xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ของแพง ความโง่ และคางคกขึ้นวอ ?!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-คำอธิบายถึงสาเหตุราคาสินค้าแพง เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมายนั้น กลายเป็นสิ่งบ่งบอกระดับมันสมองของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ชันเจนมากที่สุด

สินค้าแพงเพราะความรู้สึกของประชาชน ไม่ใช่เพราะราคาแพงขึ้น

“สาเหตุมาจาก 2 ส่วน คือ ข้อมูลที่เราเก็บจากข้อเท็จจริง และส่วนหนึ่งเกิดจากความรู้สึกของประชาชน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของราคาสินค้าที่ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าแพงนั้น  อาจมาจากผลพวงอุทกภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้เกิดความรู้สึกว่า ราคาสินค้ายังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ความจริงก็เริ่มมีการปรับตัวลดลง แต่อาจยังไม่ได้ปรับตัวลดลงในจุดที่ประชาชนพอใจ ประกอบกับช่วงเดือนเม.ย. อากาศร้อน และเป็นเดือนที่มีค่าใช้จ่ายมาก เช่น ลูกต้องเรียนหนังสือ เมื่อ 2 มุมนี้มาประกอบกัน จึงอาจทำให้เกิดความรู้สึกว่าสินค้าราคาแพง” นั่นคือคำอธิบายของยิ่งลักษณ์

ข้อเท็จจริงทางการเงินในกระเป๋าของคนไทย ต้องยอมรับว่า ตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องเท่าใดนัก

ข้อมูลเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า หมวดสินค้าอาหารและเครื่องดื่มปรับเพิ่มขึ้นถึง 7-10 % ต่อเนื่องมาใน 1 ปี ยกเว้นเดือนล่าสุด เม.ย.55 ที่ตัวเลขชะลอตัวแบบค้านสายตาเพิ่มเพียง 4.51 %
 

ข้อมูลราคาสินค้าในมือข้าราชการก็คลาดเคลื่อนจากความจริง และส่วนใหญ่ต่ำกว่าท้องตลาด เช่น เนื้อสุกร เนื้อแดง (สันนอก-สันใน) มีราคาอยู่ที่ กก.140 บาท ขณะที่ราคาสำรวจในเว็บไซต์อยู่ที่ 123.50 บาท ไก่สดทั้งตัวมีราคาจริงที่ กก.ละ 80 บาท สูงกว่าที่สำรวจ 68.99 บาท คะน้า กก. 70 บาท สูงกว่าราคาที่สำรวจ 31.96 บาท

หลังจากทนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ไหว ยิ่งลักษณ์ ก็เยื้องย่างออกจากคฤหาสน์ หลังงาม สั่งรัฐมนตรีกระจายกันลงสำรวจตลาด เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา

“จากการสำรวจราคาสินค้า ส่วนใหญ่ยังคงเป็นไปตามกลไกการตลาด มีเพียงผักบางชนิดที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ น้ำท่วม ฤดูกาลที่ขณะนี้อากาศร้อน ส่งผลให้ผักหลายชนิดเน่าเสีย และ ราคาพลังงาน”

คำอธิบายของยิ่งลักษณ์ ยังวนเวียนปัจจัยภายนอกที่ไม่ยอมรับข้อเท็จจริงทางเศรษฐกิจ

ไม่ยอมรับว่า ของแพง

ยิ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรองนายกรัฐมนตรี นั่งกินข้างเที่ยงที่โรงอาหารหลังตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล แล้วบอกว่า กินกัน 5 คน จ่ายเพียง 150 บาทเท่านั้น

ยิ่งเลอะเทอะไปกันใหญ่ !!

