ASTVผู้จัดการรายวัน -ทุกหน่วยงานรับใบสั่ง”ปู”ลดค่าครองชีพประชาชน กบง.คงอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯทุกประเภท แถมค่าเอฟทีที่คาดว่าจะลดลงจากแผนเดิม “ครม.”เบรกขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน หวั่นเป็นประเด็นถูกโจมตีเพิ่มแพงทั้งแผ่นดิน ปูสั่งกระทรวงพาณิชย์ทำกราฟแจงราคาสินค้า โยนกระทรวงเกษตรฯทำโครงการ"ถูกทั้งแผ่นดิน" "พาณิชย์"สั่งตรึงราคาสินค้า 4เดือน ส่วนประชาธิปัตย์ อัด"ยรรยง"ไม่ได้ยืนข้างประชาชน แนะให้ลาออกจากราชการไปใส่เสื้อแดง
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.)วันที่ 8 พ.ค. ว่า ที่ประชุมมีมติให้คงอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของเบนซิน95/91 อยู่ที่ 4 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์95 ที่ 2.20 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 0.60 บาทต่อลิตร ดีเซล 0.60 บาทต่อลิตร และคงอัตราราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) และ LPGภาคขนส่งที่ 21.83 บาทต่อกก. เป็นเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นวันที่ 15 ส.ค.55จึงจะมาพิจารณาแนวทางดำเนินการอีกครั้ง ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน
“จะนำผลดังกล่าวเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติหรือกพช.สัปดาห์หน้าเห็นชอบเนื่องจากที่ผ่านมาการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯและขึ้นราคาNGV เดือนละ 50 สตางค์ต่อกก.และLPG 75 สตางค์ต่อกก.เป็นไปตามมติกพช.จนถึงสิ้นปีโดยจะมีผลทุก ๆวันที่ 16 ของเดือน โดยส่วนของNGVนั้นยอมรับว่าส่วนหนึ่งจะต้องรอผลการศึกษาการศึกษาทบทวนต้นทุนให้แล้วเสร็จด้วยจึงทำให้ควรชะลอการขึ้นไปก่อนและเมื่อชะลอ NGV ก็ต้องชะลอ LGP ด้วยเพราะราคา 2 ส่วนนี้จะต้องไปด้วยกันซึ่งผลครั้งนี้จะทำให้ราคาพลังงานไม่ปรับขึ้นแต่กรณีน้ำมันยังคงเป็นไปตามกลไกตลาดโลก”นายอารักษ์กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เชิญตัวแทนจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือเรกูเลเตอร์มาหารือถึงแนวทางที่จะพิจารณาว่าจะทำอย่างไรส่วนของค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ เอฟทีที่จะเก็บกับประชาชนไม่สร้างภาระมากนักซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีที่ค่าเอฟทีจะไม่สูงถึง 30 สตางค์ต่อหน่วย
ถกค่าไฟขึ้นต่ำกว่า30สต./หน่วย10พ.ค.
