บางจากปิโตรเลียม อวดกำไรไตรมาสแรกปีนี้ 2,438 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 71% อานิสงส์กำไรสต๊อกน้ำมัน และค่าการกลั่นพุ่ง อีกทั้งรายได้จากบริษัทลูกล้วนเติบโต ส่วนรายได้งวดนี้ 46,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนผลดีจากราคาน้ำมันในตลาดโลกขยับเพิ่ม
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ว่า มีกำไรสุทธิ 2,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดไตรมาสแรกปี 54 ที่ทำไว้ 1,424.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,014.20 ล้านบาท คิดเป็น 71.22% ซึ่งเป็นกำไรของบริษัทฯ 2,377 ล้านบาท กำไรของบริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด 32 ล้านบาท กำไรของบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด 41 ล้านบาท กำไรของบริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยีจำกัด 0.16 ล้านบาท และแบ่งกำไรส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม (Non-controlling Interests) 12 ล้านบาท
โดยไตรมาสนี้ กำไรเพิ่มเนื่องจากค่าการกลั่นอยู่ในระดับสูงที่ 12.53 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และมีการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 101,000 บาร์เรลต่อวัน โดยมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันก่อนหักภาษี 1,534 ล้านบาท ส่วนธุรกิจการตลาดมีปริมาณการจำหน่ายสูงขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ระดับ 85,340 บาร์เรลต่อวันและมีค่าการตลาด(รวมน้ำมันเครื่อง) 0.62 บาทต่อลิตร
ขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายหลักได้แก่ ต้นทุนขายและให้บริการตามงบการเงินรวมมี 44,281 ล้านบาท ประกอบด้วย ต้นทุนของบริษัท บางจากฯ 43,863 ล้านบาท ต้นทุนของบริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด 6,156 ล้านบาท ต้นทุนของบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด 1,252 ล้านบาท และต้นทุนของบริษัทบางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี จำกัด 0.33 ล้านบาท แต่เป็นรายการระหว่างกัน 6,990 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นทุนการขายน้ำมันสำเร็จรูปของบริษัทฯ ให้แก่บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด และรายการขาย B-100 ของบริษัท บางจากไบโอฟลูเอล จำกัด ให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 940 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมี EBITDA พื้นฐาน 1,935 ล้านบาท เมื่อรวมกำไรจากธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้า 140 ล้านบาท และผลกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 1,534ล้านบาท ทำให้มี EBITDA รวม 3,609 ล้านบาท โดยเป็น EBITDAจากธุรกิจโรงกลั่น 3,059 ล้านบาทจากธุรกิจการตลาด 550 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงกลั่นและตลาด (Gross IntegratedMargin-GIM) 15.18 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมีการใช้กำลังการผลิตอยู่ในระดับ 101 พันบาร์เรลต่อวัน
สำหรับงวดนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 46,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 54 ที่มี 11,558 ล้านบาท เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกโดยเฉลี่ยในไตรมาส 1 ปี 55 ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยราคาขายน้ำมันทุกผลิตภัณฑ์ในไตรมาส 1 ปี 55 เฉลี่ยอยู่ที่ 28.24 บาท/ลิตร เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 54 ที่อยู่ที่ประมาณ 25.41 บาท/ลิตร ขณะที่มีปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้น 19.41%
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ว่า มีกำไรสุทธิ 2,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดไตรมาสแรกปี 54 ที่ทำไว้ 1,424.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,014.20 ล้านบาท คิดเป็น 71.22% ซึ่งเป็นกำไรของบริษัทฯ 2,377 ล้านบาท กำไรของบริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด 32 ล้านบาท กำไรของบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด 41 ล้านบาท กำไรของบริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยีจำกัด 0.16 ล้านบาท และแบ่งกำไรส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม (Non-controlling Interests) 12 ล้านบาท
โดยไตรมาสนี้ กำไรเพิ่มเนื่องจากค่าการกลั่นอยู่ในระดับสูงที่ 12.53 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และมีการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 101,000 บาร์เรลต่อวัน โดยมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันก่อนหักภาษี 1,534 ล้านบาท ส่วนธุรกิจการตลาดมีปริมาณการจำหน่ายสูงขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ระดับ 85,340 บาร์เรลต่อวันและมีค่าการตลาด(รวมน้ำมันเครื่อง) 0.62 บาทต่อลิตร
ขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายหลักได้แก่ ต้นทุนขายและให้บริการตามงบการเงินรวมมี 44,281 ล้านบาท ประกอบด้วย ต้นทุนของบริษัท บางจากฯ 43,863 ล้านบาท ต้นทุนของบริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด 6,156 ล้านบาท ต้นทุนของบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด 1,252 ล้านบาท และต้นทุนของบริษัทบางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี จำกัด 0.33 ล้านบาท แต่เป็นรายการระหว่างกัน 6,990 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นทุนการขายน้ำมันสำเร็จรูปของบริษัทฯ ให้แก่บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด และรายการขาย B-100 ของบริษัท บางจากไบโอฟลูเอล จำกัด ให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 940 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมี EBITDA พื้นฐาน 1,935 ล้านบาท เมื่อรวมกำไรจากธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้า 140 ล้านบาท และผลกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 1,534ล้านบาท ทำให้มี EBITDA รวม 3,609 ล้านบาท โดยเป็น EBITDAจากธุรกิจโรงกลั่น 3,059 ล้านบาทจากธุรกิจการตลาด 550 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงกลั่นและตลาด (Gross IntegratedMargin-GIM) 15.18 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมีการใช้กำลังการผลิตอยู่ในระดับ 101 พันบาร์เรลต่อวัน
สำหรับงวดนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 46,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 54 ที่มี 11,558 ล้านบาท เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกโดยเฉลี่ยในไตรมาส 1 ปี 55 ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยราคาขายน้ำมันทุกผลิตภัณฑ์ในไตรมาส 1 ปี 55 เฉลี่ยอยู่ที่ 28.24 บาท/ลิตร เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 54 ที่อยู่ที่ประมาณ 25.41 บาท/ลิตร ขณะที่มีปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้น 19.41%