ASTVผู้จัดการรายวัน- “ยิ่งลักษณ์”งดตอบคำถามปรับ “ครม.-ทีมเศรษฐกิจ” ดึง "จตุพร" ร่วมหรือไม่ ส่วนบ้านเลขที่ 111เรียงหน้าโต้ยังไม่รู้จะเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ยืนยันเข้าทำงานในเพื่อไทยแน่ เผยส่งคนวิ่งขอเอกสารเซ็นชื่อเข้าพรรคล่วงหน้าแล้ว พร้อมนัดถกการเมืองทุกจันทร์ เพื่อไทยภาคกลาง ขวาง“ตู่” นั่งมท. ไล่ นปช.ไปหาตำหน่งอื่น ด้าน“เนวิน” สละเรือภท. ฝันถึงประมุขฟุตบอลไทย
วานนี้ (3 พ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามายังอาคารรัฐสภา และเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาลในเวลา 10.00 น. โดยก่อนเดินกลับ ผู้สื่อข่าวขอสัมภาษณ์ โดยถามว่า ถึงเวลาที่ต้องปรับทีมเศรษฐกิจหรือยัง แต่นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามใดๆ นอกจากนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงกระแสข่าวปรับครม. โดยมีชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดงเข้ามาเป็นรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ได้ส่ายหน้า แล้วไม่ยอมตอบคำถาม ก่อนที่จะออกจากทำเนียบในทันที
**111เรียงหน้าโต้ยังไม่รู้เป็นรัฐมนตรี
น.พ.พรมหมินทร์ เลิศสุริยเดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีที่มีข่าวว่า จะกลับมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ผ่านมา ตนไม่ได้ไปช่วยงานที่ทำเนียบ อาจจะมีเข้าไปปรึกษาหารือบ้าง แต่น้อยมาก ตนไม่ได้ไปเข้าไปประมาณ 2 เดือน วันนี้มีข่าวลือ เขียนเดาเลอะเทอะ ข่าวที่ออกมาต้องไปดูว่าข่าวมาได้อย่างไร บางทีเพื่อให้ข่าวน่าเชื่อถือเลยต้องอ้างอะไรที่ดูหนัก อยากให้ข่าวมีน้ำหนัก ก็เอาชื่อตนใส่เข้าไป และหลังจากที่พ้นโทษ ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จะไม่รับตำแหน่งข้าราชการการเมืองตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า รัฐบาลควรจะปรับหรือเติมตรงไหน น.พ.พรหมมินทร์ กล่าวว่า สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมเป็นไปในอัตรราเร่ง หากติดตามสถานการณ์ไม่ทัน จะยิ่งขัดแย้ง นอกจากนี้ ต้องมีหลักนิติธรรม แต่นิติธรรมไม่ใช่ที่กฎหมายเขียนแล้วถูกต้อง บางพรรคชอบตัดตอน ต้องถามว่าได้อะไร ตนดูข่าวรัฐธรรมนูญ ก็ไม่รู้ทำอะไรกัน ถกกันยาวเหยียด ไม่มีวาระอะไรที่เชื่อมโยงกับประชาชน ตนดูแล้วสมเพช เรื่องใหญ่ๆ อย่างรัฐธรรมนูญ ทำอย่างนี้ได้อย่างไร เขาล้าหลังกับประชาชนไปแล้ว สังคมได้เปลี่ยนแปลงไป ชนชั้นกลางได้เพิ่มขึ้นมาก การสื่อสารเพิ่มขึ้น ทำให้มีการรับรู้มากขึ้น หากคนมีอำนาจยังมองไม่เห็นเรื่องเหล่านี้ ก็จะมีปัญหาขัดแย้ง
“ความเป็นธรรม กฎหมาย มีไว้ปิดปากบางคนเท่านั้น กรณีนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ว5 โฟร์ซีซั่น มีคนให้ตรวจสอบจริยธรรม แต่กลับไม่มีใครตรวจสอบคนยิงคนตายที่มีพยาน หรือ ส.ส. ดูรูปโป๊ในสภา” น.พ.พรหมินทร์กล่าว
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบข่าวที่ระบุว่าตนจะเป็น 1 ในครม. ยิ่งลักษณ์ 3 และไม่รู้ว่ามีข่าวดังกล่าวออกมาได้อย่างไร ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย หรือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจนั้น ยังไม่ได้เข้ามาพูดกับตนในเรื่องการปรับครม.เลย ข่าวที่ออกมาก็มีทั้งที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ ซึ่งการปรับครม.นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์น่าจะเป็นคนที่รู้จุดอ่อนจุดแข็งใน ครม. ทั้งหมดได้ดีที่สุด
