่นอน แต่การเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น ไม่ควรที่จะดูถูกการตัดสินใจของประชาชน และแม้ว่าผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยจะทิ้งห่างพรรคประชาธิปัตย์มากก็ตาม แต่เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยน ความคิดเห็นของประชาชนก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้

"ทางพรรคประชาธิปัตย์เอง ยอมรับว่าเป็นรองพรรคเพื่อไทยอยู่มาก แต่ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงพื้นที่ของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และส.ส.ของพรรค ทั้งนี้หวังว่าคงจะได้รับการต้อนรับ และเปิดโอกาสเหมือนกับตัวนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ ไม่อยากจะให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นกลุ่มสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ออกมาขัดขวางการลงพื้นที่หาเสียง มิเช่นนั้นจะไม่เกิดบรรยากาศความไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่เคารพความเห็นต่างทางการเมือง " นายเทพไท กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น