การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และ ส.ส.ปทุมธานี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผลที่ออกมาเป็นที่สะใจของคนจำนวนไม่น้อย แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยต้องออกมาเต้นแร้งเต้นกาเหมือนไส้เดือนถูกขี้เท่า แก้ตัวแก้ต่างกันเป็นแถว
พื้นที่จังหวัดปทุมธานี เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า เป็นเขตพื้นที่สีแดงจัด เป็นถิ่นของคนเสื้อแดง และเต็มไปด้วยมวลชนคนเสื้อแดง
แต่ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย และไม่ได้ชนะกันอย่างเฉียดฉิว แต่แพ้กันชนิดไม่เห็นฝุ่น ส่วนการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ก็พ่ายผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์
เกิดอะไรขึ้นที่จังหวัดปทุมธานี ทำไมพรรคเพื่อไทยจึงแพ้ได้ เป็นโจทย์ทางการเมืองที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2554 พรรคเพื่อไทยชนะท่วมท้นทั่วประเทศ สะท้อนถึงความนิยมที่พุ่งสุดขีด
สิ่งที่ทำให้สังคมยังไม่เข้าใจ คือ ทำไมพรรคเพื่อไทยจึงชนะการเลือกตั้ง ทั้งที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ ประกอบด้วยข้าราชการและนักการเมืองที่ไม่เคยมีประวัติการทำคุณงามความดีให้ประเทศ ไม่เคยแสดงความเสียสละเพื่อส่วนรวม
แต่เต็มไปด้วยกลุ่มคนที่มุ่งแสวงหาประโยชน์ใส่ตัว เต็มไปด้วยกเฬวราก และเต็มไปด้วยคนประเภทฝนตกขี้หมูไหล
และแม้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นนักโทษหนีคดี มีคดีทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งคนโกง ไม่มีทางเป็นคนดีได้ คนที่กินเงินภาษีของประชาชน จะรักประชาชน และทำงานเพื่อประชาชนได้อย่างไร
แต่คนเสื้อแดงก็ยังรักพ.ต.ท.ทักษิณ ศรัทธาพรรคเพื่อไทย และไม่ง่ายเลยที่จะเปลี่ยนทัศนคติ เพราะเป็นความเชื่อที่ฝังหัวไปแล้ว
หลังจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยทุ่มงบประมาณ ทุ่มนโยบายขยายฐานมวลชนเต็มตัวเพื่อสร้างเครือข่ายคนเสื้อแดงให้ยึดทุกพื้นที่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะการก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง การสร้างเครือข่ายสื่อ ระดมตั้งกระบอกเสียงคนเสื้อแดงกันพรึบพรั่บ
อำนาจรัฐที่กุมอยู่ในมือ กระบอกเสียงของคนเสื้อแดงที่ครอบคุลมไปทุกเครือข่ายสื่อ แกนนำคนเสื้อแดงที่แสดงตัวเป็นอันธพาลครองเมือง และกิจกรรมการเคลื่อนไหวชุมนุม ทำให้เกิดความรู้สึกว่า
พรรคเพื่อไทยได้ยึดประเทศอย่างเบ็ดเสร็จแล้ว มวลชนเสื้อแดงเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว และเป็นฐานมวลชนทางการเมืองที่เหนียวแน่น จนไม่มีใครสลายได้
แต่สัญญาณของความเสื่อมก็ปรากฏขึ้น
การเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เป็นการตอกย้ำว่า มนต์ขลังของพรรคเพื่อไทยกำลังตกต่ำ