นายปองพล อดิเรกสาร สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ไทยรักไทย กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะกลับเข้าสู่สนามการเมืองอีกหรือไม่ และก็ยังไม่มีใครติดต่อทาบทาม หรือชักชวนให้กลับเข้าไปเล่นการเมืองหลังจากพ้นโทษทางการเมือง เพราะส่วนตัวแล้วยังมีงานทำอยู่ และตลอดช่วงที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ติดต่อหารือทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยหรือกลุ่มการเมืองใดเลย อย่างไรก็ตาม หากได้รับการติดต่อทาบทามให้เป็นที่ปรึกษา ก็จะต้องพิจารณาก่อนว่า เป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับอะไร และเป็นที่ปรึกษาให้กับใคร
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ไม่มีและไม่ได้รับการทาบทามจากพรรคเพื่อไทย ให้ตนเองมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ส่วนจะกลับมาช่วยงานในพรรคเพื่อไทย และจะมาดำรงตำแหน่งใดในพรรคหรือไม่นั้น ไม่สำคัญ เพราะตอนนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบัน คือ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว รวมถึงไม่อยากให้การพ้นโทษทางการเมืองของบ้านเลขที่ 111 จะต้องทำให้การเมืองเกิดการกระเพื่อม สับสน วุ่นวายในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคต้องมีความระมัดระวังในเรื่องนี้
** "สุชาติ"พร้อมยกเก้าอี้ให้"จาตุรนต์"
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การทำงานของตนในฐานะรมว.ศึกษาธิการ เป็นการทำงานเชิงนโยบาย ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ดังนั้น หากจะมีการจะปรับ ครม. ก็เป็นหน้าที่ของนายกฯ ที่จะตัดสินใจ
ส่วนกระแสข่าวว่านายจาตุรนต์ อาจหวนคืนการเมืองอีกครั้ง และจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการนั้น ถือว่ามีความเป็นไปได้สูง และยินดี หากนายจาตุรนต์จะมานั่งคุมงานการศึกษา เพราะตนไม่ยึดติดกับตำแหน่ง
**111 ปากดีประกาศไม่แย่งตำแหน่ง
นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล เลขานุการมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 กล่าวว่า ในวันที่ 30 พ.ค. จะครบกำหนด 5 ปี ที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ถูกตัดสิทธิทางการเมือง จะมีการจัดงานปลดปล่อยที่มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ถนนนางเลิ้ง และในช่วงเย็นจะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ โดยเชิญสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ทั้งหมดมาร่วมด้วย ส่วนจะมาหรือไม่แล้วแต่เจ้าตัวจะตัดสินใจ นอกจากนี้จะเชิญสมาชิกจากบ้านเลขที่ 109 มาร่วมด้วย
ส่วนในวันที่ 1 มิ.ย. เวลา 10.00 น. สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะเดินทางไปที่พรรคเพื่อไทย ทำการสมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยจะพยายามจะชักชวนกันไปทั้งหมด โดยเฉพาะคนที่ยังทำงานช่วยเหลือพรรคเพื่อไทยอยู่ในขณะนี้ เบื้องต้นได้ประสานน.ส.ยิ่งลักษณ์ไว้แล้ว ซึ่งอาจจะมีพิธีต้อนรับ และนายกฯ กล่าวอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกันตัวแทนบ้านเลขที่ 111 ก็จะมีตัวแทนกล่าวเปิดใจในโอกาสกลับเข้าสู่สนามการเมืองด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่จะประกาศชัดเจน คือ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะไม่เข้ามาแย่งตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกฯ จะพิจารณาเรียกใช้