นายดิเรก ลาวัลย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์) กล่าวว่า วันที่ 10 พ.ค. 55 เรกูเลอตร์จะได้พิจารณาแนวทางการเรียกเก็บค่าเอฟทีรอบใหม่(พ.ค.-ส.ค. 55) อีกครั้งหลังจากที่ได้มีความเห็นที่จะปรับเอฟที 30 สตางค์ต่อหน่วยไปแล้วและอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นซึ่งยอมรับว่ามีผู้เข้ามาให้ความเห็นกว่า 400 รายและมากถึง 60%ที่แสดงความเห็นคัดค้านการปรับขึ้นค่าเอฟทีดังกล่าว
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ยังไม่มีการพิจารณาการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายเฉลิมรัชมงคล (หัวลำโพง-บางซื่อ) เนื่องจากเห็นว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นว่าจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนในขณะนี้ที่ยังมีผลกระทบจากราคาสินค้าแพงและอาจทำให้รัฐบาลถูกโจมตีมากขึ้น
ทั้งนี้ ตามสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าใต้ดินจะมีการปรับค่าโดยสารทุกๆ 2 ปีเริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. 2545 ที่อัตรา 14-36 บาท โดยนำดัชนีผู้บริโภค (CPI) เป็นฐานในการคำนวน ซึ่งในครั้งนี้จะใช้ CPI เดือนก.ย. 2554 หารด้วย CPI เดือนก.ค. 2544 แล้วจะต้องปรับค่าโดยสารขึ้นเฉลี่ย 1 บาท ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บที่ 15-40 บาท จะปรับเป็น 16-40บาท โดยเมื่อคำนวณทั้ง 17 สถานี พบว่ามี 6 สถานีที่จะปรับค่าโดยสารขึ้น 1 บาทอีก 11 สถานีใช้อัตราเดิม โดยสถานีที่ 12-17 (สุขุมวิท-หัวลำโพง) ค่าโดยสารยังคง 40 บาทเท่าเดิม
นายจารุพงศ์ กล่าวว่า แนวทางในการเจรจากับ BMCL เช่น ขอเลื่อนการปรับค่าโดยสารออกไปก่อนประมาณ 2-3 เดือน หรือหากเป็นไปได้ก็อาจจะขอถึง 6 เดือนเพื่อให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน แต่หาก BMCLไม่ยอม เพราะอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องผิดสัญญา และอาจจะฟ้องร้องได้ อาจจะต้องพิจารณาว่า 1 บาท ที่จะปรับขึ้นนั้นรัฐบาลจะเข้ามาชดเชยได้หรือไม่ มีระเบียบรองรับให้สามารถทำได้หรือไม่เพราะจะต้องนำภาษีมาใช้ ซึ่งเรื่องนี้นายกฯ กังวลว่าอาจจะถูกโจมตีได้อีก
ในส่วนของกระทรวงคมนาคมยังมีเวลาพิจารณาจนถึงวันที่ 20 พ.ค. นี้ เนื่องจากตามสัญญาสัมปทานกำหนดว่าจะต้องประกาศอัตราค่าโดยสารให้ประชาชนทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งทาง BMCL จะต้องเริ่มดำเนินการในวันที่ 20 มิ.ย.ในขณะที่อัตราค่าโดยสารใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ก.ค. 2555 -2 ก.ค. 2557
ตรึงราคาสินค้า 4เดือน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือผุ้ประกอบการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค กำหนดระยะเวลา 4 เดือน หากผู้ผลิตไม่ให้ความร่วมมือ และยังมีการปรับขึ้นราคา จะเสนอให้คณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พิจารณาเป็นสินค้าควบคุมทันที
รวมทั้งจะจัดโครงการธงฟ้าให้ถี่ขึ้น โดยจะเริ่มทันทีวันศุกร์-อาทิตย์นี้ ในกรุงเทพฯ 10 เขต และจะจัดให้ครบทุกเขตก่อนสิ้นเดือนพ.ค. ส่วนการแก้ปัญหาอาหารปรุงสำเร็จราคาแพง จะจัดหาสถานที่เพื่อนำสินค้าอาหารไปจำหน่าย ส่วนในต่างจังหวัดให้ใช้ศาลากลางจังหวัด และจะขอใช้พื้นที่ใต้ทางด่วน เพื่อนำสินค้าอาหารเมนูละไม่เกิน 30 บาท ไปจำหน่ายให้กับประชาชน มีระยะเวลาดำเนินการ 2 เดือน
นอกจากนี้ กำลังจะพิจารณาเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พิจารณานำสินค้าอาหารปรุงสำเร็จขึ้นเป็นสินค้าควบคุม
"ปู"สั่งพาณิชย์ทำกราฟแจงราคาสินค้า
นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า จากการที่รัฐมนตรีลงพื้นที่ พบว่ามีบางอย่างแพงขึ้น บางอย่างถูกลง ให้นำมาวิเคราะห์ว่ามาจากสาเหตุใด เช่น ราคาไข่ไก่ จากนั้นให้กระทรวงพาณิชย์ ทำสถิติให้ดู ว่าราคาสินค้าที่แพงที่สุดควรจะอยู่เท่าใด เพื่อเป็นฐานให้รัฐมนตรีที่จะลงพื้นที่ชี้แจงกับประชาชนต่อไป หรือทำเป็นกราฟ แสดงราคาว่า ปีนี้ราคาเท่าไร ปีที่ผ่านมาราคาเท่าไร เพื่อเปรียบเทียบให้เห็น ถ้าเกินจากนี้ ก็ถือว่าสูงเกินไป ก็ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ หาวิธีทำให้ราคาสินค้าถูกลง และสั่งรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า
ส่วนข้อเสนอของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ เรื่องถูกทั้งแผ่นดินนั้น นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า นายกฯได้มอบให้กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ ไปทำเรื่องสหกรณ์ เพราะระบบสหกรณ์ สามารถซื้อมาจำนวนมาก และขายถูกลง ทำให้ควบคุมราคาสินค้าได้ โดยอาจจะนำมาขายเป็นสินค้าราคาถูก ส่วนจะทำควบคู่กับร้าน “ถูกใจ” หรือไม่ ก็ให้ไปคุยกัน ส่วนคมนาคม ให้มาดูเรื่องการขนส่งสินค้า ว่าทำให้ราคาแพงขึ้นหรือไม่เช่น เงาะที่ จ.ระยอง 4 ก.ก.100 บาท ส่วนที่ตลาดโคราช ราคา กก.ละ 30 บาท โดยราคาที่ขึ้นเกี่ยวกับค่าขนส่ง และคัดลูกที่เสียออก ฟังดูมีเหตุผล ซึ่งขึ้นมา 5 บาท พาณิชย์จังหวัด ก็บอกว่าเหมาะสม
ปชป.ยันไม่ได้มั่วข้อมูลของแพง
นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรมช.คลัง เงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยืนยันว่า ข้อมูลที่ตนนำมาแถลงเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น เป็นดัชนีที่ทางพรรคทำมา โดยทำขึ้นจากข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่เปิดเผยได้ ใช้วิธีการคำนวณอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งข้อมูลที่นำมานั้น นำมาจาก 2 ตลาด คือ
1. ตลาดไท (ขายส่ง) มีสินค้าทั้งสิ้น 80 รายการ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยตามเว็บไซต์ของตลาดไท ซึ่งสิ่งที่ตนนำมานั้นไม่มีการยกเว้นสินค้าตัวใด ไม่มีการเลือกแต่สินค้าราคาแพง หรือราคาถูกมาพูด และได้นำราคาสินค้าในเดือนเม.ย.55 เปรียบเทียบกับเดือนเม.ย. 54 โดยคิดส่วนต่างเป็นเปอร์เซ็นต์ และนำราคาส่วนต่างทั้ง 80 รายการ มาเฉลี่ย
2. ตลาดยิ่งเจริญ (ขายปลีก) มีสินค้ารวมทั้งสิ้น 53 รายการ ไม่มีการยกเว้นสินค้าราคาแพง หรือสินค้าราคาถูก ใช้ข้อมูลจากวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา เทียบกับวันที่ 5 พ.ค. 54 โดยใช้วิธีการคำนวณเช่นเดียวกันกับข้างต้น
นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ก็ยอมรับว่าราคาสินค้าบางตัวแพง แต่ยังไม่ยอมรับทั้งหมด สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องมาตลอดคือ 1. รัฐบาลต้องยอมรับความจริงเสียก่อนว่าของแพง 2. มาตรการแก้ไข ซึ่งมาตรการที่รัฐบาลออกมา อาทิ โชห่วยช่วยชาติ ร้านธงฟ้า ตนเห็นว่ามาตรการเหล่านี้ สามารถทำได้ แต่เป็นมาตรการแก้ไขในระยะสั้นเท่านั้น ทางพรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลต้นทุนพลังงาน และชดเชยค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เพราะจะทำให้ต้นทุนสินค้าถูกลง
อัด"ยรรยง"ไม่ได้ยืนอยู่ข้างประชาชน
นายชวนนท์ อินทรโกมลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้ภายหลังจากที่ นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมากล่าวหาว่า ตนแถลงข่าวบิดเบือนเรื่องราคาสินค้าว่า ตนคิดว่าวาจาของปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ทำให้เห็นความจริงหลายอย่าง คือ มีความชัดเจนว่าปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวตนชัดเจนว่า เลือกที่จะอยู่กับรัฐบาล ไม่ได้อยู่กับประชาชน แต่เลือกที่จะตอบโต้ฝ่ายค้าน หรือผู้ที่พยายามที่จะตรวจสอบด้วยคำพูดที่รุนแรง ขาดวุฒิภาวะ ตนไม่เคยเชื่อว่า คำพูดเหล่านี้จะออกจาปากของข้าราชการ ซึ่งสิ่งนายยรรยง ทำนั้น ทำให้ศักดิ์ศรีของข้าราชการ และความน่าเชื่อถือของกระทรวงพาณิชย์ลดลง สิ่งที่แสดงออกถึงการเลือกข้าง และแสดงออกด้วยการตอบโต้ด้วยอารมณ์ ขาดเหตุผล ทำให้ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือของสังคม
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า อยากเรียกร้องแทนข้าราชการทั้งประเทศว่า ถ้านายยรรยงจะพิจารณาตัวเอง ลาออกด้วยการถอดเสื้อสีกากีออก ไปใส่เสื้อพรรคเพื่อไทย ตนเชื่อว่าได้รับการปูนบำเหน็จแน่นอน ในการทำงานเพื่อประชาชน ตนไม่เคยโกหกบิดเบือน ข้าราชการซี 3 ซี 4 ที่ทำงานด้วยความชื่อสัตย์ สุจริต เห็นประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง ตนให้ความเคารพ และยกมือไหว้อย่างเต็มใจ แต่กับข้าราชการระดับสูงบางคน ที่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ตัวเองเป็นใหญ่ ตนไม่เคยให้ความเคารพ ไม่เคยให้ค่า
สำหรับข้อมูลที่ตนและนายสรรเสริญ แถลงเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เรื่องสินค้าอุปโภค บริโภค เรื่องถั่วฟักยาว ตนได้ซื้อมาจากตลาดบางซื่อ ในราคาก.ก.ละ 70 บาท หรือเช้าวานนี้ ( 8พ.ค.) ที่ ร้านค้าสวัสดิการกองทัพบก ตรงข้ามพรรคประชาธิปัตย์ และได้ซื้อถั่วฟักยาว กก.ละ 80 บาท เป็นข้อมูลจริงที่พิสูจน์ได้ การที่นายยรรยงท้ามานั้น ขอรับคำท้าว่า ถ้าข้อมูลที่นำมาแถลงเป็นข้อมูลเท็จ ตนพร้อมลาออกจากตำแหน่งโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าเป็นเรื่องจริง ขอให้นายยรรยง ทำเพื่อชาติและประชาชนด้วยการลาออกจากตำแหน่ง นายยรรยง พร้อมแลกกับตนหรือไม่ ให้นำข้อมูลมาตรวจสอบกันว่าใครโกหกประชาชนกันแน่
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.)วันที่ 8 พ.ค. ว่า ที่ประชุมมีมติให้คงอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของเบนซิน95/91 อยู่ที่ 4 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์95 ที่ 2.20 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 0.60 บาทต่อลิตร ดีเซล 0.60 บาทต่อลิตร และคงอัตราราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) และ LPGภาคขนส่งที่ 21.83 บาทต่อกก. เป็นเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นวันที่ 15 ส.ค.55จึงจะมาพิจารณาแนวทางดำเนินการอีกครั้ง ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน
“จะนำผลดังกล่าวเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติหรือกพช.สัปดาห์หน้าเห็นชอบเนื่องจากที่ผ่านมาการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯและขึ้นราคาNGV เดือนละ 50 สตางค์ต่อกก.และLPG 75 สตางค์ต่อกก.เป็นไปตามมติกพช.จนถึงสิ้นปีโดยจะมีผลทุก ๆวันที่ 16 ของเดือน โดยส่วนของNGVนั้นยอมรับว่าส่วนหนึ่งจะต้องรอผลการศึกษาการศึกษาทบทวนต้นทุนให้แล้วเสร็จด้วยจึงทำให้ควรชะลอการขึ้นไปก่อนและเมื่อชะลอ NGV ก็ต้องชะลอ LGP ด้วยเพราะราคา 2 ส่วนนี้จะต้องไปด้วยกันซึ่งผลครั้งนี้จะทำให้ราคาพลังงานไม่ปรับขึ้นแต่กรณีน้ำมันยังคงเป็นไปตามกลไกตลาดโลก”นายอารักษ์กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เชิญตัวแทนจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือเรกูเลเตอร์มาหารือถึงแนวทางที่จะพิจารณาว่าจะทำอย่างไรส่วนของค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ เอฟทีที่จะเก็บกับประชาชนไม่สร้างภาระมากนักซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีที่ค่าเอฟทีจะไม่สูงถึง 30 สตางค์ต่อหน่วย
ถกค่าไฟขึ้นต่ำกว่า30สต./หน่วย10พ.ค.
