ที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา วานนี้ (16 เม.ย.) นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะพ้นโทษทางการเมืองในวันที่ 30 พ.ค.นี้ว่า ไม่อยากให้มองว่าเมื่อพ้นโทษตัดสิทธิ์ทางการเมือง แล้วบ้านเลขที่ 111จะไปแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะคนที่อยู่ในรัฐบาลวันนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร อย่างไรก็ตามบ้านเลขที่ 111 บางคน ก็แยกตัวไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน อีกส่วนอยู่ในรัฐบาล ต่างคนต่างทำหน้าที่ อย่าจินตนาการว่าจะมีการแก่งแย่งเพื่อเอาตำแหน่งคืนกัน แต่ตอนนี้ต้องคิดถึงประโยชน์ของประเทศในภาพรวม ใครที่มีความเชี่ยวชาญก็คงเข้ามาช่วยๆกัน ส่วนตนก็ช่วยดูเรื่องการเยียวยาบ้าง
นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เปิดเผยถึงทิศทางการเมืองหลังจากสมาชิกบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษ เชื่อว่าจะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้งหนึ่ง อาจภายในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นการปรับการทำงานในเชิงการบริหารในเรื่องของภาคเศรษฐกิจ เนื่องจากทางการเมืองรัฐบาลดูมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว ฉะนั้นวิธีที่จะนำไปสู่การทำให้ภาคเศรษฐกิจเทียบเท่ากับการเมืองได้ ก็ต้องปรับบุคลากรหรือรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารที่ต้องพิจารณา อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าปัญหาต่างๆ จะจบในลักษณะของการพูดคุยถกเถียงกันในสภา ฝ่ายบริหารก็ถูกตรวจสอบ สุดท้ายรัฐบาลก็ถูกไม่ไว้วางใจ ถ้าเป็นเช่นนี้บ้านเมืองก็เดินไปไม่ได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองหลังพ้นจากการถูกตัดสิทธิทางการเมืองว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกลับสู่แวดลงการเมืองเวลาไหน เพราะไม่ใช่อะไรที่ตื่นเต้นใหญ่โต แต่สิ่งที่รอคอยคือสิทธิในการเป็นพลเมืองไทยเต็มรูปแบบมากกว่า
อย่างไรก็ตามแม้บุคคลในบ้านเลขที่ 111 จะกลับมาทำงานการเมืองได้ แต่เชื่อว่ายังไม่มีบทบาทอะไรมาก เพราะต้องผ่านขั้นตอนการสมัครเป็นสมาชิกทางการเมืองก่อน ใช้เวลาพอสมควรจึงจะกลับมาทำงานการเมืองได้ ดังนั้นความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นว่าคนบ้านเลขที่ 111 จะทำให้การเมืองเปลี่ยน เป็นเพียงการคาดการณ์ของสื่อมวลชนเท่านั้น เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว ไม่มีคนบ้านเลขที่ 111 การเมืองยังเดินต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลระดับแกนนำพรรคเพื่อไทย และสมาชิกบ้าน 111 ที่เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ที่กัมพูชา เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์หลายคน เช่น นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภา นายพงศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรมว.คมนาคม นายศรีเมือง เจริญศิริ อดีตรมว.ศึกษาธิการ
มีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หลังจากบินออกจากกัมพูชา จะยังไม่เดินทางกลับดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยทันที แต่จะบินเข้าไปดูธุรกิจส่วนตัว ที่ประเทศสิงคโปร์ 3-4 วัน ก่อนกลับบ้านดูไบ ในวันที่ 20 เม.ย. นี้