**“สุกำพล”ย้ำต้องมีเหตุผลตั้ง“ตู่”
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่อาจจะถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องนโยบายรัฐบาล ทุกครั้งที่มีกระแสข่าวปรับ ครม. ก็ถามตนทุกครั้ง สำหรับตนไม่มีปัญหาอะไร หากนายกฯ จะปรับอย่างไรก็ว่าไป ส่วนตนก็ทำหน้าที่ไป ครั้งที่ตนถูกปรับจากตำแหน่ง รมว.คมนาคม มาเป็น รมว.กลาโหม ก็ไม่ได้มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเราเป็นทหารเก่า รอให้ปรับก่อนแล้วกัน ถ้ามีข่าวนิดหน่อยแล้วสะดุ้งทีก็ไม่ไหว ไม่ต้องทำงานกัน
ส่วนความเหมาะสมที่รัฐบาลเตรียมแต่งตั้งนายจตุพร เป็นรัฐมนตรี เห็นว่า คนที่ดูความเหมาะสม ไม่ใช่ตน เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะดู รัฐบาลรู้ทุกอย่างว่าอะไรคืออะไร ถ้าเขาตั้งมาก็ต้องมีเหตุผล ซึ่งเป็นเรื่องระดับสูงไม่ใช่ระดับตน
**บ้าน111 แย่งหน้าข่าวถกทุกวันจันทร์
อีกด้านของคนบ้านที่ 111 ล่าสุดได้มีการนัดหมายกันทุกวันจันทร์ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ย่านนางเลิ้ง เพื่อหารือทางการเมืองในประเด็นต่างๆ ร่วมกัน ขณะนี้หลายคนเริ่มเข้าไปกรอกแบบฟอร์มเพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยกันบ้างแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมหากได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า มีความพยายามของกลุ่มคนที่เสียอำนาจรอดูสถานการณ์ทางการเมืองอยู่ ทำให้ตนเชื่อว่าหากสมาชิกบ้านเลขที่ 111 พ้นสภาพถูกเพิกถอนสิทธิออกมา สังคมการเมืองอาจจะปรับพฤติกรรมให้ดีขึ้น และเสริมสร้างเสาหลักประชาธิปไตยได้อย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งสิ้นหวังกับการเมืองไทย
**เพื่อไทยภาคกลางขวาง“ตู่”ใหญ่
มีรายงานว่า ตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ที่จะประเคนให้นายจตุพร แทนนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย และส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทยนั้น อาจจะเกิดอุปสรรคขึ้น เมื่อแกนนำและส.ส.ในภาคกลางเริ่มออกมาส่งสัญญาณไปถึงแกนนำ นปช.ว่า หากมีการปรับนายชูชาติออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีจริง โควต้า รมช.มหาดไทย จะต้องเป็นของภาคกลางเท่านั้น และขอให้แกนนำนปช.ไปเกลี่ยตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงอื่นเอง อาทิ รมช.คมนาคม หรือให้ใช้โควตากลางแทน
** เป้าหมาย“เนวิน” นายกฯฟุตบอล
แหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคได้เปิดเผยให้คนใกล้ชิดฟังว่า หลังจากที่ตนพ้นโทษจากการถูกตัดสิทธิทางการเมือง มีความเป็นไปได้ที่ตนจะลดบทบาททางการเมืองของตัวเองลง โดยจะเบนเข็มตัวเองไปเข้าสู่วงการฟุตบอลอย่างเต็มตัว เพื่อพัฒนาสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ตนเป็นประธานสโมสรอย่างจริงจัง เพราะนายเนวินเป็นผู้ที่รักกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ จึงกำลังพยายามสร้างบทบาทของตนในวงการฟุตบอลไทยให้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะส่งตัวเองเข้าชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนต่อไป
มีรายงานอีกว่า ในส่วนของแกนนำพรรคคนสำคัญอื่นๆ เช่น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา นายอนุทิน ชาญวีรกุล มีความต้องการที่จะพา ส.ส. ในกลุ่มตัวเองเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย แต่ยังคงติดเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 ที่ระบุว่า ส.ส. ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียว นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า90วัน จึงยังไม่สามารถสามารถเคลื่อนไหวอะไรได้มากในช่วงนี้ แต่ยังคงมีการประสานกันเป็นภายในกับพรรคเพื่อไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนายอนุทิน ที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่าได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแทบทุกวัน
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เวลานี้มีเพียงกระแสข่าวออกมาเท่านั้น ขอยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยยังไม่เคยมีการประชุมหารือในเรื่องนี้ และการปรับครม. ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย อีกทั้งก็ยังไม่เห็นท่านใดออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ด้วย
**"มาร์ค"บอกยังไม่ได้เคลียร์"เนวิน"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายรัฐบาลต้องไปหาแนวทางว่าตกลงจะจัดสรรบทบาท ตำแหน่งให้กับท่านเหล่านี้อย่างไร ส่วนการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับครม. เงาตามด้วยหรือไม่ ตนเคยพูดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า หลังจากปิดสมัยประชุมจะมีการปรับครม.เงา ซึ่งอาจจะมีการสลับสับหน้าที่ ส่วนการพูดคุยกับนายเนวินเรื่องการกลับมาร่วมงานกับพรรครัฐบาล ไม่ได้คุย เพราะถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล และทุกคนก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องการตัดสินใจของตนเอง
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า น่าจะปรับเล็ก เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม และทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ อีกทั้งยังส่งสัญญาณให้เห็นว่าบุคคลใดที่มีความเข้มแข็ง รับใช้กลุ่มอำนาจ ถือเป็นการบริหารอำนาจอย่างหนึ่งของพ.ต.ท. ทักษิณ และขอแสดงความยินดีกับส่วนนายจตุพร ที่มีข่าวว่าจะได้รับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย แต่ถึงแม้จะมีการปรับครม.รัฐบาลก็หนีการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้
** 111พ้นเพิกถอนเป็นรัฐมนตรีได้ทันที
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวว่า บ้านเลขที่ 111 สามารถเข้ามาเป็นรัฐมนตรี หลังจากพ้นโทษการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ทันที เพราะกฎหมายกำหนดเพียงว่าผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ แต่เมื่อพ้นระยะเวลาการถูกเพิกถอนสิทธิมาแล้วก็ย่อมดำรงตำแหน่งได้ อีกทั้งกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดว่าผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรี ต้องสังกัดพรรคการเมือง ทำให้ที่ผ่านมาคนนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองก็เป็นรัฐมนตรีได้
ส่วนการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.นั้น บ้านเลขที่ 111 แม้จะได้สิทธิเลือกตั้งกลับคืนมา แต่ก็ต้องเป็นสมาชิกสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90วันก่อนถึงจะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ได้ ดั้งนั้น หากเกิดกรณีที่มีเหตุอันทำให้ตำแหน่งส.ส.ต้องว่างลงแล้ว และจะลงสมัครรับเลือกตั้งก็ต้องเป็นไปตามที่บทบัญญัติดังกล่าวที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่หากหลัง30 พ.ค. เกิดการยุบสภาขึ้น กฎหมายก็กำหนดคุณสมบัติผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งไว้เพียงต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 30 วันจนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
**พธม.เชื่อมาก็ล้มเหลมเหมือนเดิม
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า เชื่อว่าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่คงหนีไม่พ้นการเมืองที่ล้มเหลว เพราะยังคงมีการแย่งชิงตำแหน่งเช่นเดิม แต่ในครั้งนี้จะมีการแย่งชิงตำแหน่งภายในพรรคเพื่อไทย เนื่องจากสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ต้องการตำแหน่งเช่นเดียวกับคนในพรรคเพื่อไทยยุคปัจจุบัน แต่ผู้ที่สามารถกำหนดตำแหน่งภายในพรรคเพื่อไทยคงขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณเพียงผู้เดียว
วานนี้ (3 พ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามายังอาคารรัฐสภา และเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาลในเวลา 10.00 น. โดยก่อนเดินกลับ ผู้สื่อข่าวขอสัมภาษณ์ โดยถามว่า ถึงเวลาที่ต้องปรับทีมเศรษฐกิจหรือยัง แต่นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามใดๆ นอกจากนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงกระแสข่าวปรับครม. โดยมีชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดงเข้ามาเป็นรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ได้ส่ายหน้า แล้วไม่ยอมตอบคำถาม ก่อนที่จะออกจากทำเนียบในทันที
**111เรียงหน้าโต้ยังไม่รู้เป็นรัฐมนตรี
น.พ.พรมหมินทร์ เลิศสุริยเดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีที่มีข่าวว่า จะกลับมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ผ่านมา ตนไม่ได้ไปช่วยงานที่ทำเนียบ อาจจะมีเข้าไปปรึกษาหารือบ้าง แต่น้อยมาก ตนไม่ได้ไปเข้าไปประมาณ 2 เดือน วันนี้มีข่าวลือ เขียนเดาเลอะเทอะ ข่าวที่ออกมาต้องไปดูว่าข่าวมาได้อย่างไร บางทีเพื่อให้ข่าวน่าเชื่อถือเลยต้องอ้างอะไรที่ดูหนัก อยากให้ข่าวมีน้ำหนัก ก็เอาชื่อตนใส่เข้าไป และหลังจากที่พ้นโทษ ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จะไม่รับตำแหน่งข้าราชการการเมืองตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า รัฐบาลควรจะปรับหรือเติมตรงไหน น.พ.พรหมมินทร์ กล่าวว่า สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมเป็นไปในอัตรราเร่ง หากติดตามสถานการณ์ไม่ทัน จะยิ่งขัดแย้ง นอกจากนี้ ต้องมีหลักนิติธรรม แต่นิติธรรมไม่ใช่ที่กฎหมายเขียนแล้วถูกต้อง บางพรรคชอบตัดตอน ต้องถามว่าได้อะไร ตนดูข่าวรัฐธรรมนูญ ก็ไม่รู้ทำอะไรกัน ถกกันยาวเหยียด ไม่มีวาระอะไรที่เชื่อมโยงกับประชาชน ตนดูแล้วสมเพช เรื่องใหญ่ๆ อย่างรัฐธรรมนูญ ทำอย่างนี้ได้อย่างไร เขาล้าหลังกับประชาชนไปแล้ว สังคมได้เปลี่ยนแปลงไป ชนชั้นกลางได้เพิ่มขึ้นมาก การสื่อสารเพิ่มขึ้น ทำให้มีการรับรู้มากขึ้น หากคนมีอำนาจยังมองไม่เห็นเรื่องเหล่านี้ ก็จะมีปัญหาขัดแย้ง
“ความเป็นธรรม กฎหมาย มีไว้ปิดปากบางคนเท่านั้น กรณีนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ว5 โฟร์ซีซั่น มีคนให้ตรวจสอบจริยธรรม แต่กลับไม่มีใครตรวจสอบคนยิงคนตายที่มีพยาน หรือ ส.ส. ดูรูปโป๊ในสภา” น.พ.พรหมินทร์กล่าว
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบข่าวที่ระบุว่าตนจะเป็น 1 ในครม. ยิ่งลักษณ์ 3 และไม่รู้ว่ามีข่าวดังกล่าวออกมาได้อย่างไร ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย หรือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจนั้น ยังไม่ได้เข้ามาพูดกับตนในเรื่องการปรับครม.เลย ข่าวที่ออกมาก็มีทั้งที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ ซึ่งการปรับครม.นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์น่าจะเป็นคนที่รู้จุดอ่อนจุดแข็งใน ครม. ทั้งหมดได้ดีที่สุด
นายปองพล อดิเรกสาร สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ไทยรักไทย กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะกลับเข้าสู่สนามการเมืองอีกหรือไม่ และก็ยังไม่มีใครติดต่อทาบทาม หรือชักชวนให้กลับเข้าไปเล่นการเมืองหลังจากพ้นโทษทางการเมือง เพราะส่วนตัวแล้วยังมีงานทำอยู่ และตลอดช่วงที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ติดต่อหารือทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยหรือกลุ่มการเมืองใดเลย อย่างไรก็ตาม หากได้รับการติดต่อทาบทามให้เป็นที่ปรึกษา ก็จะต้องพิจารณาก่อนว่า เป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับอะไร และเป็นที่ปรึกษาให้กับใคร