แม้กระทั่งการลงพื้นที่ตรวจตลาดของนายกรัฐมนตรี นักข่าวรายงานว่า การเดินตลาดสดปากเกร็ดในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะได้รับเสียงเชียร์จากพ่อค้า แม่ค้า ให้สู้ๆ ซึ่งนายกฯได้อุดหนุนสินค้าเกือบทุกร้านที่เข้าไปสอบถามราคา โดยมีพ่อค้าขายไข่ไก่รายหนึ่ง ซึ่งสวมเสื้อสีแดง ได้บอกกับนายกรัฐมนตรีว่า ถ้าอยากให้คนๆหนึ่งกลับบ้านเร็ว ก็ให้มาหาคนที่ปากเกร็ด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แต่ยิ้ม

อย่างไรก็ตาม มีแม่ค้าขายหมูรายหนึ่ง มีสีหน้าไม่พอใจเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินผ่าน และได้หยิบปากกาเมจิกมาเขียนบนกระดาษ เป็นหน้าคนสี่เหลี่ยม มีข้อความว่า "ไอ้เหลี่ยมมัน เ....ย สุดๆ" แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ

ก่อนหน้านั้น รัฐบาลไม่เชื่อว่า สินค้าราคาแพง เพราะมัวอยู่แต่ในหอคอย จนยิ่งลักษณ์สั่งให้รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่ได้รับมอบหมายให้แก้ไขปัญหาข้าวของแพง จะลงพื้นที่ตรวจสินค้าอุปโภคบริโภคตลาดสดในกรุงเทพมหานคร นครปฐม และ เชียงใหม่ ได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะลงพื้นที่ตลาดอ่อนนุชเฟรชมาร์ท (ฝั่งเหนือ) เขตวัฒนา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่ตลาดสดเชียงใหม่ นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ลงพื้นที่ตลาดศูนย์การค้ามีนบุรี

นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ ลงพื้นที่ตลาดนนทบุรี  นางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตลาดวัฒนานันท์ ดอนเมือง นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ลงพื้นที่ตลาดบางขุนศรี ถนนจรัญสนิทวงศ์ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ตลาดทุ่งครุ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ตลาดสำโรง  พระประแดง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ลงพื้นที่ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์  สวัสดิวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตลาดศรีตระกล่ำ พัฒนาการ ถนนรามคำแหง 2 และนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน ลงพื้นที่ตลาดเสรี จ.นครปฐม

แต่รัฐมนตรียังปากแข็ง บอกว่าราคาสินค้าไปตามกลไกตลาด

ความไม่เอาไหนของรัฐบาลยังสะท้อนจากการ “โยนหินถามทาง” เพื่อแต่งตั้ง “ไอ้ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

จนทำให้ ฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ต้องเตือนผ่านสื่อว่า “อย่ามากไป เสื้อแดง”

ก่อนหน้านี้ ฉลอง คนเดียวกันนี้ เคยด่าพวกแกนนำ นปช. เหล่านี้ ถึงการ “ฮุบของบริจาคช่วยเหลือน้ำท่วม” จนคนในจังหวัดนนทบุรี ไม่ได้รับความช่วยเหลือ

“ผมไม่เห็นด้วยที่นายจตุพร จะมาเป็นรัฐมนตรี เพราะขณะนี้นายจตุพร ยังมีคดีหมิ่นสถาบัน ที่ไปพูดบนเวทีปราศัยของคนเสื้อแดง จึงอยากให้ไปเคลียร์คดีเรื่องให้เสร็จสิ้นก่อน เมื่อชนะคดีแล้ว จึงค่อยมาเป็นรัฐมนตรีอย่างสง่างาม แต่หากยังมีคดีอยู่ และต้องมาปฏิญาณตนรับตำแหน่ง จะมีความสง่างามหรือไม่ เกรงว่าหากนายจตุพร มาเป็นรัฐมนตรีจะกลายเป็นระเบิดเวลาของพรรค ที่ทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ต้องลำบากใจ ที่ต้องคอยตอบคำถาม แทนที่จะเอาเวลาไปแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับชาวบ้าน”

“นายจตุพร เป็นคนมีความรู้ความสามารถเป็นรัฐมนตรีได้ แต่เป็นห่วงภาพพจน์ของพรรคที่จะเสียไป เพราะนายจตุพร มีคดีหมิ่นสถาบันอยู่ ไม่อยากให้นายกฯต้องหนักใจต้องมาตอบคำถามสื่อมวลชนว่า ทำไมถึงเอาคนเผาบ้านเผาเมืองมาเป็นรัฐมนตรี ขอให้เคลียร์คดีให้ได้ก่อน อีก 1 เดือนเอง หากชนะแล้ว ให้เป็นรัฐมนตรี 8 ปี ก็ไม่เป็นไร” ฉลอง ตอกย้ำ

แน่นนอนว่า คนอย่างฉลองไม่ต้องการให้ “ลูกพี่” อย่าง “ชูชาติ หาญสวัสดิ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้องตกเก้าอี้

แต่คำอธิบายของฉลอง มีน้ำหนัก ที่ไม่อาจปฏิสเธได้

โดยเฉพาะเกี่ยวกับ “กระสุนพระราชทาน”

“ไม่เห็นด้วยที่นายจตุพร จะมาเป็นรัฐมนตรี เพราะขณะนี้นายจตุพร ยังมีคดีหมิ่นสถาบัน ที่ไปพูดบนเวทีปราศรัยของคนเสื้อแดง ในประเด็นกระสุนพระราชทาน จึงอยากให้ไปเคลียร์คดีเรื่องดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อน เมื่อชนะคดีแล้วจึงค่อยมาเป็นรัฐมนตรีอย่างสง่างาม แต่หากยังมีคดีอยู่ และต้องมาปฏิญาณตนรับตำแหน่งจะมีความสง่างามหรือไม่”

เมื่อเปรียบเทียบกับการที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรมช.เกษตรฯ ฉลองบอกว่า “ไม่เหมือนกัน เราต้องมีการเปรียบเทียบกันว่า ในการปราศรัย นายจตุพรไปพูดคำว่า กระสุนพระราชทาน มันรับได้หรือไม่ สมองมันคนละกิ๊ก นายณัฐวุฒิ เขาพูดเลี่ยงคุก แต่นายจตุพร พูดแล้วทำให้เข้าคุก คนที่มีสติปัญญาดีๆ เขาคงไม่พูดคำนี้กัน ดังนั้นคนที่พูดคำนี้ จะเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ ยืนยันไม่มี อคติกับใคร แต่หากใครอยากมีอคติกับตน ก็เชิญนิมนต์มาได้ทุกเวลา”

ฉลอง ยังอธิบายอีกว่า “หากจะพูดถึงเรื่องโควต้า อยากถามว่า ส.ส.นนทบุรี 7 คน ไม่มีใครเป็นรัฐมนตรีสักคน แต่ทางด้าน จ.ปทุมธานี มี ส.ส. 6 คน ได้เป็นรัฐมนตรี 2 คน การที่ผมพูดแบบนี้ ไม่ใช่ต้องการเป็นรัฐมนตรี แต่อยากรู้ว่านายชูชาติ ทำผิดอะไร และทำไมพรรคไม่มองคนที่มีฝีมือ ไม่มีปัญหาอะไรมาเป็นรัฐมนตรี เช่น นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทำไมไม่เรียกมาใช้”

“สมัยที่พรรคได้รับเลือก 19 ล้านเสียง ยังไม่มีกลุ่มของคนเสื้อแดง ซึ่งกทม.ได้คะแนนมาก แต่ตอนนี้มีกลุ่มคนเสื้อแดง แต่คุณอย่าสำคัญตัวผิด คนเสื้อแดงที่ตนเคารพรักคือคนที่ศรัทธาใน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนกลุ่มนี้ ผมเคารพกราบไหว้ เพราะเขามีจุดยืนต่อต้านรัฐประหาร”

“ อย่างกรณีที่นายกฯเข้าพบพล.อ.เปรม เป็นสิ่งที่ดี แต่ นพ.เหวง โตจิราการ กลับบอกว่านายกฯ ต้องมาชี้แจงให้คนเสื้อแดงเข้าใจ ถามว่าทำไมแล้วคุณเป็นใคร นี่เป็นพรรคเพื่อไทย และคุณเป็นลูกพรรค นายกฯ ทำถูกแล้วไม่เห็นต้องมาชี้แจงอะไรเลย ผมยืนยันไม่มีอคติกับใคร แต่หากใครอยากมีอคติกับผมก็เชิญ นิมนต์มาได้ทุกเวลา”

คางคก จะขึ้นวอเสีย กลับมีพลังเงิน พลังมือในพรรคเพื่อไทย มาขัดขวางหลายมือ

โอกาสดูจะริบหรี่พอประมาณ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น