xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้ปรองดองรัฐอย่าทำเพื่อตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ดุสิตโพลชี้ปรองดองได้ รัฐบาลต้องไม่ทำเพื่อพวกพ้อง ส่วนฝ่ายค้านก็ต้องไม่ขวางทุกเรื่อง ด้านเอแบคโพลล์หวังผู้ใหญ่ประสานสามัคคี ชี้ประชาชนขอนายกฯ แก้ปากท้องของขวัญปีใหม่

วานนี้ (15 เม.ย.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชน จำนวน 2,249 คน ในหัวข้อการปรองดอง โดยถามว่า รัฐบาลควรทำอย่างไรจึงจะทำให้การปรองดองสำเร็จ 36.17% เห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ ไม่ทำเพื่อหวังผลประโยชน์หรือเพื่อพวกพ้อง 27.65% การรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะเสียงจากประชาชน 21.29% ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และเป็นกลาง มีความมุ่งมั่น ตั้งใจในการสร้างความปรองดอง 8.51% การลดทิฐิ หันหน้าเข้าหากัน พูดคุยปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้าน และ 6.38% จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญของการสร้างความปรองดอง

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านควรทำอย่างไรจึงจะทำให้การปรองดองสำเร็จ 35.10% ไม่มุ่งแต่เอาชนะคะคานกันหรือนำข้อมูลที่ยังไม่ชัดเจนหรือเพียงบางส่วนมาหักล้างไม่ค้านทุกเรื่อง 30.71% ควรตระหนักและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ 16.18% ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ หาแนวทางที่จะช่วยสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นจริง 13.28% ไม่พูดจายั่วยุ เสียดสี โจมตีกันไปมาหรือสาดโคลนใส่กัน และ 4.73% เคารพและปฏิบัติตามกฎระเบียบ เป็นนักการเมืองที่ดี ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า “สื่อมวลชน” ควรทำอย่างไรจึงจะทำให้การปรองดองสำเร็จ 46.80% นำเสนอข่าวที่เป็นกลาง เที่ยงตรง น่าเชื่อถือ นำเสนอข่าวอย่างรอบด้านทุกแง่มุม 29.32% ไม่นำเสนอข่าวในเชิงกระตุ้นให้สังคมแตกแยกหรือมุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว 11.24% ไม่นำความคิดเห็นส่วนตัวออกมาพูดหรือชี้นำกับสาธารณชนจนมากเกินไป 7.23% เป็นตัวกลางในการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนในเรื่องการสร้างความปรองดอง และ 5.41% มีการนำเสนอข่าวการสร้างความปรองดองอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามว่า ประชาชนควรทำอย่างไรจึงจะทำให้การปรองดองสำเร็จ 40.48% ต้องรักใคร่ สามัคคีกัน ไม่ทะเลาะกันเอง เคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน คุยกันด้วยเหตุผล 24.92% ให้ความร่วมมือกับภาครัฐและปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม เคารพกฎหมาย 16.25% การรับฟังข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติและมีวิจารณญาณ ไม่ด่วนสรุปหรือรีบตัดสินใจ 15.57% วางตัวเป็นกลาง ไม่สนับสนุนหรือเข้าร่วมการชุมนุมกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และ 2.78% ให้กำลังใจกับทุกฝ่ายที่มีความตั้งใจจริงในการสร้างความปรองดอง

*หวังผู้ใหญ่ประสานความสามัคคี

วานนี้ (15 เม.ย.) น.ส.ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ของขวัญปีใหม่ไทยที่คนไทยอยากได้จากฝ่ายการเมืองและประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,158 ตัวอย่าง โดยมีช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 พบว่า สิ่งที่คนไทยอยากได้เป็นของขวัญปีใหม่ไทยจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มากที่สุดได้แก่ ร้อยละ 39.9 ระบุแก้ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ ปัญหาเศรษฐกิจ รองลงมาคือ ร้อยละ 20.0 ระบุความปรองดองของคนในชาติ อันดับ 3 หรือร้อยละ 13.2 ระบุการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน อันดับ 4 หรือร้อยละ 6.9 ได้แก่ แก้ปัญหายาเสพติด และอาชญากรรม อันดับ 5 หรือร้อยละ 5.6 ได้แก่ คุณภาพการศึกษา และการขยายโอกาสทางการศึกษา และรองๆ ลงไปคือ แก้ปัญหาน้ำท่วม ภัยธรรมชาติ สวัสดิการด้านสุขภาพ แก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ ดูแลผู้สูงวัย และความเป็นธรรมทางสังคม ไม่เลือกปฏิบัติ ตามลำดับ

นอกจากนี้ ของขวัญปีใหม่ไทยที่คนไทยอยากได้จากฝ่ายค้าน พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 33.8 ได้แก่ เลิกทะเลาะกัน ร่วมมือกับรัฐบาลแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน รองลงมาคือร้อยละ 29.1 ได้แก่นำความปรองดองและความสามัคคีคืนสู่ประเทศ อันดับ 3 หรือร้อยละ 26.7 ได้แก่ ปล่อยให้รัฐบาลทำงานไปก่อน อันดับ 4 หรือร้อยละ 8.9 ได้แก่ แก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน และอันดับ 5 หรือร้อยละ 1.5 ได้แก่ ความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ ของขวัญปีใหม่ไทยที่คนไทยอยากได้จากผู้ใหญ่ผู้มีบารมีในสังคมมากที่สุดร้อยละ 37.2 ได้แก่ ความเป็นตัวประสาน เชื่อมความรักความสามัคคีของคนในชาติ อันดับ 2 หรือร้อยละ 21.1 ได้แก่ ความเป็นแบบอย่างที่ดี น่าเคารพนับถือ อันดับที่ 3 หรือร้อยละ 14.3 ได้แก่ ความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ อันดับ 4 หรือร้อยละ 10.2 ได้แก่ร่วมมือกับรัฐบาล สนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตย อันดับห้าหรือร้อยละ 8.9 ได้แก่ความไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และรองๆ ลงไปคือ ช่วยเหลือประชาชน และแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ตามลำดับ

นอกจากนี้ ที่น่าสนใจ คือ ผลการจับคู่บุคคลสำคัญที่คนไทยอยากให้หันหน้ามารักกันตลอดปีใหม่ไทยและตลอดไป ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 96.2 จับคู่ให้คนไทยทุกกลุ่มทุกสีรักกัน รองลงมาหรือร้อยละ 95.1 จับคู่ให้คนเสื้อเหลือง คนเสื้อแดง ร้อยละ 80.3 จับคู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้นำรัฐบาลกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้านให้หันหน้ามารักกัน ร้อยละ 75.8 จับคู่ พล.อ.เปรม กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้หันหน้ามารักกัน และร้อยละ 64.9 ยังจับคู่ให้นายเทพไท เสนพงศ์ กับนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ หันหน้ามารักกันตลอดปีใหม่ไทยปีนี้และตลอดไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น