ประชาชนจำนวนหนึ่ง ในปีใหม่ไทยนี้ อยากเห็นบุคคลทางการเมืองหันหน้ามารักกัน ให้ทุกกลุ่มทุกสีหันหน้ามาพูดคุยกัน จับคู่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ ผู้นำฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
จับคู่ พล.อ.เปรม กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (นักโทษชายหนีคดีสำคัญ) ให้หันหน้ามารักกัน
จับคู่ให้นายเทพไท เสนพงศ์ กับ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ หันหน้ามารักกันตลอดปีใหม่ไทยปีนี้และตลอดไป
นี่คือความปรารถนาดี เจตนาดีของประชาชนจำนวนหนึ่งที่ต้องการให้บุคคลเหล่านี้หันหน้ามารักกัน
แต่ในความเป็นจริง บุคคลเหล่านี้หากเขาสัมพันธ์กันในเรื่องส่วนตัวแล้ว บุคคลทั้ง 6 นี้ เขาก็ดีกัน เจอกันก็คุยกันเป็นเรื่องปกติ
ทักษิณ หากมองในมุมมองเรื่องส่วนตัว ทักษิณเป็นคนดีในสายตาของคนจำนวนหนึ่ง แต่หากมองเขาในฐานะนักการเมืองที่กระทำผิดต่ออาญาแผ่นดิน เมื่อจับได้ไล่ทัน ศาลตัดสินลงโทษ เขาก็ต้องยอมรับโทษ แต่นี่เขาไม่ยอม กล่าวหาว่าศาลไทยไม่มีมาตรฐาน ไม่ยุติธรรม ทั้งๆ ที่ศาลเดียวกันที่เขาฟ้องผู้อื่นแล้วชนะคดี ทำไม่เขาไม่โวยวาย ทักษิณโวยวายเฉพาะที่แพ้เท่านั้น
ผู้รักความยุติธรรมทั้งหลายจึงยอมไม่ได้ ที่ผู้กระทำผิด ถูกตัดสินแล้วว่ากระทำผิดจริง จะกลับมาลอยหน้าลอยตาอยู่ในประเทศไทย ทักษิณเขาหนีไปเอง ไม่มีใครไล่ เมื่อจะกลับมา ก็กลับได้เลย กลับมารับโทษตามกระบวนการ ขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ใช่กลับมาอย่างเท่ๆ ที่เขาพูด ไม่มีใครยอมรับได้
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานองคมนตรี หากเป็นเรื่องส่วนตัวท่านก็คงไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่นี่เป็นการกระทำความผิดต่อชาติ ในลักษณะทรยศต่อชาติหากใครๆ อยู่ในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ก็ต้องออกมาพูดเตือนสติประชาชน ออกมาพูดให้บุคคลที่รักความยุติธรรมได้อุ่นใจไม่ใช่ว่าประเทศนี้มืดไปหมด พูดเพื่อให้คนรักความยุติธรรม รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้เตรียมตัวเตรียมใจ ร่วมกันต่อสู้กับความเลวร้ายจากคนที่ทรยศชาติ
หากว่าไปแล้วดูจากพฤติกรรม ทักษิณเป็นคนพาลหนักที่สุด เป็นคนดื้อถือดีที่สุด เป็นตัวอย่างของคนเลวในทางการเมือง เลวต่อสังคม เลวต่อชาติ แล้วจะให้ใครไปดีด้วยได้ละ เว้นแต่เป็นเรื่องส่วนตัว
ทำไมทักษิณต้องตกอยู่สภาพเช่นนั้น ทักษิณเองก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะเขามีเงินมากมายมหาศาล มีเงินจ้างกองกำลังติดอาวุธอารักขา
