xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ไพร่”โดนหลอก 15,000 เต็ม รอถึงพ.ศ.2557

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ครม. “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ประกาศไฟเขียวปรับ “โครงสร้างเงินเดือนข้าราชการ” ทั้งระบบปริญญาตรี จะได้รับเงินเดือน “15,000บาทเต็ม” ในปี พ.ศ.2557

ดูหัวข่าวแล้วเข้าท่าว่าดูดี รัฐบาลทำตามนโยบาย ข้าราชการไทยได้รับเงินแน่นอนแต่!!!
หากดู เรื่องที่ “สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน” หรือ (ก.พ.) เสนอให้ ครม.พิจารณาขอความเห็นชอบ เรื่อง “การปรับปรุงค่าตอบแทนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ : การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชย”

ภายหลังจากที่มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2555 เห็นชอบให้ปรับเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิการศึกษาของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐในปีที่ 1 ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2555 ให้ผู้มีคุณวุฒิตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไปได้รับเงินเดือนแรกบรรจุ รวมกับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวจะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 15,000 บาท และวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรีได้รับการปรับรายได้เพิ่มขึ้นตามระดับวุฒิการศึกษาเช่นเดียวกัน

รวมทั้ง การชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบ โดยให้มีผลใช้บังคับไปพร้อมกัน

เรื่องนี้เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2555 ครม.ยังได้อนุมัติหลักการให้ใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการปรับปรุงค่าตอบแทนดังกล่าว วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท และได้มอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมกับสำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาการปรับให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล โดยคำนึงถึงสภาวะเศรษฐกิจและสถานะการเงินการคลังของประเทศ และผลกระทบต่อการจ้างงานของเอกชน ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.พ.แล้ว

“โครงสร้างเงินเดือนข้าราชการ” ดูดีมีระดับ คือ จะแนวทางดำเนินการที่ได้ปรับปรุงใหม่ ในส่วนของข้าราชการพลเรือนสามัญ กำหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาลในอีก 2 ปีถัดไป

แต่ที่ว่าดูดี กลับลงเหว เหมือนโดนหลอกมาตั้งแต่ต้น !!

เมื่อมาดูบรรทัดนี้ กพ.เสนอ ว่าโดยให้อัตราเงินเดือนแรกบุรรจุขั้นต่ำ

วุฒิปริญญาตรีในปี ที่ 2 (ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2557) เท่ากับ 15,000 บาท ปีที่ 1 (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2556) เท่ากับ 13,300 บาท

วุฒิ ปวส.ปีที่ 2 เท่ากับ 11,500 บาท ปีที่ 1 เท่ากับ 10,200 บาท (วุฒิ ปวส.คงความแตกต่างของเงินเดือนกับวุฒิปริญญาตรี)

วุฒิ ปวช. ปีที่ 2 เท่ากับ 9,400 บาท และปีที่ 1 เท่ากับ 8,300 บาท (วุฒิ ปวช.คงความแตกต่างของเงินเดือนกับวุฒิ ปวส.) และกำหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุขั้นต่อของคุณวุฒิอื่นให้สอดคล้องกับอัตราความแตกต่างระหว่างคุณวุฒิต่างๆ ที่กำหนดไว้เดิม

โดยสรุปอัตราค่าตอบแทนแรกบรรจุเมื่อปรับใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2556 วุฒิ ปวช. 8,300 บาท ปวส. 10,200 บาท ปริญญาตรี 13,300 บาท ปริญญาโท 16,400 บาท ปริญญาเอก 20,000 บาท และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2557

วุฒิ ปวช. 9,400 บาท ปวส. 11,500 บาท ปริญญาตรี 15,000 บาท ปริญญาโท 17,500 บาท ปริญญาเอก 21,000 บาท

แต่ข้อเสนอ ที่ครม.เห็นชอบในหลักการตรงนี้ ให้ปรับเงินเดือนชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบ 2 ครั้ง ให้มีผลใช้บังคับพร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุในปีที่ 1 และปีที่ 2 โดยปรับเงินเดือนชดเชยให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับราชการในตำแหน่ง ระดับแรกบรรจุก่อนวันที่อัตราเงินเดือนแรกบรรจุที่ปรับใหม่ มีผลใช้บังคับ อย่างน้อย 10 ปี (มีอายุราชการตั้งแต่ 1 วันถึง 10 ปีโดยประมาณ)

ส่วนข้าราชการประเภทอื่นและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภท นำเสนอคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นชอบในรายละเอียดการของปรับในแนวทางเดียวกัน

