xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาณ “แดงทาแผ่นดิน” กระหึ่มแล้ว?!

เผยแพร่:   โดย: ปิยะโชติ อินทรนิวาส

ศพของนายอำพล ตั้งนพกุล หรือ “อากง” กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือระดมมวลชนคนเสื้อแดงอย่างทรงประสิทธิภาพ ซึ่งทำไปเพื่อให้เป้าหมายที่จะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินของระบอบทักษิณ เพื่อบิดเบือนและกลบเกลื่อนการบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาลปูนิ่ม เพื่อผลประโยชน์ของพลพรรคเพื่อไทยบางกลุ่ม หรือเพื่อการไต่เต้าทางการเมืองของขุนพลคนเสื้อแดงบางก๊วน หรือไม่ก็ตาม

ทั้งหมดทั้งปวงนั้นไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่ากับภาพที่สังคมไทยกำลังถูกนำพาไปสู่การเกิดขึ้นของปรากฏการณ์ “แดงทั้งแผ่นดิน” ระลอกใหม่

ส่วนจะกลายเป็น “แดงทาแผ่นดิน” ตามที่มีคนต้องการให้เกิดขึ้น แล้วคนจำนวนมากก็เชื่อเช่นนั้นด้วยหรือไม่ คงต้องจับตาใกล้ชิดกันต่อไป

เวลานี้ดาหน้ากันออกมาปลุกเร้าและสร้างกระแสกันอย่างคึกคักแล้ว สำหรับขุนนางวิชาการและนักเคลื่อนไหวเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นายเกษียร เตชะพีระ นายสุรชัย (แซ่ด่าน) ด่านวัฒนานุสรณ์ นายจักรภพ เพ็ญแข ฯลฯ

และคนพวกนี้ก็ไม่ลืมที่จะตีกระทบชิงแบบโยนผิดไปให้ “ม. 112” อันเป็นเป้าที่ค้างคาอยู่ในใจของพวกเขามาเนิ่นนาน

อันที่จริงถ้าจะหาสาเหตุว่าทำไมอากงถึงต้องเข้าไปตายในคุก หากสาวไปให้ถึงต้นตอก็ไม่ใช่ฝีมือใครที่ไหน ตัวอากงเองนั่นแหละที่ตัวการใหญ่

หรือถ้ารับไม่ได้อยากจะโบ้ยบ้ายไปให้กับอะไรๆ ที่เกี่ยวข้องรอบๆ ตัวอากง ต้องบอบว่าระบบของกรมราชทัณฑ์หรือของกระทรวงยุติธรรมเป็นตัวการถึงจะถูกต้อง แล้วผู้รับผิดชอบดูแลก็คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม คนที่ระบอบทักษิณส่งมานั่นเอง

หรือถ้าจะเอาให้เหนือขึ้นไปกว่านั้น ความรับผิดชอบก็ควรต้องตกอยู่กับผู้นำการบริหารประเทศชาติ ซึ่งก็ใช่ใครที่ไหนคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวของนักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ถูกจับเชิดให้นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั่นล่ะจึงถูกต้องที่สุด

ผมมองว่าปรากฏการณ์แห่ศพอากงปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดงเวลานี้ เป็นเพียงหนึ่งในหลากหลายปรากฏการณ์ที่จะหนุนช่วยให้ระบอบทักษิณเดินไปสู่สิ่งที่ตั้งใจหมายไว้นั่นเอง

และหากนำไปจิ๊กซอว์ต่อภาพกับปรากฏการณ์อื่นๆ ก็จะพบว่า มีความพยายามปลุกเร้าให้กระบวนการต่างๆ เดินหน้าไปให้ถึงจุดไคลแมกซ์ในอัตราเร่ง ซึ่งผู้กำกับอยู่ข้างหลังไม่ต้องคาดเดาให้เสียเวลาหรอก เพราะรับรู้กันอยู่แล้วว่าคือ สัมภเวสีหนีคุกทักษิณ ชินวัตร อีกนั่นแหละ

ระบอบทักษิณเร่งเร้าสร้างปรากฏการณ์ต่างๆ มาตลอดเวลา แต่ห้วงนี้กลับดูจะโหมหนักหน่วงเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการให้สมุนสร้างความปั่นป่วนทางการเมือง ปล่อยปละละเลยให้มีการคอร์รัปชันโกงกิน ออกมาตรการเอื้อทุนสามานย์ยึดประเทศ ใช้เพื่อนบ้านเป็นฐานโจมตีไทย สนับสนุนให้เขมรได้ชนะคดีแย่งชิงเขาพระวิหาร