ผู้อ่านที่รักทั้งหลาย เหตุแห่งความแตกแยกของคนชาติ เหตุของการทำลายล้างกันเอง เหตุแห่งการคอร์รัปชัน เหตุแห่งนักการเมืองกลายเป็นทาสน้ำเงินของเจ้าของพรรค เหตุที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องตกเป็นทาสน้ำเงินของนักการเมือง เช่น ชาวเกษตรกรทั้งหลายโดยเฉพาะทางภาคอีสานเวลาเลือกตั้งก็ไปเลือกพรรคเสือ พอสินค้าราคาตกต่ำก็ไปอ้อนวอนให้พรรคเสือช่วย พรรคเสือไม่ช่วยและยังจะกินซ้ำกินหนักเข้าไปอีก ทำไม่ไม่เลือกพรรคตัวเอง เลือกพรรคเกษตรกรฯ แต่ไม่เลือกดูถูกว่าเป็นพรรคชั้นต่ำ ไม่มีเงินให้ เงินไม่มา กาไม่เป็น นี่เป็นเพียงตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า คนไทยจำนวนมากตกเป็นทาสน้ำเงินของพรรคการเมืองและนักการเมืองเลวจึงเป็นเหตุแห่งที่มาของเผด็จการรัฐสภา
สิ่งที่กล่าวมาเป็นผลที่มาจากเหตุเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือ ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา
เป็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ เพราะพวกเขาใช้รัฐธรรมนูญเป็นระบอบหรือใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นระบอบ โดยไม่มีหลักการปกครองโดยธรรมหรือระบอบโดยธรรมของปวงชนในชาติ ดังนั้นระบอบหรือการเมืองจึงกลายเป็นของพวกนักการเมืองและกลุ่มทุนเพียงหยิบมือเดียวจึงเรียกว่า ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ เมื่อพวกเขาใช้ระบบรัฐสภาซึ่งเป็นรูปการปกครองชนิดหนึ่งที่ใช้กันในหลายๆ ประเทศ จึงเรียกว่า “ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา”
เมื่อการเมืองไทยไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม ก็เท่ากับไม่มีระบอบการเมืองของประชาชน มีแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญเอาไว้กดหัวหรือปกครองประชาชน การเมืองหรือตัวระบอบจึงกลายเป็นของพวกกลุ่มทุนสามานย์และนักการเมืองชั่วเพียงหยิบมือเดียว ประชาชนในชาติ จึงได้แตกแยกอย่างเป็นไปเองเพราะประชาชนวิ่งเข้าหานักการเมืองและพรรคการเมือง พรรคโน้น พรรคนี้ เมื่อถูกปลุกระดม จ้างด้วยเงิน ประชาชนก็ยิ่งแตกแยกกันหนักยิ่งขึ้น ถึงขนาดว่าผลของการชนะเลือกตั้ง ทำอะไรๆ ไม่ผิด เคยทำผิดก็ต้องแก้ไขให้ผู้นำของพวกเขาพ้นผิด ในโลกนี้มีแต่ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย เท่านั้นเขาทำได้
จึงเห็นภาพของประชาชนในชาติขัดแย้งกันอย่างหนัก ไปกันคนละทิศละทาง ทั้งนี้ย่อมเป็นไปตามกฎแห่งกรรมเลว เป็นไปตามวิถีกิเลส คือ ระบอบเลว รัฐบาลเลว การปกครองเลวประเทศชาติและประชาชนตกต่ำย่ำแย่สาละวันเตี้ยลงๆ ดังภาพของความขัดแย้ง
ในแนวทางที่ถูกต้อง พระมหากษัตริย์ประมุขแห่งรัฐ ทรงสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรมหรือระบอบโดยธรรม จึงเกิดการเมืองของปวงชนในชาติ การเมืองของปวงชนคือหลักการปกครองโดยธรรมหรือธรรมาธิปไตย ดังนั้นหลักการปกครองฯ จึงต้องเป็นหนึ่งเดียวกับแก่นแท้ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หลักการปกครองฯ จึงเป็นจุดศูนย์กลางทางการเมืองของปวงชนในชาติ หลักการปกครองฯ เป็นหลักนิติธรรมของปวงชนในชาติ หลักการปกครองฯ เป็นกฎหมายความมั่นคงสูงสุดของชาติ และหลักการปกครองฯ ต้องมาก่อนรัฐธรรมนูญและเป็นศูนย์กลางของกฎหมายรัฐธรรมนูญจึงเห็นภาพความเป็นเอกภาพของปวงชนในชาติ จึงก่อให้เกิดพลังแห่งการสร้างชาติอย่างยิ่งใหญ่ ดุจดังพระธรรมจักร ดังภาพ
