xs
xsm
sm
md
lg

พท.สั่งขาประจำ หุบปากประท้วง ปิดจ๊อบแก้รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (16 เม.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุมพรรคเพื่อไทยในวันที่ 17 เม.ย.ว่า เป็นการประชุมเพื่อทำความเข้าใจกับ ส.ส.เพื่อไทย ที่จะมีการประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 18-19 เม.ย. เพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วาระ 2 โดยมีประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจกับ ส.ส.ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะมาตรา 291/1 เรื่องที่มา ส.ส.ร. ซึ่งมีผู้แปรญัตติถึง 100 กว่าคน ซึ่งพรรคประเมินว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์รัฐธรรมนูญปี 50 อภิปรายพาดพิง และตีรวนไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การแทรกแซงองค์กรอิสระ ศาล การนิรโทษกรรม ดังนั้นจะกำชับ ส.ส.ทุกคนไม่ให้ตอบโต้ ชวนทะเลาะ จะปล่อยให้การชี้แจงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยเพียงอย่างเดียว จะใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากจะตอบโต้ก็ให้กระชับที่สุด ไม่ชี้แจงซ้ำซ้อน
“โดยเฉพาะจะกำชับ ส.ส.ขาประจำของพรรคเพื่อไทยที่ชอบประท้วงพร่ำเพรื่อไม่ให้ประท้วงมากเกินไป เพื่อให้การพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2 เสร็จทันภายในวันที่ 18-19 เม.ย.ไม่ให้ยืดเยื้อออกไป เพราะมีความเป็นไปได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะตีรวนไม่ให้การแก้รัฐธรรมนูญสามารถลงมติวาระ 3 ได้ในวันที่ 8 พ.ค.ซึ่งไม่ใช่วิธีการสุภาพบุรุษ เพราะวิปสามฝ่ายได้ทำข้อตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้ว”โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่จะมีการลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ในวันที่ 8 พ.ค.ว่า เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นอำนาจของประธานสภา เมื่อรัฐบาลมีเสียงข้างมากต้องการจะผลักดัน แต่สิ่งสำคัญคือประชาชนจะต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะจากการทำงานเป็นวิปมา พบว่าครั้งนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ทำงานลำบาก รัฐบาลพยายามหักดิบใช้เสียงข้างมากเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง ในส่วนของฝ่ายค้านก็ได้พยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่มีเสียงไม่พอ อย่างน้อยก็ทำให้ประชาชนได้เห็นข้อเท็จจริง ซึ่งยืนยันว่าการประท้วงต่าง ๆ เช่นวอล์คเอ้าท์ นับองค์ประชุม ก็เพื่อเป็นการเตือนให้ประชาชนได้เห็น แต่หลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ ฝ่ายค้านก็ยกมือสนับสนุน และสิ่งสำคัญคือประชาชนจะต้องช่วยกันจับตาดูการทำงานของนักการเมืองอย่างใกล้ชิด
นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 18-19 เมษายนนี้ว่า การพิจารณาของรัฐสภาในวาระ 2 จะเสร็จทันตามที่กำหนดไว้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เพราะขณะนี้จะเห็นว่ามีความพยายามเตะถ่วงดึงเรื่องไว้ตลอดเวลา ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็พยายามนิ่งและอดทน
“อย่างไรก็ตาม การประชุมที่ผ่านมาถือว่าทำขัดข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภาทั้งหมดเนื่องจากตามข้อบังคับสมาชิกจะอภิปรายได้เฉพาะในส่วนที่มีการแก้ไข แต่ขณะนี้กลับอภิปรายกันเกือบทุกคน ทุกประเด็น ทั้งที่ไม่ได้มีการสงวนคำแปรญัตติหรือมีการแก้ไข ซึ่งประธานในที่ประชุมก็ไม่เข้มงวด ไม่แม่นข้อบังคับ จึงอยากเรียกร้องให้ประธานได้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพราะหากเป็นเช่นนี้ วาระ 2 ใช้เวลา 3 วันก็ไม่จบ ตนไม่อยากจะสอนประธานแต่ประธานจะต้องรอบรู้ การอภิปรายในวาระที่ 2 บอกเพียงแค่ว่า เหตุผลที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยแค่นั้น แต่กลับอภิปรายเหมือนวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ มิหนำซ้ำสมาชิกยังข่มขู่ประธาน ซึ่งประธานก็ปล่อย” นายนิคมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาเรียกประชุมพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2550 วาระ 2 หรือ รายมาตราต่อในวันที่ 18-19 เม.ย.นี้ และวางกรอบพิจารณาเห็นชอบในต้นเดือนหน้า ก่อนเริ่มกระบวนการจัดตั้ง ส.ส.ร. ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน
นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เปิดเผยถึงภาพรวมการออกกฎหมายในช่วงประชุมสมัยสามัญนิติบัญญัติ ว่า ถือว่ายังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะกฎหมายที่จำเป็นต้องออกมาบังคับใช้ ยังมีอยู่อีกจำนวนมาก ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาคประชาชน เนื่องจากสภาสมัยนี้อาจแตกต่างจากยุคสมัยอื่นที่ผ่านๆ มา เพราะตลอดระยะเวลาการประชุม การเจรจาระหว่างผู้ประสานงาน หรือวิปทั้งสองฝ่ายไม่ค่อยเป็นที่ยุตินัก เลยทำให้การประชุมสภาอาจจะไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ส่งผลให้เกิดปัญหาโต้แย้งตามมา
ทั้งนี้ตนกำลังจะปรึกษากับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า การประชุมในครั้งถัดๆ ไป ถ้ายังคงมีปัญหาเช่นนี้อาจจะเชิญผู้ประสานงานทั้ง 2 ฝ่ายมาปรึกษาหารือกัน มากกว่าการไปเล่นเกมการเมือง เหมือนที่ผ่านมา เพราะจะทำให้การประชุมยืดเยื้อ
กำลังโหลดความคิดเห็น