มีรายงานด้วยว่า การเข้าไปยังสิงคโปร์ครั้งนี้ อาจจะมีการพบกับรัฐมนตรีในชุดปัจจุบันบางคน และแกนนำ บ้านเลขที่ 111 บางคน ที่อาจเสียเก้าอี้ให้ บ้านเลขที่ 111 ในเดือนก.ค.นี้ ขณะที่รัฐมนตรีที่คาดว่าจะเสียเก้าอี้ต่างก็ต้องการขอพบพ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน ระดับแกนนำบ้าน 111 ที่คาดว่าจะมีชื่อกลับมานั่งรัฐมนตรีนารปรับ ครม.ครั้งหน้า มีรายชื่ออกมาแล้วเช่น นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายภูมิธรรม เวชยชัย นายวราเทพ รัตนากร นายยงยุทธ ติยะไพรัช นายพงศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายศรีเมือง เจริญศิริ ฯลฯที่คาดว่าจะไกลับมาดูกระทรวงที่ตัวเองถนัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคำพูดของนายเจริญ ที่ระบุว่า การปรับการทำงานในเชิงการบริหารในเรื่องของภาคเศรษฐกิจ ก็มายความว่า จะมีการเสนอให้ปรับครม.ด้านเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่มีการปรับทีมเศรษฐกิจครั้งใหญ่ไปแล้วคราว “ครม.ปู 2”
ดังนั้นกลุ่มและพรรคการเมืองที่คาดว่าจะถูกปรับออกไป จึงตกไปอยู่ที่พรรคชาติไทยพัฒนาอีกครั้ง เพราะมี 2 รัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงเศรษฐกิจ คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เนื่องจากการปรับ “ครม.ปู 2” มีความพยายามที่จะดึงทั้ง 2 กระทรวงมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย โดยอ้างว่า ไม่สามารถสั่งการได้ในคราวเกิดมหาอุทกภัย
ขณะที่แกนนำพรรคเพื่อไทย และบ้าน 111 ก็มีโอกาสเข้าพบพ.ต.ท.ทักษิณ ถึงขั้นที่นายใหญ่ พูดออกมาดังๆว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า กระทรวงเกษตรฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า บริหารจัดการน้ำผิดพลาด ถึงขั้นเสนอทางเลือก ขับพรรคชาติไทยพัฒนา ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แถมพ.ต.ท.ทักษิณ ยังคำนวณจำนวนส.ส.ของพรรคชาติไทยพัฒนา ด้วยว่า พรรคชาติไทยพัฒนามีส.ส.ทั้งหมด 19 คน ดังนั้น เสียงรัฐบาลขณะนี้ มีอยู่ 301 เสียง หากตัดพรรคชาติไทยพัฒนาออกไปรัฐบาลก็จะเหลือเสียงอยู่ 282 เสียง
หากหักเสียงโหวตของรัฐมนตรีในสภาฯออกไปด้วย เสียงของรัฐบาลก็จะปริ่มน้ำ แม้ว่า จะเกินกึ่งหนึ่ง อยู่ก็ตาม แต่เชื่อว่า หากจำเป็นต้องเลือกจริง ๆ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของรัฐบาล ที่มีน้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯไว้ให้ได้แล้ว
ส่วนการปรับทีมเศรษฐกิจชุดปัจจุบัน เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม ก็มีความเป็นไปได้ จากที่มีชื่อนายวราเทพ รัตนากร หรือนายพงศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ร่วมเป็นแคนิเดตอยู่
นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เปิดเผยถึงทิศทางการเมืองหลังจากสมาชิกบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษ เชื่อว่าจะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้งหนึ่ง อาจภายในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นการปรับการทำงานในเชิงการบริหารในเรื่องของภาคเศรษฐกิจ เนื่องจากทางการเมืองรัฐบาลดูมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว ฉะนั้นวิธีที่จะนำไปสู่การทำให้ภาคเศรษฐกิจเทียบเท่ากับการเมืองได้ ก็ต้องปรับบุคลากรหรือรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารที่ต้องพิจารณา อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าปัญหาต่างๆ จะจบในลักษณะของการพูดคุยถกเถียงกันในสภา ฝ่ายบริหารก็ถูกตรวจสอบ สุดท้ายรัฐบาลก็ถูกไม่ไว้วางใจ ถ้าเป็นเช่นนี้บ้านเมืองก็เดินไปไม่ได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองหลังพ้นจากการถูกตัดสิทธิทางการเมืองว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกลับสู่แวดลงการเมืองเวลาไหน เพราะไม่ใช่อะไรที่ตื่นเต้นใหญ่โต แต่สิ่งที่รอคอยคือสิทธิในการเป็นพลเมืองไทยเต็มรูปแบบมากกว่า