จับคู่ พล.อ.เปรม กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (นักโทษชายหนีคดีสำคัญ) ให้หันหน้ามารักกัน
จับคู่ให้นายเทพไท เสนพงศ์ กับ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ หันหน้ามารักกันตลอดปีใหม่ไทยปีนี้และตลอดไป
นี่คือความปรารถนาดี เจตนาดีของประชาชนจำนวนหนึ่งที่ต้องการให้บุคคลเหล่านี้หันหน้ามารักกัน
แต่ในความเป็นจริง บุคคลเหล่านี้หากเขาสัมพันธ์กันในเรื่องส่วนตัวแล้ว บุคคลทั้ง 6 นี้ เขาก็ดีกัน เจอกันก็คุยกันเป็นเรื่องปกติ
ทักษิณ หากมองในมุมมองเรื่องส่วนตัว ทักษิณเป็นคนดีในสายตาของคนจำนวนหนึ่ง แต่หากมองเขาในฐานะนักการเมืองที่กระทำผิดต่ออาญาแผ่นดิน เมื่อจับได้ไล่ทัน ศาลตัดสินลงโทษ เขาก็ต้องยอมรับโทษ แต่นี่เขาไม่ยอม กล่าวหาว่าศาลไทยไม่มีมาตรฐาน ไม่ยุติธรรม ทั้งๆ ที่ศาลเดียวกันที่เขาฟ้องผู้อื่นแล้วชนะคดี ทำไม่เขาไม่โวยวาย ทักษิณโวยวายเฉพาะที่แพ้เท่านั้น
ผู้รักความยุติธรรมทั้งหลายจึงยอมไม่ได้ ที่ผู้กระทำผิด ถูกตัดสินแล้วว่ากระทำผิดจริง จะกลับมาลอยหน้าลอยตาอยู่ในประเทศไทย ทักษิณเขาหนีไปเอง ไม่มีใครไล่ เมื่อจะกลับมา ก็กลับได้เลย กลับมารับโทษตามกระบวนการ ขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ใช่กลับมาอย่างเท่ๆ ที่เขาพูด ไม่มีใครยอมรับได้
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานองคมนตรี หากเป็นเรื่องส่วนตัวท่านก็คงไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่นี่เป็นการกระทำความผิดต่อชาติ ในลักษณะทรยศต่อชาติหากใครๆ อยู่ในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ก็ต้องออกมาพูดเตือนสติประชาชน ออกมาพูดให้บุคคลที่รักความยุติธรรมได้อุ่นใจไม่ใช่ว่าประเทศนี้มืดไปหมด พูดเพื่อให้คนรักความยุติธรรม รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้เตรียมตัวเตรียมใจ ร่วมกันต่อสู้กับความเลวร้ายจากคนที่ทรยศชาติ
หากว่าไปแล้วดูจากพฤติกรรม ทักษิณเป็นคนพาลหนักที่สุด เป็นคนดื้อถือดีที่สุด เป็นตัวอย่างของคนเลวในทางการเมือง เลวต่อสังคม เลวต่อชาติ แล้วจะให้ใครไปดีด้วยได้ละ เว้นแต่เป็นเรื่องส่วนตัว
ทำไมทักษิณต้องตกอยู่สภาพเช่นนั้น ทักษิณเองก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะเขามีเงินมากมายมหาศาล มีเงินจ้างกองกำลังติดอาวุธอารักขา
ผู้อ่านที่รักทั้งหลาย เหตุแห่งความแตกแยกของคนชาติ เหตุของการทำลายล้างกันเอง เหตุแห่งการคอร์รัปชัน เหตุแห่งนักการเมืองกลายเป็นทาสน้ำเงินของเจ้าของพรรค เหตุที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องตกเป็นทาสน้ำเงินของนักการเมือง เช่น ชาวเกษตรกรทั้งหลายโดยเฉพาะทางภาคอีสานเวลาเลือกตั้งก็ไปเลือกพรรคเสือ พอสินค้าราคาตกต่ำก็ไปอ้อนวอนให้พรรคเสือช่วย พรรคเสือไม่ช่วยและยังจะกินซ้ำกินหนักเข้าไปอีก ทำไม่ไม่เลือกพรรคตัวเอง เลือกพรรคเกษตรกรฯ แต่ไม่เลือกดูถูกว่าเป็นพรรคชั้นต่ำ ไม่มีเงินให้ เงินไม่มา กาไม่เป็น นี่เป็นเพียงตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า คนไทยจำนวนมากตกเป็นทาสน้ำเงินของพรรคการเมืองและนักการเมืองเลวจึงเป็นเหตุแห่งที่มาของเผด็จการรัฐสภา