การเลือกตั้งนายก อบจ.กาญจนบุรีเมื่อเดือนก่อน ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยก็พ่ายแพ้ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์อย่างราบคาบมาแล้ว เช่นเดียวกับการเลือกตั้งนายก อบจ.บุรีรัมย์ ซึ่งผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยก็ชนะผู้สมัครพรรคเพื่อไทยอย่างขาดลุ่ย ชนะกันหลายแสนคะแนน
เงินเป็นปัจจัยที่ทำให้พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้การเลือกตั้งนายก อบจ.ในหลายจังหวัดหรือไม่ คำตอบคือ ไม่น่าจะใช่ เพราะแต่ละพรรคก็ทุ่มเงินเหมือนกัน
คะแนนนิยมของพรรคคู่แข่งเพิ่มขึ้นหรือไม่ ก็อาจมีความเป็นไปได้ แต่ไม่น่าจะเป็นปัจจัยชี้ขาด
ปัจจัยชี้ขาดสำคัญ น่าจะเป็นความเสื่อมถอยของศรัทธาพรรคเพื่อไทยมากกว่า
ใครที่เคยท้อใจ หมดกำลังใจ และสิ้นหวัง เพราะคิดว่าพรรคเพื่อไทยคงครองอำนาจตลอดกาล คิดว่ามวลชนคนเสื้อแดงจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องกลับมาเป็นใหญ่ คงต้องทบทวนสถานการณ์การเมืองใหม่แล้ว
เพราะมนต์ดำของพ.ต.ท.ทักษิณกำลังเสื่อมแล้ว
กระแสศรัทธารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์กำลังก้าวไปสู่ความตกต่ำ ขณะที่มวลชนคนเสื้อแดงบางส่วน เริ่มตีตัวออกห่างจากพรรคเพื่อไทย แม้ในพื้นที่สีแดงเข้มอย่างจังหวัดปทุมธานีก็ตาม
แผนการขยายฐานมวลชนคนเสื้อแดงจนยึดทั้งประเทศกำลังจะพับ นโยบายแดงทั้งแผ่นดินคงไปไม่ได้ไกลแล้ว
แกนนำเสื้อแดงจะหยิ่งผยอง ทำตัวเป็นอันธพาลครองเมือง ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะทำตัวกร่างคับประเทศ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์จะเหลิงอำนาจไม่ได้แล้ว
เพราะฐานมวลชนคนเสื้อแดงไม่ใช่กลุ่มประชาชนที่จะสั่งซ้ายหันขวาหันได้เหมือนก่อน
กระแสพรรคเพื่อไทยที่ตกลง พ.ต.ท.ทักษิณจะ “ช่างหัวแม่มัน” ไม่ได้ เพราะถ้าช่วงหัวแม่มัน แผนการฟอกตัวเพื่อกลับมาเป็นใหญ่ต้องพังทลาย
แต่พ.ต.ท.ทักษิณจะฟื้นความศรัทธาที่กำลังเสื่อมลงได้อย่างไร เพราะแม้เป็นรัฐบาลกุมอำนาจรัฐอยู่ในมือ มีงบประมาณเพื่อสร้างภาพ มีเงินมหาศาลเพื่อซื้อใจ มีกระบอกเสียงปลุกระดมมอมเมาอยู่ทุกเครือข่าย ยังรักษาฐานมวลชนคนเสื้อแดงไว้ไม่ได้
ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.และส.ส.ที่ปทุมธานี ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณมึนตึบ ปวดหัวแทบระเบิด เผลอๆ เซ่อรับประทานไปเลย
เพราะมนต์ดำที่เคยเสกเป่าใส่คนเสื้อแดง จนเกิดความหลงใหลชนิดลืมหูลืมตาไม่ขึ้น เริ่มจะเสื่อมลงแล้ว และความสำเร็จของพ.ต.ท.ทักษิณในการสร้างฐานมวลชนคนเสื้อแดงอาจผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว
บรรดาสมุนรับใช้ที่ออกมาบิดเบือนความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทยที่จังหวัดปทุมธานี คงไม่ช่วยปลอมประโลมให้พ.ต.ท.ทักษิณมีความรู้สึกที่ดีขึ้น เพราะสมุนรับใช้บรรดารัฐมนตรีหัวหงอกหัวดำทั้งหลาย อาจจะแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกคนอื่นได้ แต่จะแหกตาพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้
ท่ามกลางกระแสความตกต่ำของพรรคเพื่อไทย ใครจะรู้บ้างว่า “ทักษิณ” คิดอะไรอยู่ ใครจะรู้บ้างหรือไม่ว่า หมดความผยองไปเยอะ
