xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

กูไม่กลัวมึง ! เสื้อแดงวัดรอยเท้าเพื่อไทย เลือกตั้งท้องถิ่นระอุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิเชียร ขาวขำ ที่ตัดสินใจลาออกจาก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย เพื่อลงสมัครนายกฯ อบจ.จังหวัดอุดรธานีที่เกิดปัญหาอย่างหนัก
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ดุเดือดเลือดพล่านกันไปทั้งพรรคเพื่อไทย ในศึกแย่งกันใหญ่ปะทุขึ้นหลายพื้นที่ กรณีจัดคนลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในจังหวัดต่างๆ ที่มาถึงตอนนี้กลายเป็นสงครามย่อยๆในพรรคเพื่อไทยกันในหลายพื้นที่ ระหว่างคนเสื้อแดงกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่แย่งกันใหญ่ต่างก็ต้องการส่งคนของตัวเองลงสมัคร จนเหยียบแข้งเหยียบขากันวุ่นวาย

งานนี้เรียกว่าทำเอา นช.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงเสียงจริง ต้องปวดเศียรเวียนเกล้าไม่น้อย และหากจะไล่เรียงไปแต่ละจังหวัดแล้วก็จะเห็นความขัดแย้งกันอย่างชัดเจนเลยทีเดียว

ทั้งนี้ ศึกแย่งชามข้าวสดๆร้อนๆ หนีไม่พ้นจังหวัดอุดรธานี ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดงและส.ส.พรรคเพื่อไทย อีกที่หนึ่ง ก็ดุเดือดไม่แพ้จังหวัดใดเช่นกัน เพราะแรกเริ่มเดิมทีทางพรรคเพื่อไทยได้มีมติให้ นายประสพ บุษราคัม อดีต ส.ส.และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงเลือกตั้งในตำแหน่ง อบจ.อุดรธานี แต่ภายหลังก็ได้สละสิทธิ์ด้วยเหตุผลในเรื่องของปัญหาสุขภาพ

และทันทีทันใดที่ "ประสพ" ประกาศถอนตัว ความร้อนแรงภายในพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงแกนนำคนเสื้อแดงก็เริ่มเปิดฉากแย่งเก้าอี้นายก อบจ.กันยกใหญ่ บ้างก็จะขอส่งทายาททั้งลูกสาว-ลูกชาย ลงสมัครชิงชัย โดยเฉพาะระหว่าง นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ อดีต รมช.คมนาคม ในรัฐบาล ปู 1 ที่ต้องการส่งโอปอล์ หัตถสงเคราะห์ ลูกสาวมาลงแทน เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยที่อยากให้ลูกของตัวเองลงสมัครเช่นกัน ทำให้ ส.ส.อุดรธานี ต้องโทรต่อสายเคลียร์ใจกับนายใหญ่กันจ้าละหวั่น เพราะต่างก็มีสัญญาใจกันไปเป็นที่เรียบร้อย ตอนยกขบวนแห่กันไปหา นช.ทักษิณ ที่กัมพูชา ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา

จนในที่สุดแล้วพรรคเพื่อไทย ก็ได้ตัดไฟก่อนต้นลมก่อนที่จะศึกแย่งชามข้าวจะบานปลายไปมากกว่านี้ ด้วยการหักลำเปลี่ยนตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งอบจ. อุดรธานี โดยมีมติส่งนายวิเชียร ขาวขำส.ส.บัญชีรายชื่อ พท. ลงสมัครรับเลือกตั้งแทนนายประสพ บุษราคัม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีต ส.ส.อุดรธานี

ว่ากันว่า นายขวัญชัย ได้โยนชื่อของนายวิเชียร เพื่อหยั่งกระแสตอบรับของคนเสื้อแดง ผ่านทางคลื่นวิทยุชุมชนคนรักอุดร ซึ่งเสียงตอบรับที่ออกมานั้น คนเสื้อแดงขานรับเกือบ 100 % นายขวัญชัย จึงได้แจ้งให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยทราบทันที จากนั้นนายยงยุทธ จึงได้นำเรื่องแจ้งให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ส.ส.อุดรธานี ของพรรคเพื่อไทยทุกคน ทราบ จนในที่สุดพรรคจึงได้มีมติส่งนายวิเชียร ลงสมัคร

ยิ่งเมื่อไปฟังตาอยู่อย่างนายวิเชียรให้สัมภาษณ์ด้วยแล้วก็ยิ่งจะเห็นรอยร้าวของส.ส.พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงชัดเจน

"ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ คนเสื้อแดงในจังหวัดแตกกัน 3 กลุ่ม ผู้ใหญ่ในพรรคจึงโทร.มาหาให้ลงสมัครเป็นนายกฯ อบจ. โดยระบุว่า ถ้าลาออกจาก สส.ก็ไม่ต้องมีเลือกตั้งซ่อมเพราะเป็น สส.บัญชีรายชื่อซึ่งความจริงอยากทำงานในสภามากกว่าอย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคเพื่อไทยนัดพูดคุยเพื่อหาบทสรุป"

ขณะเดียวกัน ข้ามฝากไปที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งก็ถือว่าเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ภายหลังจากที่พรรคเพื่อไทยและเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดง จ.เชียงราย พ่ายแพ้การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงราย สูญเสียฐานการเมืองส่วนท้องถิ่นให้กับผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ก็ดูเหมือนจะเป็นหนังม้วนเดียวกับ จังหวัดอุดรธานี กลายๆ เลยทีเดียว เพราะก็เกิดปรากฏการณ์แดงแตก ต่างก็ส่งคนของตัวเองลงทับกันเองกันจ้าละหวั่นไม่แพ้กัน

สำหรับบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงราย ที่จะมีการเลือกตั้งวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ในฟากของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงที่จะลงชิงชัยกันเอง มีทั้งสิ้น 4 คนได้แก่ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เบอร์ 1 นางสลักจฤฎดิ์ (สลักจิต)ติยะไพรัช ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัชเบอร์ 2 นางรัตนา จงสุทธนามณี อดีตนายกอบจ.เชียงราย ภรรยานายวันชัย จงสุทธนามณีว่าที่นายกเทศมนตรีนครเชียงราย เบอร์ 3 น.ส.พนิดา (บัวซอน) มะโนธรรม แกนนำเสื้อแดงเชียงราย กลุ่มเชียงรายตะวันแดงกระตุ้นเศรษฐกิจ และเบอร์ 4 นายสฤษฎิ์ อึ้งอภินันท์ อดีต ส.ส.เชียงราย พท. ต่างลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างคึกคัก

ส่วนร่องรอยความขัดแย้งก็ใช่ว่าจะไม่มีเสียทีเดียว เพราะปรากฏว่า ในส่วนของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ภรรยา ยงยุทธ ติยะไพรัช ที่สมัครเป็นนายก อบจ.นั้น ได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงถึงขั้นที่ว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ลงไปร่วมหาเสียง แต่ก็ต้องมาขัดแย้งกับกลุ่มนาย สฤษฏ์ อึ้งอภินันท์ คู่แข่งอดีต ส.ส.เชียงราย พรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน ซึ่งใช้ชื่อกลุ่มว่า “เพื่อไทยเชียงราย” และอ้างว่าได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนเสื้อแดงเช่นเดียวกัน เรียกว่างานนี้ทำเอาคนเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเลือกไม่ถูกเช่นกันว่าจะเอาใครดี

เพราะปรากฏว่า ยงยุทธ ติยะไพรัช ก็ได้เดินเกม สั่ง ส.ส.เชียงรายทั้งจังหวัดให้หนุน "นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช" ภรรยาตัวเอง ลงแข่งกับ นางรัตนา จงสุทธนามณี แชมป์เก่า แต่ปรากฏว่า สฤษดิ์ อึ้งอภินันท์ อดีต ส.ส.เชียงราย ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย ก็ลงแข่งขันด้วย

ฝ่าย ยุทธตู้เย็น และ ส.ส.เชียงรายเพื่อไทยทั้งจังหวัดจะเชื่อว่าคู่แข่งขันของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช คือ นางรัตนา หาใช่ สฤษดิ์ อึ้งอภินันท์ แต่การที่คนของเพื่อไทยแตกคอกันเองแบบนี้แถมมีกระแสข่าวว่าแดงเชียงรายบางส่วนก็ไม่พอใจในตัวยงยุทธ ที่ตัดสินใจทุกอย่างโดยไม่หารือกับเสื้อแดงเชียงรายเลย ทุกอย่างอ้างแต่ว่าทักษิณสนับสนุนและ ส.ส.เชียงราย เพื่อไทยมีมติออกมาแล้ว ก็ทำให้เสื้อแดงเชียงรายบางส่วนก็ไม่พอใจเช่นกัน