สิ่งที่กล่าวมาเป็นผลที่มาจากเหตุเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือ ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา
เป็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ เพราะพวกเขาใช้รัฐธรรมนูญเป็นระบอบหรือใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นระบอบ โดยไม่มีหลักการปกครองโดยธรรมหรือระบอบโดยธรรมของปวงชนในชาติ ดังนั้นระบอบหรือการเมืองจึงกลายเป็นของพวกนักการเมืองและกลุ่มทุนเพียงหยิบมือเดียวจึงเรียกว่า ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ เมื่อพวกเขาใช้ระบบรัฐสภาซึ่งเป็นรูปการปกครองชนิดหนึ่งที่ใช้กันในหลายๆ ประเทศ จึงเรียกว่า “ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา”
เมื่อการเมืองไทยไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม ก็เท่ากับไม่มีระบอบการเมืองของประชาชน มีแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญเอาไว้กดหัวหรือปกครองประชาชน การเมืองหรือตัวระบอบจึงกลายเป็นของพวกกลุ่มทุนสามานย์และนักการเมืองชั่วเพียงหยิบมือเดียว ประชาชนในชาติ จึงได้แตกแยกอย่างเป็นไปเองเพราะประชาชนวิ่งเข้าหานักการเมืองและพรรคการเมือง พรรคโน้น พรรคนี้ เมื่อถูกปลุกระดม จ้างด้วยเงิน ประชาชนก็ยิ่งแตกแยกกันหนักยิ่งขึ้น ถึงขนาดว่าผลของการชนะเลือกตั้ง ทำอะไรๆ ไม่ผิด เคยทำผิดก็ต้องแก้ไขให้ผู้นำของพวกเขาพ้นผิด ในโลกนี้มีแต่ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย เท่านั้นเขาทำได้
จึงเห็นภาพของประชาชนในชาติขัดแย้งกันอย่างหนัก ไปกันคนละทิศละทาง ทั้งนี้ย่อมเป็นไปตามกฎแห่งกรรมเลว เป็นไปตามวิถีกิเลส คือ ระบอบเลว รัฐบาลเลว การปกครองเลวประเทศชาติและประชาชนตกต่ำย่ำแย่สาละวันเตี้ยลงๆ ดังภาพของความขัดแย้ง
ในแนวทางที่ถูกต้อง พระมหากษัตริย์ประมุขแห่งรัฐ ทรงสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรมหรือระบอบโดยธรรม จึงเกิดการเมืองของปวงชนในชาติ การเมืองของปวงชนคือหลักการปกครองโดยธรรมหรือธรรมาธิปไตย ดังนั้นหลักการปกครองฯ จึงต้องเป็นหนึ่งเดียวกับแก่นแท้ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หลักการปกครองฯ จึงเป็นจุดศูนย์กลางทางการเมืองของปวงชนในชาติ หลักการปกครองฯ เป็นหลักนิติธรรมของปวงชนในชาติ หลักการปกครองฯ เป็นกฎหมายความมั่นคงสูงสุดของชาติ และหลักการปกครองฯ ต้องมาก่อนรัฐธรรมนูญและเป็นศูนย์กลางของกฎหมายรัฐธรรมนูญจึงเห็นภาพความเป็นเอกภาพของปวงชนในชาติ จึงก่อให้เกิดพลังแห่งการสร้างชาติอย่างยิ่งใหญ่ ดุจดังพระธรรมจักร ดังภาพ