พท.บี้ไม่หยุด เตรียมยื่น ป.ป.ช.เอาผิดผู้บริหาร กทม.ขยายสัญญาบีทีเอส อ้างไม่โปร่งใส พร้อมยื่นศาลปกครองระงับสัญญา ยันรัฐบาลไม่เคยแทรกแซงดีเอสไอยุติคดีผังล้มเจ้า ขณะเดียวกันปฏิเสธ ส.ส.เพื่อไทยแห่บินพบ “นช.แม้ว” ที่เมืองจีน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงผลการหารือร่วมกับฝ่ายกฎหมายของพรรคกรณีกรุงเทพมหานครขยายสัญญาบริหารรถไฟฟ้าบีทีเอสให้กับบริษัทเอกชนออกไปอีก 13 ปี โดยเชื่อว่าการดำเนินการของ กทม.พยายามหลีกเลี่ยงกฎหมายหลายฉบับ อาทิ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 รวมถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
โดยในวันอังคารที่ 15 พฤษภาคม ตนจะเดินทางยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดกับผู้บริหาร กทม.ที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนรู้เห็นในการทำสัญญา อาทิ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. โดยเป็นประเด็นที่แตกต่างกับการยื่นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการ เนื่องจากจะมีการเพิ่มข้อกล่าวหา ซึ่งจะหยิบยกกรณี กสท.ยอมให้ทรู ดำเนินการซื้อฮัทช์ เพื่อทำ 3จี ซึ่งมีการชี้มูลว่าเป็นลักษณะนิติกรรมอำพราง รวมถึงเตรียมยื่นเรื่องให้ศาลปกครองเพื่อระงับสัญญาดังกล่าว เนื่องจากพบว่ามีข้อพิรุธ และอาจได้รับผลประโยชน์จากการเซ็นต์สัญญากับเอกชนครั้งนี้
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยยังเรียกร้องให้ กทม.ตอบประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับความเร่งรีบดำเนินการทำสัญญาก่อนหมดวาระผู้ว่าฯ กทม.ในสิ้นปีนี้ โดยมีการระบุระยะเวลายาวนานถึง 30 ปี ทั้งๆ ที่ยังไม่หมดสัญญาสัมปทานเดิม นอกจากนี้ยังขอให้มีการตรวจสอบกรณีมีข่าวว่านักการเมืองระดับรัฐมนตรีได้รับผลประโยชน์ร้อยละ 10 จากโครงการเซ็นต์สัญญารถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ เพราะจากการตรวจสอบพบว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีรัฐมนตรีที่รับผิดชอบมาจากพรรคภูมิใจไทย
นายจิรายุยังกล่าวถึงการที่ ส.ส.พรรคประชาธิปปัตย์แจ้งความดำเนินคดีต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในคดีผังล้มเจ้า ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการทำงานของดีเอสไอ รวมถึงไม่เคยเร่งรัดในการสอบสวนโดยปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ขณะเดียวกันเชื่อว่าหากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลเชื่อว่านายธาริตคงไม่ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมี ส.ส.เพื่อไทยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศจีน ยืนยันว่าจะไม่มี ส.ส.เดินทางไปพบอดีตนายกฯ อย่างแน่นอนเพราะทุกคนรู้ดีว่าติดสมัยการประชุมที่มีความสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านจะออกมากล่าวหารัฐบาลว่ามีการรวบรัดในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ แต่ทางพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่ากระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
ทั้งนี้ เชื่อว่าในสัปดาห์หน้าการพิจารณาวาระ 2 จะแล้วเสร็จ เรียกร้องพรรคประชาธิปปัตย์ยุติการเล่มเกมการเมืองนอกสภาแต่หากมีข้าเสนอที่ดี ทางพรรคพร้อมที่จะรับฟังเพื่อนำมาพัฒนาประเทศให้ก้าวผ่านความขัดแย้ง
นายจิรายุยังกล่าวถึงความขัดแย้งของ นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย และนายจตุพร พรหมพันธ์ ล่าสุดทั้งสองได้มีการปรับความเข้าใจเป็นที่เรียบร้อย โดยมีนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล และพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นผู้ประสาน
ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังจากนี้จะไม่เกิดความขัดแย้งภายในพรรคอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน ทางพรรคจะเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงเพื่อช่วยผู้สมัครหาเสียง โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ ในพื้นที่ จ.อุดรธานี้ เพื่อช่วยนายวิเชียร ขาวขำ หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ยืนยันว่าจะทำอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ทางพรรคเพื่อไทยได้เรียกประชุมสมาชิคพรรคเพื่อกำหนดแนวทางของพรรคและชี้แจงถึงการประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญ