บางจากฯ ฟุ้งไตรมาส 3 มีกำไรแน่ ชี้ค่าการกลั่นดีดขึ้น 9 เหรียญ/บาร์เรล และมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันหลังราคาน้ำมันดิบขยับสูงเฉลี่ย 101 เหรียญ/บาร์เรล แย้มกลาง ต.ค.นี้ซ่อมหอกลั่นฯ หน่วย 3 เสร็จ เตรียมสร้างหอกลั่นฯ 3 ใหม่เพิ่มกำลังการกลั่นขึ้นอีก ทำให้ปี 57 กลั่นน้ำมันเพิ่มเป็น 1.4 แสนบาร์เรล/วัน
นายวิเชียร อุษณาโชติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจโรงกลั่น บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2555 จะกลับมามีกำไรสุทธิอีกครั้ง จากไตรมาส 2/55 ที่ขาดทุนสุทธิ 385 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 3 ค่าการกลั่น (รวมเฮดจิ้ง) ดีขึ้น อยู่ที่ 9 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล มีกำลังการกลั่นเฉลี่ยวันละ 4.5 หมื่นบาร์เรล และมีกำไรจากสต็อกน้ำมันหลังประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบในไตรมาสนี้ปรับตัวขึ้นอยู่ที่เฉลี่ย 101 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนหอแยกน้ำมันก๊าดในหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ขนาดกำลังการผลิต 8 หมื่นบาร์เรล/วัน ซึ่งเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น คาดว่า จะดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จกลางเดือน ต.ค.นี้ ทำให้กำลังการกลั่นเฉลี่ยในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นเป็น 9 หมื่นบาร์เรล/วัน และคาดว่า ค่าการกลั่นในไตรมาสนี้อยู่ที่ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นายวิเชียร กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ มีแผนก่อสร้างหอกลั่นหน่วย 3 ใหม่ เพื่อทดแทนหอกลั่นฯ หน่วย 3 เดิมที่ซ่อมเพื่อใช้ชั่วคราว โดยจะเพิ่มกำลังการกลั่นขึ้นเป็น 1 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งบริษัทจะลงทุนเพิ่มในส่วนต่างเพียง 20-30 ล้านบาท โดยบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบค่าหอกลั่นใหม่ คาดว่า จะติดตั้งหอกลั่นฯ ใหม่หน่วยที่ 3 จะติดตั้งแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสแรก หรือไตรมาส 2/2557 ซึ่งเป็นจังหวะที่ปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 40 วัน ทำให้กำลังการกลั่นบางจากฯ เพิ่มขึ้นจาก 1.2 แสนบาร์เรล เป็น 1.4 แสนบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีแผนลงทุนอีก 5 พันล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการ 3E โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ(Efficiency) โครงการลดการใช้พลังงาน (Energy) และโครงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environment) และขยายกำลังการผลิตหน่วยอื่นๆ ทั้งระบบเพื่อให้โรงกลั่นฯ สามารถกลั่นได้ 1.4 แสนบาร์เรล/วัน ได้โดยจะให้แล้วเสร็จในปี 2558
นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงศ์ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่า จะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) อยู่ที่ 6,800 ล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายเดิม 500 ล้านบาท เนื่องจากกำลังการกลั่นฯ ลดลงจากการเกิดเพลิงไหม้
นายวิเชียร อุษณาโชติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจโรงกลั่น บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2555 จะกลับมามีกำไรสุทธิอีกครั้ง จากไตรมาส 2/55 ที่ขาดทุนสุทธิ 385 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 3 ค่าการกลั่น (รวมเฮดจิ้ง) ดีขึ้น อยู่ที่ 9 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล มีกำลังการกลั่นเฉลี่ยวันละ 4.5 หมื่นบาร์เรล และมีกำไรจากสต็อกน้ำมันหลังประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบในไตรมาสนี้ปรับตัวขึ้นอยู่ที่เฉลี่ย 101 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนหอแยกน้ำมันก๊าดในหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ขนาดกำลังการผลิต 8 หมื่นบาร์เรล/วัน ซึ่งเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น คาดว่า จะดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จกลางเดือน ต.ค.นี้ ทำให้กำลังการกลั่นเฉลี่ยในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นเป็น 9 หมื่นบาร์เรล/วัน และคาดว่า ค่าการกลั่นในไตรมาสนี้อยู่ที่ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นายวิเชียร กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ มีแผนก่อสร้างหอกลั่นหน่วย 3 ใหม่ เพื่อทดแทนหอกลั่นฯ หน่วย 3 เดิมที่ซ่อมเพื่อใช้ชั่วคราว โดยจะเพิ่มกำลังการกลั่นขึ้นเป็น 1 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งบริษัทจะลงทุนเพิ่มในส่วนต่างเพียง 20-30 ล้านบาท โดยบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบค่าหอกลั่นใหม่ คาดว่า จะติดตั้งหอกลั่นฯ ใหม่หน่วยที่ 3 จะติดตั้งแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสแรก หรือไตรมาส 2/2557 ซึ่งเป็นจังหวะที่ปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 40 วัน ทำให้กำลังการกลั่นบางจากฯ เพิ่มขึ้นจาก 1.2 แสนบาร์เรล เป็น 1.4 แสนบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีแผนลงทุนอีก 5 พันล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการ 3E โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ(Efficiency) โครงการลดการใช้พลังงาน (Energy) และโครงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environment) และขยายกำลังการผลิตหน่วยอื่นๆ ทั้งระบบเพื่อให้โรงกลั่นฯ สามารถกลั่นได้ 1.4 แสนบาร์เรล/วัน ได้โดยจะให้แล้วเสร็จในปี 2558
นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงศ์ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่า จะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) อยู่ที่ 6,800 ล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายเดิม 500 ล้านบาท เนื่องจากกำลังการกลั่นฯ ลดลงจากการเกิดเพลิงไหม้