อย่างไรก็ตามแม้บุคคลในบ้านเลขที่ 111 จะกลับมาทำงานการเมืองได้ แต่เชื่อว่ายังไม่มีบทบาทอะไรมาก เพราะต้องผ่านขั้นตอนการสมัครเป็นสมาชิกทางการเมืองก่อน ใช้เวลาพอสมควรจึงจะกลับมาทำงานการเมืองได้ ดังนั้นความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นว่าคนบ้านเลขที่ 111 จะทำให้การเมืองเปลี่ยน เป็นเพียงการคาดการณ์ของสื่อมวลชนเท่านั้น เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว ไม่มีคนบ้านเลขที่ 111 การเมืองยังเดินต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลระดับแกนนำพรรคเพื่อไทย และสมาชิกบ้าน 111 ที่เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ที่กัมพูชา เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์หลายคน เช่น นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภา นายพงศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรมว.คมนาคม นายศรีเมือง เจริญศิริ อดีตรมว.ศึกษาธิการ
มีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หลังจากบินออกจากกัมพูชา จะยังไม่เดินทางกลับดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยทันที แต่จะบินเข้าไปดูธุรกิจส่วนตัว ที่ประเทศสิงคโปร์ 3-4 วัน ก่อนกลับบ้านดูไบ ในวันที่ 20 เม.ย. นี้
มีรายงานด้วยว่า การเข้าไปยังสิงคโปร์ครั้งนี้ อาจจะมีการพบกับรัฐมนตรีในชุดปัจจุบันบางคน และแกนนำ บ้านเลขที่ 111 บางคน ที่อาจเสียเก้าอี้ให้ บ้านเลขที่ 111 ในเดือนก.ค.นี้ ขณะที่รัฐมนตรีที่คาดว่าจะเสียเก้าอี้ต่างก็ต้องการขอพบพ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน ระดับแกนนำบ้าน 111 ที่คาดว่าจะมีชื่อกลับมานั่งรัฐมนตรีนารปรับ ครม.ครั้งหน้า มีรายชื่ออกมาแล้วเช่น นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายภูมิธรรม เวชยชัย นายวราเทพ รัตนากร นายยงยุทธ ติยะไพรัช นายพงศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายศรีเมือง เจริญศิริ ฯลฯที่คาดว่าจะไกลับมาดูกระทรวงที่ตัวเองถนัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคำพูดของนายเจริญ ที่ระบุว่า การปรับการทำงานในเชิงการบริหารในเรื่องของภาคเศรษฐกิจ ก็มายความว่า จะมีการเสนอให้ปรับครม.ด้านเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่มีการปรับทีมเศรษฐกิจครั้งใหญ่ไปแล้วคราว “ครม.ปู 2”
ดังนั้นกลุ่มและพรรคการเมืองที่คาดว่าจะถูกปรับออกไป จึงตกไปอยู่ที่พรรคชาติไทยพัฒนาอีกครั้ง เพราะมี 2 รัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงเศรษฐกิจ คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เนื่องจากการปรับ “ครม.ปู 2” มีความพยายามที่จะดึงทั้ง 2 กระทรวงมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย โดยอ้างว่า ไม่สามารถสั่งการได้ในคราวเกิดมหาอุทกภัย
ขณะที่แกนนำพรรคเพื่อไทย และบ้าน 111 ก็มีโอกาสเข้าพบพ.ต.ท.ทักษิณ ถึงขั้นที่นายใหญ่ พูดออกมาดังๆว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า กระทรวงเกษตรฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า บริหารจัดการน้ำผิดพลาด ถึงขั้นเสนอทางเลือก ขับพรรคชาติไทยพัฒนา ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แถมพ.ต.ท.ทักษิณ ยังคำนวณจำนวนส.ส.ของพรรคชาติไทยพัฒนา ด้วยว่า พรรคชาติไทยพัฒนามีส.ส.ทั้งหมด 19 คน ดังนั้น เสียงรัฐบาลขณะนี้ มีอยู่ 301 เสียง หากตัดพรรคชาติไทยพัฒนาออกไปรัฐบาลก็จะเหลือเสียงอยู่ 282 เสียง
หากหักเสียงโหวตของรัฐมนตรีในสภาฯออกไปด้วย เสียงของรัฐบาลก็จะปริ่มน้ำ แม้ว่า จะเกินกึ่งหนึ่ง อยู่ก็ตาม แต่เชื่อว่า หากจำเป็นต้องเลือกจริง ๆ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของรัฐบาล ที่มีน้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯไว้ให้ได้แล้ว
ส่วนการปรับทีมเศรษฐกิจชุดปัจจุบัน เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม ก็มีความเป็นไปได้ จากที่มีชื่อนายวราเทพ รัตนากร หรือนายพงศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ร่วมเป็นแคนิเดตอยู่
