“โต้ง” อัดคนที่ไม่เคยจ่ายตลาด แต่นำเรื่องสินค้าแพงมาพูด-ทำให้ ปชช. ตกใจ

“กิตติรัตน์” ยืนยัน นโยบายรัฐบาลไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเพิ่ม ยอมรับของแพง เป็นไปตามฤดูกาล ไม่เกี่ยวค่าแรง 300 ย้ำไม่ขึ้นภาษีแวตเป็น 10% พร้อมโต้กลับคนที่ไม่เคยจ่ายตลาด แต่นำเรื่องสินค้าแพงมาพูด แล้วทำให้ประชาชนตกใจ เพราะเมื่อเทียบกับปีก่อนแล้ว ราคาสินค้ายังทรงตัวอยู่ สั่งทุกหน่วยงานเอกซเรย์แก้ปัญหาทุกตารางนิ้ว ขณะที่ ครม. ได้ข้อสรุปแก้ของแพง สั่งพาณิชย์จัดทำกราฟแจงราคาสินค้า คมนาคมหาต้นทุนค่าขนส่งตามจริง “ปู” แนะใช้ระบบสหกรณ์ สานต่อไอเดีย “อำมาตย์เต้น” ทำโปรเจกต์ถูกทั้งแผ่นดิน

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงตอบโต้ข้อกล่าวหากรณีนโยบายรัฐบาลทำให้เกิดปัญหาสินค้าแพง โดยยืนยันว่า ทุกนโยบายของรัฐบาลไม่ได้มาเสริมให้ความเดือดร้อนของประชาชนให้มีมากขึ้น ส่วนที่ราคาสินค้าปรับตัวขึ้นสูงบ้างบางรายการ เช่น ผักผลไม้สดนั้นเป็นไปตามฤดูกาล อีกทั้งอากาศร้อนทำให้ผลผลิตน้อย

นายกิตติรัตน์ เชื่อว่าหลังจากนี้เป็นต้นไป สถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้นเป็นลำดับ เพราะตนเองได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปดูแลเรื่องราคาต้นทางและปลายทาง เพราะบางรายการพบว่าไม่สัมพันธ์กัน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการระบบขนส่งไม่ดี

นายกิตติรัตน์ ยืนยันว่าราคาพลังงานในส่วนของภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรมต้องมีการปรับขึ้นตามกลไกตลาด ขณะที่ราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ภาคครัวเรือนยังคงตรึงราคา เพื่อไม่ให้กระทบค่าครองชีพประชาชน เช่นเดียวกับนโยบายภาษีที่รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และไม่มีแนวทางการปรับขึ้นภาษี

นายกิตติรัตน์ กล่าวอีกว่า คนที่ไม่เคยจ่ายตลาดแต่นำเรื่องสินค้าแพงมาพูดแล้วทำให้ประชาชนตกใจ เพราะเมื่อเทียบกับปีก่อนแล้วราคาสินค้ายังทรงตัวอยู่ พร้อมยืนยันว่า มุมที่รัฐบาลเดินอยู่ ไม่ได้ส่งเสริมให้เกิดภาวะความเดือดร้อนแก่ประชาชนเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี การพูดในฐานะนักการเมืองก็ถูกมองว่าเป็นการแก้ตัว แต่ยืนยันว่าสินค้าที่ไม่ใช่ของสดจำนวนมากราคาไม่ได้ปรับสูงขึ้น ขณะที่สินค้าบางรายการราคาถูกลงบ้างตามที่ได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ได้จับตาดูอย่างใกล้ชิด

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาท เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นนั้น นายกิตติรัตน์ ยืนยันว่า นโยบายการปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาท เพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน หากส่งผลกระทบให้ราคาสินค้าแพงขึ้นรัฐบาลก็พร้อมจะเข้ามาดูแล

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ได้มีการหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง โดยนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำให้เร่งแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ เพราะเป็นห่วงประชาชนจากการที่รัฐมนตรีลงพื้นที่ แล้วพบว่ามีบางอย่างแพงขึ้นบางอย่างถูกลง ให้นำมาวิเคราะห์ว่ามาจากสาเหตุใด เช่น ราคาไข่ไก่ จากนั้นให้กระทรวงพาณิชย์ทำสถิติให้ดูว่าราคาสินค้าที่แพงที่สุดควรจะอยู่เท่าใด เพื่อเป็นฐานให้รัฐมนตรีที่จะลงพื้นที่ชี้แจงกับประชาชนต่อไป หรือทำเป็นกราฟแสดงราคาว่าปีนี้เท่าไหร่ ปีที่ผ่านมาเท่าไหร่เปรียบเทียบให้เห็น ถ้าเกินจากนี้ก็ถือว่าสูงเกินไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ทำให้ราคาสินค้าถูกลงและสั่งรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า ซึ่งตนได้ลงไปตรวจไม่ได้ดูเรื่องราคาอย่างเดียวได้ดูเรื่องคุณภาพอาหาร การปนเปื้อนด้วย

ส่วนข้อเสนอของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องของถูกทั้งแผ่นดินนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ ไปทำเรื่องสหกรณ์ เพราะระบบสหกรณ์สามารถซื้อมาจำนวนมาก และขายถูกลงทำให้ควบคุมราคาสินค้าได้ โดยอาจจะนำมาขายเป็นสินค้าราคาถูก ส่วนจะทำควบคู่กับร้าน “ถูกใจ” หรือไม่ก็ให้ไปคุยกัน

ส่วนกระทรวงคมนาคม ให้มาดูเรื่องขนส่งสินค้าว่าทำให้ราคาแพงขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการหารือกันว่าขอให้ตรึงราคาน้ำมันไว้ก่อน และกระทรวงพลังงานได้ระบุว่ามีแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกจะต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดังนั้น ราคาสินค้าต้องลดลงด้วย