หรือที่กำลังเอาไฟจี้ก้นพวกข้าทาสบริวารอยู่อย่างขะมักเขม้นก็คือ การให้บริวารว่านเครือในสภาฯ เร่งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ออกกฎหมายปรองดอง และออกกฎหมายนิรโทษกรรม รวมถึงการใช้น้ำมันแทนน้ำไปราดดับไฟใต้

โดยเฉพาะการเตรียมที่จะปรับ ครม.ให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำไพร่แดงได้แปลงร่างเป็นอำมาตย์ ให้คางคกได้ขึ้นวอสวมบทบาทเป็นสิงห์ในตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากหยามหัวใจคนไทยด้วยการตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็น รมช.เกษตรฯ ไปแล้ว

พิจารณาจากรูปแบบการขับเคลื่อนในทุกๆ ด้านของของระบอบทักษิณห้วงขณะนี้ ผมไม่เห็นว่ามีรูปแบบอะไรที่แปลกใหม่ เพราะยังคงใช้วิชามารที่อยู่ในตำราคร่ำครึ เน้นเกมการเมืองน้ำเน่าในระบบแบบเดิมๆ ตัวละครที่ใช้พวกเสื้อ สิงห์ กระทิง แรด ในสภาฯ ก็ชุดเก่าๆ ที่ดูจะใหม่อยู่บ้างก็เพราะมีเงื่อนไขให้ต้องไปกว้านเอาเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานมาใช้งานแทนชั่วคราว

เพียงแต่ที่ไม่เหมือนการขับเคลื่อนครั้งก่อนๆ ก็ตรงที่เที่ยวนี้ดูเหมือนจะทุ่มเททุกสรรพกำลังลงไปแบบจัดหนัก หรือต้องการที่จะม้วนเดียวจบ ซึ่งอาการเร่งรีบเดินหน้าในด้านต่างๆ ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดและผู้คนก็ได้เห็นกันทั่วทั้งในและนอกสภาฯ

และไม่เพียงเท่านั้น เรื่องสถาบันที่จะทำให้สังคมไทยเกิดการแตกหัก จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้ สิ่งนั้นก็ไม่ละเลยที่จะหยิบนำมาใช้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังด้วย

จนเป็นที่คาดการณ์กันว่า อีกไม่นานจะเกิดปรากฏการณ์ “แดงทั้งแผ่นดิน” ขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงตามมาด้วยปรากฏการณ์ “แดงทาแผ่นดิน” อันเป็นเหมือนจุดไคลแมกซ์ของความเปลี่ยนแปลงที่ต้องการให้เกิดขึ้น

ผมเองก็เห็นสอดรับว่า เป็นไปได้ที่ระบอบทักษิณจะนำพาสังคมไทยไปสู่การเกิดภาวะมิคสัญญีในอีกไม่นานนัก เพราะปรากฏการณ์ทั้งหมดทั้งปวงที่ระบอบทักษิณสร้างขึ้น มันไม่ต่างอะไรจากการส่ง “สัญญาณ” ให้ผู้คนได้รับรู้รับทราบมาต่อเนื่อง

สังคมไทยทนทุกข์กับนานาวิกฤตที่ทั้งระบอบทักษิณก่อขึ้นเอง รวมถึงรับมรดกบาปมาดำเนินการต่อนานมากแล้ว ถ้าเปรียบเป็นแผลก็กลัดหนองสร้างความเจ็บปวดระบมไปทั่วเรือนร่าง อยากให้แตกเพื่อระบายความช้ำเลือดช้ำหนองออกไปบ้าง แต่ที่ผ่านๆ มาก็ไม่เคยเกิดขึ้นสักที

ผมว่าเวลานี้แผลกลัดหนองน่าจะใกล้แตกอยู่รอมร่อแล้ว จึงได้แต่ภาวนาว่า “แดงทั้งแผ่นดิน” ที่เคยเป็นแค่สัญลักษณ์อย่าได้พัฒนาไปสู่ ”แดงทาแผ่นดิน” แบบที่เนืองนองไปด้วยเลือดเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น