ASTVผู้จัดการรายวัน - บางจากฯทุ่มพันล้านขยายกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 1.4 แสนบาร์เรลใน 3ปีข้างหน้า ดันEBITDAแตะ 1.5 หมื่นล้านบาท ยอมรับปีนี้EBITDA พลาดเป้า 500 ล้านบาทจากผลกระทบไฟไหม้หอกลั่นฯ3
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนจะขยายกำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 1.1 แสนบาร์เรล/วันเป็น 1.4 แสนบาร์เรล/วันในอีก 3ปีข้างหน้า จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาทในการปรับปรุงหอกลั่นใหม่ โดยโครงการนี้จะเสร็จใกล้เคียงกับโครงการ 3E ได้แก่ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ( Efficiency)โครงการลดการใช้พลังงาน ( Energy) และโครงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(Environment ) โดยทั้ง 2 โครงการนี้จะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 5 พันล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรก่อหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อม และภาษี (EBITDA)หลังปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท โดยปีหน้า บริษัทฯคาดว่าจะมีEBITDAอยู่ที่ 9 พันล้านบาท ปี 2557 คาดอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท และปี 2558 อยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท
นายอนุสรณ์ กล่าวยอมรับว่า บริษัทฯต้องปรับลดเป้าหมาย EBITDAในปีนี้ลงจากเดิมที่ตั้งไว้ 7.3 พันล้านบาท เหลือ 6.8 พันล้านบาท หรือลดลงไป 500 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้หอกลั่นฯที่ 3 ทำให้ต้องปรับลดกำลังการกลั่นลงในช่วงที่ปิดซ่อมแซม แม้ว่าในกลางเดือนต.ค.นี้ กำลังการกลั่นจะกลับมาสู่ระดับปกติที่ระดับ 1.1 แสนบาร์เรล/วันก็ตาม โดยคาดว่าครึ่งปีหลังนี้ จะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันเข้าชดเชยการขาดทุนสต็อกน้ำมันที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2/2555 ได้ทั้งหมด 1.7 พันล้านบาท เนื่องจากประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบสิ้นปีนี้น่าจะขยับมาอยู่ที่ 106 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปัจจุบันอยู่ที่ 103 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 89.10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าค่าการกลั่นในช่วงไตรมาส 3 /2555 จะอยู่ที่ 9-10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากเป็นช่วงการปิดซ่อมบางส่วน ทำให้กำลังการกลั่นลดลงเหลือ 4.5 หมื่นบาร์เรล/วัน บริษัทจึงเน้นกลั่นน้ำมันที่ให้ค่าการกลั่นสูงเป็นหลัก แต่ในช่วงไตรมาส 4 นี้ ค่าการกลั่นจะกลับมาที่ระดับ 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลโดยมีกำลังการกลั่นตามปกติ 1.1 แสนบาร์เรล/วัน
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนจะขยายกำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 1.1 แสนบาร์เรล/วันเป็น 1.4 แสนบาร์เรล/วันในอีก 3ปีข้างหน้า จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาทในการปรับปรุงหอกลั่นใหม่ โดยโครงการนี้จะเสร็จใกล้เคียงกับโครงการ 3E ได้แก่ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ( Efficiency)โครงการลดการใช้พลังงาน ( Energy) และโครงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(Environment ) โดยทั้ง 2 โครงการนี้จะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 5 พันล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรก่อหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อม และภาษี (EBITDA)หลังปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท โดยปีหน้า บริษัทฯคาดว่าจะมีEBITDAอยู่ที่ 9 พันล้านบาท ปี 2557 คาดอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท และปี 2558 อยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท
นายอนุสรณ์ กล่าวยอมรับว่า บริษัทฯต้องปรับลดเป้าหมาย EBITDAในปีนี้ลงจากเดิมที่ตั้งไว้ 7.3 พันล้านบาท เหลือ 6.8 พันล้านบาท หรือลดลงไป 500 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้หอกลั่นฯที่ 3 ทำให้ต้องปรับลดกำลังการกลั่นลงในช่วงที่ปิดซ่อมแซม แม้ว่าในกลางเดือนต.ค.นี้ กำลังการกลั่นจะกลับมาสู่ระดับปกติที่ระดับ 1.1 แสนบาร์เรล/วันก็ตาม โดยคาดว่าครึ่งปีหลังนี้ จะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันเข้าชดเชยการขาดทุนสต็อกน้ำมันที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2/2555 ได้ทั้งหมด 1.7 พันล้านบาท เนื่องจากประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบสิ้นปีนี้น่าจะขยับมาอยู่ที่ 106 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปัจจุบันอยู่ที่ 103 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 89.10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าค่าการกลั่นในช่วงไตรมาส 3 /2555 จะอยู่ที่ 9-10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากเป็นช่วงการปิดซ่อมบางส่วน ทำให้กำลังการกลั่นลดลงเหลือ 4.5 หมื่นบาร์เรล/วัน บริษัทจึงเน้นกลั่นน้ำมันที่ให้ค่าการกลั่นสูงเป็นหลัก แต่ในช่วงไตรมาส 4 นี้ ค่าการกลั่นจะกลับมาที่ระดับ 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลโดยมีกำลังการกลั่นตามปกติ 1.1 แสนบาร์เรล/วัน