และใครจะรู้บ้างว่า “ทักษิณ” อาจจะปลงกับชะตากรรมตัวเองแล้ว ชาตินี้ไม่มีโอกาสกลับมาใหญ่ในประเทศไทย
พื้นที่จังหวัดปทุมธานี เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า เป็นเขตพื้นที่สีแดงจัด เป็นถิ่นของคนเสื้อแดง และเต็มไปด้วยมวลชนคนเสื้อแดง
แต่ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย และไม่ได้ชนะกันอย่างเฉียดฉิว แต่แพ้กันชนิดไม่เห็นฝุ่น ส่วนการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ก็พ่ายผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์
เกิดอะไรขึ้นที่จังหวัดปทุมธานี ทำไมพรรคเพื่อไทยจึงแพ้ได้ เป็นโจทย์ทางการเมืองที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2554 พรรคเพื่อไทยชนะท่วมท้นทั่วประเทศ สะท้อนถึงความนิยมที่พุ่งสุดขีด
สิ่งที่ทำให้สังคมยังไม่เข้าใจ คือ ทำไมพรรคเพื่อไทยจึงชนะการเลือกตั้ง ทั้งที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ ประกอบด้วยข้าราชการและนักการเมืองที่ไม่เคยมีประวัติการทำคุณงามความดีให้ประเทศ ไม่เคยแสดงความเสียสละเพื่อส่วนรวม
แต่เต็มไปด้วยกลุ่มคนที่มุ่งแสวงหาประโยชน์ใส่ตัว เต็มไปด้วยกเฬวราก และเต็มไปด้วยคนประเภทฝนตกขี้หมูไหล
และแม้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นนักโทษหนีคดี มีคดีทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งคนโกง ไม่มีทางเป็นคนดีได้ คนที่กินเงินภาษีของประชาชน จะรักประชาชน และทำงานเพื่อประชาชนได้อย่างไร
แต่คนเสื้อแดงก็ยังรักพ.ต.ท.ทักษิณ ศรัทธาพรรคเพื่อไทย และไม่ง่ายเลยที่จะเปลี่ยนทัศนคติ เพราะเป็นความเชื่อที่ฝังหัวไปแล้ว
หลังจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยทุ่มงบประมาณ ทุ่มนโยบายขยายฐานมวลชนเต็มตัวเพื่อสร้างเครือข่ายคนเสื้อแดงให้ยึดทุกพื้นที่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะการก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง การสร้างเครือข่ายสื่อ ระดมตั้งกระบอกเสียงคนเสื้อแดงกันพรึบพรั่บ
อำนาจรัฐที่กุมอยู่ในมือ กระบอกเสียงของคนเสื้อแดงที่ครอบคุลมไปทุกเครือข่ายสื่อ แกนนำคนเสื้อแดงที่แสดงตัวเป็นอันธพาลครองเมือง และกิจกรรมการเคลื่อนไหวชุมนุม ทำให้เกิดความรู้สึกว่า
พรรคเพื่อไทยได้ยึดประเทศอย่างเบ็ดเสร็จแล้ว มวลชนเสื้อแดงเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว และเป็นฐานมวลชนทางการเมืองที่เหนียวแน่น จนไม่มีใครสลายได้
แต่สัญญาณของความเสื่อมก็ปรากฏขึ้น
การเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เป็นการตอกย้ำว่า มนต์ขลังของพรรคเพื่อไทยกำลังตกต่ำ
การเลือกตั้งนายก อบจ.กาญจนบุรีเมื่อเดือนก่อน ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยก็พ่ายแพ้ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์อย่างราบคาบมาแล้ว เช่นเดียวกับการเลือกตั้งนายก อบจ.บุรีรัมย์ ซึ่งผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยก็ชนะผู้สมัครพรรคเพื่อไทยอย่างขาดลุ่ย ชนะกันหลายแสนคะแนน
เงินเป็นปัจจัยที่ทำให้พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้การเลือกตั้งนายก อบจ.ในหลายจังหวัดหรือไม่ คำตอบคือ ไม่น่าจะใช่ เพราะแต่ละพรรคก็ทุ่มเงินเหมือนกัน
คะแนนนิยมของพรรคคู่แข่งเพิ่มขึ้นหรือไม่ ก็อาจมีความเป็นไปได้ แต่ไม่น่าจะเป็นปัจจัยชี้ขาด
ปัจจัยชี้ขาดสำคัญ น่าจะเป็นความเสื่อมถอยของศรัทธาพรรคเพื่อไทยมากกว่า
ใครที่เคยท้อใจ หมดกำลังใจ และสิ้นหวัง เพราะคิดว่าพรรคเพื่อไทยคงครองอำนาจตลอดกาล คิดว่ามวลชนคนเสื้อแดงจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องกลับมาเป็นใหญ่ คงต้องทบทวนสถานการณ์การเมืองใหม่แล้ว
เพราะมนต์ดำของพ.ต.ท.ทักษิณกำลังเสื่อมแล้ว
กระแสศรัทธารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์กำลังก้าวไปสู่ความตกต่ำ ขณะที่มวลชนคนเสื้อแดงบางส่วน เริ่มตีตัวออกห่างจากพรรคเพื่อไทย แม้ในพื้นที่สีแดงเข้มอย่างจังหวัดปทุมธานีก็ตาม
แผนการขยายฐานมวลชนคนเสื้อแดงจนยึดทั้งประเทศกำลังจะพับ นโยบายแดงทั้งแผ่นดินคงไปไม่ได้ไกลแล้ว
แกนนำเสื้อแดงจะหยิ่งผยอง ทำตัวเป็นอันธพาลครองเมือง ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะทำตัวกร่างคับประเทศ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์จะเหลิงอำนาจไม่ได้แล้ว
เพราะฐานมวลชนคนเสื้อแดงไม่ใช่กลุ่มประชาชนที่จะสั่งซ้ายหันขวาหันได้เหมือนก่อน
กระแสพรรคเพื่อไทยที่ตกลง พ.ต.ท.ทักษิณจะ “ช่างหัวแม่มัน” ไม่ได้ เพราะถ้าช่วงหัวแม่มัน แผนการฟอกตัวเพื่อกลับมาเป็นใหญ่ต้องพังทลาย
แต่พ.ต.ท.ทักษิณจะฟื้นความศรัทธาที่กำลังเสื่อมลงได้อย่างไร เพราะแม้เป็นรัฐบาลกุมอำนาจรัฐอยู่ในมือ มีงบประมาณเพื่อสร้างภาพ มีเงินมหาศาลเพื่อซื้อใจ มีกระบอกเสียงปลุกระดมมอมเมาอยู่ทุกเครือข่าย ยังรักษาฐานมวลชนคนเสื้อแดงไว้ไม่ได้
ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.และส.ส.ที่ปทุมธานี ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณมึนตึบ ปวดหัวแทบระเบิด เผลอๆ เซ่อรับประทานไปเลย
เพราะมนต์ดำที่เคยเสกเป่าใส่คนเสื้อแดง จนเกิดความหลงใหลชนิดลืมหูลืมตาไม่ขึ้น เริ่มจะเสื่อมลงแล้ว และความสำเร็จของพ.ต.ท.ทักษิณในการสร้างฐานมวลชนคนเสื้อแดงอาจผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว
บรรดาสมุนรับใช้ที่ออกมาบิดเบือนความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทยที่จังหวัดปทุมธานี คงไม่ช่วยปลอมประโลมให้พ.ต.ท.ทักษิณมีความรู้สึกที่ดีขึ้น เพราะสมุนรับใช้บรรดารัฐมนตรีหัวหงอกหัวดำทั้งหลาย อาจจะแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกคนอื่นได้ แต่จะแหกตาพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้
ท่ามกลางกระแสความตกต่ำของพรรคเพื่อไทย ใครจะรู้บ้างว่า “ทักษิณ” คิดอะไรอยู่ ใครจะรู้บ้างหรือไม่ว่า หมดความผยองไปเยอะ
และใครจะรู้บ้างว่า “ทักษิณ” อาจจะปลงกับชะตากรรมตัวเองแล้ว ชาตินี้ไม่มีโอกาสกลับมาใหญ่ในประเทศไทย