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ไม่มีและไม่ได้รับการทาบทามจากพรรคเพื่อไทย ให้ตนเองมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ส่วนจะกลับมาช่วยงานในพรรคเพื่อไทย และจะมาดำรงตำแหน่งใดในพรรคหรือไม่นั้น ไม่สำคัญ เพราะตอนนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบัน คือ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว รวมถึงไม่อยากให้การพ้นโทษทางการเมืองของบ้านเลขที่ 111 จะต้องทำให้การเมืองเกิดการกระเพื่อม สับสน วุ่นวายในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคต้องมีความระมัดระวังในเรื่องนี้
** "สุชาติ"พร้อมยกเก้าอี้ให้"จาตุรนต์"
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การทำงานของตนในฐานะรมว.ศึกษาธิการ เป็นการทำงานเชิงนโยบาย ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ดังนั้น หากจะมีการจะปรับ ครม. ก็เป็นหน้าที่ของนายกฯ ที่จะตัดสินใจ
ส่วนกระแสข่าวว่านายจาตุรนต์ อาจหวนคืนการเมืองอีกครั้ง และจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการนั้น ถือว่ามีความเป็นไปได้สูง และยินดี หากนายจาตุรนต์จะมานั่งคุมงานการศึกษา เพราะตนไม่ยึดติดกับตำแหน่ง
**111 ปากดีประกาศไม่แย่งตำแหน่ง
นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล เลขานุการมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 กล่าวว่า ในวันที่ 30 พ.ค. จะครบกำหนด 5 ปี ที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ถูกตัดสิทธิทางการเมือง จะมีการจัดงานปลดปล่อยที่มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ถนนนางเลิ้ง และในช่วงเย็นจะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ โดยเชิญสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ทั้งหมดมาร่วมด้วย ส่วนจะมาหรือไม่แล้วแต่เจ้าตัวจะตัดสินใจ นอกจากนี้จะเชิญสมาชิกจากบ้านเลขที่ 109 มาร่วมด้วย
ส่วนในวันที่ 1 มิ.ย. เวลา 10.00 น. สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะเดินทางไปที่พรรคเพื่อไทย ทำการสมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยจะพยายามจะชักชวนกันไปทั้งหมด โดยเฉพาะคนที่ยังทำงานช่วยเหลือพรรคเพื่อไทยอยู่ในขณะนี้ เบื้องต้นได้ประสานน.ส.ยิ่งลักษณ์ไว้แล้ว ซึ่งอาจจะมีพิธีต้อนรับ และนายกฯ กล่าวอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกันตัวแทนบ้านเลขที่ 111 ก็จะมีตัวแทนกล่าวเปิดใจในโอกาสกลับเข้าสู่สนามการเมืองด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่จะประกาศชัดเจน คือ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะไม่เข้ามาแย่งตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกฯ จะพิจารณาเรียกใช้
**“สุกำพล”ย้ำต้องมีเหตุผลตั้ง“ตู่”
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่อาจจะถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องนโยบายรัฐบาล ทุกครั้งที่มีกระแสข่าวปรับ ครม. ก็ถามตนทุกครั้ง สำหรับตนไม่มีปัญหาอะไร หากนายกฯ จะปรับอย่างไรก็ว่าไป ส่วนตนก็ทำหน้าที่ไป ครั้งที่ตนถูกปรับจากตำแหน่ง รมว.คมนาคม มาเป็น รมว.กลาโหม ก็ไม่ได้มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเราเป็นทหารเก่า รอให้ปรับก่อนแล้วกัน ถ้ามีข่าวนิดหน่อยแล้วสะดุ้งทีก็ไม่ไหว ไม่ต้องทำงานกัน