นายดิเรก ลาวัลย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์) กล่าวว่า วันที่ 10 พ.ค. 55 เรกูเลอตร์จะได้พิจารณาแนวทางการเรียกเก็บค่าเอฟทีรอบใหม่(พ.ค.-ส.ค. 55) อีกครั้งหลังจากที่ได้มีความเห็นที่จะปรับเอฟที 30 สตางค์ต่อหน่วยไปแล้วและอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นซึ่งยอมรับว่ามีผู้เข้ามาให้ความเห็นกว่า 400 รายและมากถึง 60%ที่แสดงความเห็นคัดค้านการปรับขึ้นค่าเอฟทีดังกล่าว
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ยังไม่มีการพิจารณาการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายเฉลิมรัชมงคล (หัวลำโพง-บางซื่อ) เนื่องจากเห็นว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นว่าจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนในขณะนี้ที่ยังมีผลกระทบจากราคาสินค้าแพงและอาจทำให้รัฐบาลถูกโจมตีมากขึ้น
ทั้งนี้ ตามสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าใต้ดินจะมีการปรับค่าโดยสารทุกๆ 2 ปีเริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. 2545 ที่อัตรา 14-36 บาท โดยนำดัชนีผู้บริโภค (CPI) เป็นฐานในการคำนวน ซึ่งในครั้งนี้จะใช้ CPI เดือนก.ย. 2554 หารด้วย CPI เดือนก.ค. 2544 แล้วจะต้องปรับค่าโดยสารขึ้นเฉลี่ย 1 บาท ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บที่ 15-40 บาท จะปรับเป็น 16-40บาท โดยเมื่อคำนวณทั้ง 17 สถานี พบว่ามี 6 สถานีที่จะปรับค่าโดยสารขึ้น 1 บาทอีก 11 สถานีใช้อัตราเดิม โดยสถานีที่ 12-17 (สุขุมวิท-หัวลำโพง) ค่าโดยสารยังคง 40 บาทเท่าเดิม
นายจารุพงศ์ กล่าวว่า แนวทางในการเจรจากับ BMCL เช่น ขอเลื่อนการปรับค่าโดยสารออกไปก่อนประมาณ 2-3 เดือน หรือหากเป็นไปได้ก็อาจจะขอถึง 6 เดือนเพื่อให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน แต่หาก BMCLไม่ยอม เพราะอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องผิดสัญญา และอาจจะฟ้องร้องได้ อาจจะต้องพิจารณาว่า 1 บาท ที่จะปรับขึ้นนั้นรัฐบาลจะเข้ามาชดเชยได้หรือไม่ มีระเบียบรองรับให้สามารถทำได้หรือไม่เพราะจะต้องนำภาษีมาใช้ ซึ่งเรื่องนี้นายกฯ กังวลว่าอาจจะถูกโจมตีได้อีก
ในส่วนของกระทรวงคมนาคมยังมีเวลาพิจารณาจนถึงวันที่ 20 พ.ค. นี้ เนื่องจากตามสัญญาสัมปทานกำหนดว่าจะต้องประกาศอัตราค่าโดยสารให้ประชาชนทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งทาง BMCL จะต้องเริ่มดำเนินการในวันที่ 20 มิ.ย.ในขณะที่อัตราค่าโดยสารใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ก.ค. 2555 -2 ก.ค. 2557
ตรึงราคาสินค้า 4เดือน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือผุ้ประกอบการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค กำหนดระยะเวลา 4 เดือน หากผู้ผลิตไม่ให้ความร่วมมือ และยังมีการปรับขึ้นราคา จะเสนอให้คณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พิจารณาเป็นสินค้าควบคุมทันที