ขณะเดียวกันไม่หมดแค่นั้น สำหรับกรณีแดงชนเพื่อไทยเพราะที่จังหวัดลำปาง ก็น่าสนใจเมื่อ สุนี สมมี อดีตนาก อบจ. 2 สมัย ได้รับการสนับสนุนจาก ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร และกลุ่ม ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทยลงป้องกันแชมป์ แต่ผู้ท้าชิงก็ไม่ธรรมดา คือนายดาชัย อุชุโกศลการ อดีต ส.อบจ. ซึ่งเป็นแกนนำคนเสื้อแดง และเป็นรองประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงฯ

นอกจากนี้ที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งดุเดือดไม่น้อยเช่นกัน เพราะก็ยังเป็นการชิงชัยกันของสองตระกูลใหญ่ จ.สุรินทร์คือ นายธงชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ สมัยที่ผ่านมา กับ นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ แถมด้วยรอบนี้ก็ยังมีตัวสอดแทรกอย่าง ธีรสิทธิ์ แก้วขาว แกนนำเสื้อแดงสุรินทร์ ที่ฝ่ายเสื้อแดงและ ส.ส.สุรินทร์ เพื่อไทยหนุนหลังอยู่

อย่างไรก็ดี มาถึงตรงนี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า ศึกลงสมัครนายกอบจ. หรือตัวแทนลงเลือกตั้งในตำแหน่งต่างๆ ได้ทำให้พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง แทบจะกลายเป็นศึกชนกันเองไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนชินวัตรแล้ว ความอิหลักอิเหลื่อในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่าง "พรรคเพื่อไทย" กับ "คนเสื้อแดง" นับวันจะมีปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ หากพรรคบริหารจัดการไม่ดี อาจถึงขั้นแยกทางกันเดินกันเลยทีเดียว เพราะว่ากันว่าคนเสื้อแดงบางกลุ่มทนไม่ไหวที่จะต้องอยู่ใต้ร่มเงาของพรรคเพื่อไทย มีแนวคิดตั้ง "พรรคคนเสื้อแดง" ขึ้นมาแล้ว เหตุผลหลักก็คือต่างฝ่ายต่างก็คิดว่ามีมวลชนเป็นของตัวเอง ฉะนั้นในสถานการณ์เช่นนี้จึงทำให้กลุ่มคนเหล่านี้จึงพากันออกฤทธิ์ ด้วยการลุกขึ้นมาต่อรองแสดงอำนาจของตนเอง

ปัญหาการช่วงชิงอำนาจในสถานการณ์ที่เสื้อแดงอยากใหญ่โต และเข้ามาวัดรอยเท้ากับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้บานปลายซึ่งเรื่องนี้คนที่รู้ดีก็ไม่พ้นขาใหญ่ในพรรคเพื่อไทย ก็ทราบดีจึงได้แก้เกมโดยการเสนอให้ ส.ส.แต่ละจังหวัดสร้างระบบไพรมารีโหวตเพื่อคัดเลือกผู้สมัครนายก อบจ. นัยว่าเอาใจเสื้อแดง เพราะเปิดกว้างรับฟังเสียงจากข้างล่างคือเสื้อแดง มากกว่าใช้อำนาจของพรรค แต่ในความเป็นจริงเชื่อขนมกินได้เลยว่านั้นก็เป็นแค่หลักการให้ดูขึงขังเพียงแค่นั้น เพราะความเป็นจริงสิ่งที่จะการันตีได้ดีที่สุดก็คือ ยันต์กันเหนียวของ นช.ทักษิณ เพียงคนเดียว

และที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้ก็คือ หลังจากนี้ นช.ทักษิณ จะจัดการอย่างไรกับคู่ขัดแย้งที่เป็นลูกหม้อพรรคเพื่อไทยและเหล่าแกนนำเสื้อแดงจังหวัดต่างๆ บนท่ามกลางการแบ่งสรรผลประโยชน์ให้ครบทุกฝ่าย ซึ่งคงต้องบอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะต่างคนก็ไม่มีใครยอมใคร และหากปล่อยเป็นเช่นนี้ต่อไปจากสองขาที่เคยร่วมกันตี ตอนนี้กลายเป็นลงสมัครตัดคะแนนเสียงกันเอง จนปล่อยให้คู่แข่งอย่างพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ คว้าชิ้นปลามันไปครองอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และหากยังปล่อยให้ศึกแย่งกันใหญ่ระอุต่อไปเรื่อยๆ เช่นนี้แล้ว ... ระวังจะแพ้ทั้งแผ่นดินไม่รู้ตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น