ส่วนความเหมาะสมที่รัฐบาลเตรียมแต่งตั้งนายจตุพร เป็นรัฐมนตรี เห็นว่า คนที่ดูความเหมาะสม ไม่ใช่ตน เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะดู รัฐบาลรู้ทุกอย่างว่าอะไรคืออะไร ถ้าเขาตั้งมาก็ต้องมีเหตุผล ซึ่งเป็นเรื่องระดับสูงไม่ใช่ระดับตน
**บ้าน111 แย่งหน้าข่าวถกทุกวันจันทร์
อีกด้านของคนบ้านที่ 111 ล่าสุดได้มีการนัดหมายกันทุกวันจันทร์ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ย่านนางเลิ้ง เพื่อหารือทางการเมืองในประเด็นต่างๆ ร่วมกัน ขณะนี้หลายคนเริ่มเข้าไปกรอกแบบฟอร์มเพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยกันบ้างแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมหากได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า มีความพยายามของกลุ่มคนที่เสียอำนาจรอดูสถานการณ์ทางการเมืองอยู่ ทำให้ตนเชื่อว่าหากสมาชิกบ้านเลขที่ 111 พ้นสภาพถูกเพิกถอนสิทธิออกมา สังคมการเมืองอาจจะปรับพฤติกรรมให้ดีขึ้น และเสริมสร้างเสาหลักประชาธิปไตยได้อย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งสิ้นหวังกับการเมืองไทย
**เพื่อไทยภาคกลางขวาง“ตู่”ใหญ่
มีรายงานว่า ตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ที่จะประเคนให้นายจตุพร แทนนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย และส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทยนั้น อาจจะเกิดอุปสรรคขึ้น เมื่อแกนนำและส.ส.ในภาคกลางเริ่มออกมาส่งสัญญาณไปถึงแกนนำ นปช.ว่า หากมีการปรับนายชูชาติออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีจริง โควต้า รมช.มหาดไทย จะต้องเป็นของภาคกลางเท่านั้น และขอให้แกนนำนปช.ไปเกลี่ยตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงอื่นเอง อาทิ รมช.คมนาคม หรือให้ใช้โควตากลางแทน
** เป้าหมาย“เนวิน” นายกฯฟุตบอล
แหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคได้เปิดเผยให้คนใกล้ชิดฟังว่า หลังจากที่ตนพ้นโทษจากการถูกตัดสิทธิทางการเมือง มีความเป็นไปได้ที่ตนจะลดบทบาททางการเมืองของตัวเองลง โดยจะเบนเข็มตัวเองไปเข้าสู่วงการฟุตบอลอย่างเต็มตัว เพื่อพัฒนาสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ตนเป็นประธานสโมสรอย่างจริงจัง เพราะนายเนวินเป็นผู้ที่รักกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ จึงกำลังพยายามสร้างบทบาทของตนในวงการฟุตบอลไทยให้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะส่งตัวเองเข้าชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนต่อไป
มีรายงานอีกว่า ในส่วนของแกนนำพรรคคนสำคัญอื่นๆ เช่น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา นายอนุทิน ชาญวีรกุล มีความต้องการที่จะพา ส.ส. ในกลุ่มตัวเองเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย แต่ยังคงติดเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 ที่ระบุว่า ส.ส. ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียว นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า90วัน จึงยังไม่สามารถสามารถเคลื่อนไหวอะไรได้มากในช่วงนี้ แต่ยังคงมีการประสานกันเป็นภายในกับพรรคเพื่อไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนายอนุทิน ที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่าได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแทบทุกวัน
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เวลานี้มีเพียงกระแสข่าวออกมาเท่านั้น ขอยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยยังไม่เคยมีการประชุมหารือในเรื่องนี้ และการปรับครม. ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย อีกทั้งก็ยังไม่เห็นท่านใดออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ด้วย
**"มาร์ค"บอกยังไม่ได้เคลียร์"เนวิน"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายรัฐบาลต้องไปหาแนวทางว่าตกลงจะจัดสรรบทบาท ตำแหน่งให้กับท่านเหล่านี้อย่างไร ส่วนการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับครม. เงาตามด้วยหรือไม่ ตนเคยพูดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า หลังจากปิดสมัยประชุมจะมีการปรับครม.เงา ซึ่งอาจจะมีการสลับสับหน้าที่ ส่วนการพูดคุยกับนายเนวินเรื่องการกลับมาร่วมงานกับพรรครัฐบาล ไม่ได้คุย เพราะถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล และทุกคนก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องการตัดสินใจของตนเอง
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า น่าจะปรับเล็ก เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม และทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ อีกทั้งยังส่งสัญญาณให้เห็นว่าบุคคลใดที่มีความเข้มแข็ง รับใช้กลุ่มอำนาจ ถือเป็นการบริหารอำนาจอย่างหนึ่งของพ.ต.ท. ทักษิณ และขอแสดงความยินดีกับส่วนนายจตุพร ที่มีข่าวว่าจะได้รับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย แต่ถึงแม้จะมีการปรับครม.รัฐบาลก็หนีการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้
** 111พ้นเพิกถอนเป็นรัฐมนตรีได้ทันที
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวว่า บ้านเลขที่ 111 สามารถเข้ามาเป็นรัฐมนตรี หลังจากพ้นโทษการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ทันที เพราะกฎหมายกำหนดเพียงว่าผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ แต่เมื่อพ้นระยะเวลาการถูกเพิกถอนสิทธิมาแล้วก็ย่อมดำรงตำแหน่งได้ อีกทั้งกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดว่าผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรี ต้องสังกัดพรรคการเมือง ทำให้ที่ผ่านมาคนนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองก็เป็นรัฐมนตรีได้
ส่วนการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.นั้น บ้านเลขที่ 111 แม้จะได้สิทธิเลือกตั้งกลับคืนมา แต่ก็ต้องเป็นสมาชิกสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90วันก่อนถึงจะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ได้ ดั้งนั้น หากเกิดกรณีที่มีเหตุอันทำให้ตำแหน่งส.ส.ต้องว่างลงแล้ว และจะลงสมัครรับเลือกตั้งก็ต้องเป็นไปตามที่บทบัญญัติดังกล่าวที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่หากหลัง30 พ.ค. เกิดการยุบสภาขึ้น กฎหมายก็กำหนดคุณสมบัติผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งไว้เพียงต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 30 วันจนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
**พธม.เชื่อมาก็ล้มเหลมเหมือนเดิม
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า เชื่อว่าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่คงหนีไม่พ้นการเมืองที่ล้มเหลว เพราะยังคงมีการแย่งชิงตำแหน่งเช่นเดิม แต่ในครั้งนี้จะมีการแย่งชิงตำแหน่งภายในพรรคเพื่อไทย เนื่องจากสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ต้องการตำแหน่งเช่นเดียวกับคนในพรรคเพื่อไทยยุคปัจจุบัน แต่ผู้ที่สามารถกำหนดตำแหน่งภายในพรรคเพื่อไทยคงขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณเพียงผู้เดียว