รวมทั้งจะจัดโครงการธงฟ้าให้ถี่ขึ้น โดยจะเริ่มทันทีวันศุกร์-อาทิตย์นี้ ในกรุงเทพฯ 10 เขต และจะจัดให้ครบทุกเขตก่อนสิ้นเดือนพ.ค. ส่วนการแก้ปัญหาอาหารปรุงสำเร็จราคาแพง จะจัดหาสถานที่เพื่อนำสินค้าอาหารไปจำหน่าย ส่วนในต่างจังหวัดให้ใช้ศาลากลางจังหวัด และจะขอใช้พื้นที่ใต้ทางด่วน เพื่อนำสินค้าอาหารเมนูละไม่เกิน 30 บาท ไปจำหน่ายให้กับประชาชน มีระยะเวลาดำเนินการ 2 เดือน
นอกจากนี้ กำลังจะพิจารณาเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พิจารณานำสินค้าอาหารปรุงสำเร็จขึ้นเป็นสินค้าควบคุม
"ปู"สั่งพาณิชย์ทำกราฟแจงราคาสินค้า
นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า จากการที่รัฐมนตรีลงพื้นที่ พบว่ามีบางอย่างแพงขึ้น บางอย่างถูกลง ให้นำมาวิเคราะห์ว่ามาจากสาเหตุใด เช่น ราคาไข่ไก่ จากนั้นให้กระทรวงพาณิชย์ ทำสถิติให้ดู ว่าราคาสินค้าที่แพงที่สุดควรจะอยู่เท่าใด เพื่อเป็นฐานให้รัฐมนตรีที่จะลงพื้นที่ชี้แจงกับประชาชนต่อไป หรือทำเป็นกราฟ แสดงราคาว่า ปีนี้ราคาเท่าไร ปีที่ผ่านมาราคาเท่าไร เพื่อเปรียบเทียบให้เห็น ถ้าเกินจากนี้ ก็ถือว่าสูงเกินไป ก็ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ หาวิธีทำให้ราคาสินค้าถูกลง และสั่งรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า
ส่วนข้อเสนอของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ เรื่องถูกทั้งแผ่นดินนั้น นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า นายกฯได้มอบให้กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ ไปทำเรื่องสหกรณ์ เพราะระบบสหกรณ์ สามารถซื้อมาจำนวนมาก และขายถูกลง ทำให้ควบคุมราคาสินค้าได้ โดยอาจจะนำมาขายเป็นสินค้าราคาถูก ส่วนจะทำควบคู่กับร้าน “ถูกใจ” หรือไม่ ก็ให้ไปคุยกัน ส่วนคมนาคม ให้มาดูเรื่องการขนส่งสินค้า ว่าทำให้ราคาแพงขึ้นหรือไม่เช่น เงาะที่ จ.ระยอง 4 ก.ก.100 บาท ส่วนที่ตลาดโคราช ราคา กก.ละ 30 บาท โดยราคาที่ขึ้นเกี่ยวกับค่าขนส่ง และคัดลูกที่เสียออก ฟังดูมีเหตุผล ซึ่งขึ้นมา 5 บาท พาณิชย์จังหวัด ก็บอกว่าเหมาะสม
ปชป.ยันไม่ได้มั่วข้อมูลของแพง
นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรมช.คลัง เงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยืนยันว่า ข้อมูลที่ตนนำมาแถลงเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น เป็นดัชนีที่ทางพรรคทำมา โดยทำขึ้นจากข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่เปิดเผยได้ ใช้วิธีการคำนวณอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งข้อมูลที่นำมานั้น นำมาจาก 2 ตลาด คือ
1. ตลาดไท (ขายส่ง) มีสินค้าทั้งสิ้น 80 รายการ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยตามเว็บไซต์ของตลาดไท ซึ่งสิ่งที่ตนนำมานั้นไม่มีการยกเว้นสินค้าตัวใด ไม่มีการเลือกแต่สินค้าราคาแพง หรือราคาถูกมาพูด และได้นำราคาสินค้าในเดือนเม.ย.55 เปรียบเทียบกับเดือนเม.ย. 54 โดยคิดส่วนต่างเป็นเปอร์เซ็นต์ และนำราคาส่วนต่างทั้ง 80 รายการ มาเฉลี่ย
2. ตลาดยิ่งเจริญ (ขายปลีก) มีสินค้ารวมทั้งสิ้น 53 รายการ ไม่มีการยกเว้นสินค้าราคาแพง หรือสินค้าราคาถูก ใช้ข้อมูลจากวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา เทียบกับวันที่ 5 พ.ค. 54 โดยใช้วิธีการคำนวณเช่นเดียวกันกับข้างต้น
นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ก็ยอมรับว่าราคาสินค้าบางตัวแพง แต่ยังไม่ยอมรับทั้งหมด สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องมาตลอดคือ 1. รัฐบาลต้องยอมรับความจริงเสียก่อนว่าของแพง 2. มาตรการแก้ไข ซึ่งมาตรการที่รัฐบาลออกมา อาทิ โชห่วยช่วยชาติ ร้านธงฟ้า ตนเห็นว่ามาตรการเหล่านี้ สามารถทำได้ แต่เป็นมาตรการแก้ไขในระยะสั้นเท่านั้น ทางพรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลต้นทุนพลังงาน และชดเชยค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เพราะจะทำให้ต้นทุนสินค้าถูกลง
อัด"ยรรยง"ไม่ได้ยืนอยู่ข้างประชาชน
นายชวนนท์ อินทรโกมลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้ภายหลังจากที่ นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมากล่าวหาว่า ตนแถลงข่าวบิดเบือนเรื่องราคาสินค้าว่า ตนคิดว่าวาจาของปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ทำให้เห็นความจริงหลายอย่าง คือ มีความชัดเจนว่าปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวตนชัดเจนว่า เลือกที่จะอยู่กับรัฐบาล ไม่ได้อยู่กับประชาชน แต่เลือกที่จะตอบโต้ฝ่ายค้าน หรือผู้ที่พยายามที่จะตรวจสอบด้วยคำพูดที่รุนแรง ขาดวุฒิภาวะ ตนไม่เคยเชื่อว่า คำพูดเหล่านี้จะออกจาปากของข้าราชการ ซึ่งสิ่งนายยรรยง ทำนั้น ทำให้ศักดิ์ศรีของข้าราชการ และความน่าเชื่อถือของกระทรวงพาณิชย์ลดลง สิ่งที่แสดงออกถึงการเลือกข้าง และแสดงออกด้วยการตอบโต้ด้วยอารมณ์ ขาดเหตุผล ทำให้ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือของสังคม
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า อยากเรียกร้องแทนข้าราชการทั้งประเทศว่า ถ้านายยรรยงจะพิจารณาตัวเอง ลาออกด้วยการถอดเสื้อสีกากีออก ไปใส่เสื้อพรรคเพื่อไทย ตนเชื่อว่าได้รับการปูนบำเหน็จแน่นอน ในการทำงานเพื่อประชาชน ตนไม่เคยโกหกบิดเบือน ข้าราชการซี 3 ซี 4 ที่ทำงานด้วยความชื่อสัตย์ สุจริต เห็นประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง ตนให้ความเคารพ และยกมือไหว้อย่างเต็มใจ แต่กับข้าราชการระดับสูงบางคน ที่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ตัวเองเป็นใหญ่ ตนไม่เคยให้ความเคารพ ไม่เคยให้ค่า
สำหรับข้อมูลที่ตนและนายสรรเสริญ แถลงเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เรื่องสินค้าอุปโภค บริโภค เรื่องถั่วฟักยาว ตนได้ซื้อมาจากตลาดบางซื่อ ในราคาก.ก.ละ 70 บาท หรือเช้าวานนี้ ( 8พ.ค.) ที่ ร้านค้าสวัสดิการกองทัพบก ตรงข้ามพรรคประชาธิปัตย์ และได้ซื้อถั่วฟักยาว กก.ละ 80 บาท เป็นข้อมูลจริงที่พิสูจน์ได้ การที่นายยรรยงท้ามานั้น ขอรับคำท้าว่า ถ้าข้อมูลที่นำมาแถลงเป็นข้อมูลเท็จ ตนพร้อมลาออกจากตำแหน่งโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าเป็นเรื่องจริง ขอให้นายยรรยง ทำเพื่อชาติและประชาชนด้วยการลาออกจากตำแหน่ง นายยรรยง พร้อมแลกกับตนหรือไม่ ให้นำข้อมูลมาตรวจสอบกันว่าใครโกหกประชาชนกันแน่