โดย “ครม.ไฟเขียว”ให้ใช้งบประมาณประจำปี 2556-2557 ก่อนดำเนินการบังคับใช้ต่อไป คาดว่าจะใช้งบประมาณเพื่อการปรับเงินเดือนแรกบรรจุ และการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของข้าราชการทุกประเภทและเจ้าหน้าที่ของรัฐ

สำหรับการดำเนินการในปีที่ 1 (ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2556) เพิ่มขึ้นประมาณ 5,010 ล้านบาท และสำหรับการดำเนินการในปีที่ 2 (ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2557) เพิ่มขึ้นประมาณ 7,135 ล้านบาท

ครม.ยังเห็นชอบ ตามที่ “คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.)” เสนอให้การปรับค่าตอบแทนแรกบรรจุ และการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของพนักงานราชการ เพื่อปรับเงินเดือนแรกบรรจุของพนักงานราชการให้สอดคล้อง เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลด้วยเช่นกัน

โดยนำบัญชีอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการพลเรือนสามัญเป็นฐานการคำนวณ กำหนดค่าตอบแทนแรกบรรจุพนักงานราชการกลุ่มทั่วไปบวกเพิ่มอีก 20% จากอัตราแรกบรรจุข้าราชการ ส่วนกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะให้บวกเพิ่ม 30% และปรับวุฒิการศึกษาอื่นๆ ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

ทั้งนี้ ครม.ยังอนุมัติ งบประมาณดำเนินการปรับค่าตอบแทนแรกบรรจุ การชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของพนักงานราชการ และเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว จำนวน 137,129 คนใช้งบฯ ปีงบประมาณ 2556-2557 รวมทั้งสิ้นจำนวน 6,634 ล้านบาท

เรื่องนี้เข้าทาง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร ออกมาถล่ม

กล่าวหาว่า เป็นเรื่องของการให้คำมั่นสัญญารัฐบาลที่ให้ไว้ แต่กลับไม่ทำตามนโยบายไม่ต่างกับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน

แต่สุดท้ายแล้วรัฐบาลก็ทำไม่ได้อย่างที่สัญญาไว้ทั้งที่ ก.พ.ได้เสนอมาโดยตลอด ในที่สุดแล้วก็เลื่อนออกไป เมื่อรายได้ที่จะได้รับเพิ่มขึ้นกลับถูกเลื่อนออกไป

ในขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายสูงเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลขึ้นราคาน้ำมัน ราคาแก๊สทั้งหมดยิ่งจะส่งผลกระทบให้ประชาชนเดือดร้อนและอย่าลืมว่า ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับประโยชน์จากนโยบายเหล่านี้ แต่ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น เราเคยเตือนรัฐบาลแล้วว่าราคาพลังงานจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจะเป็นการเพิ่มต้นทุนและส่งผลต่อการเก็งกำไรทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปกป้องตนเองด้วยการขึ้นราคาสินค้า ทำให้จะแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงเป็นไปได้ยาก และการแก้ปัญหาของรัฐบาลในปัจจุบันนี้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การเอาภาษีประชาชนไปทำโครงการที่ช่วยคนได้อย่างจำกัด ไม่แก้ปัญหาที่โครงสร้าง

หากย้อนกลับไป ช่วงรัฐบาลพีกสูงสุด ทั้ง “ยิ่งลักษณ์-กิตติรัตน์” ออกมาประสานเสียงคล้ายๆกัน โดยยืนยัน “ข้าราชการปริญญาตรี

“เงินเดือนหมื่นห้า ดีเดย์ 1 ม.ค.55”ชัวร์

ถึงขั้น “กระทรวงการคลัง”บอกกับสื่อทุกแขนง ยืนยันจะปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและบุคลากรภาครัฐในระดับปริญญาตรีที่มีเงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 1.5 หมื่นบาท เพื่อปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยจะเริ่มทันทีปีใหม่ 1 ม.ค.2555 นี้

โดยในกลุ่มนี้ ซึ่งมีอยู่กว่า 6.49 แสนคน ที่มีอัตราเงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึง 1.5 หมื่นบาท แบ่งเป็น

-วุฒิป.ตรี เงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึง15,000 บาท ให้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มอีก เมื่อรวมกับเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้วเท่ากับ 15,000 บาท

-วุฒิต่ำกว่าป.ตรี และทหารกองประจำการที่มีเงินเดือนไม่ถึง 9,000 บาท ให้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว เป็น 9,000 บาท

ใช้งบประมาณ ในปีแรกอยู่ที่ประมาณ 1.88 หมื่นล้านบาท

แต่ตอนนี้ สรุปได้ ข้างต้นแล้วว่า เงินเดือน 15,000 บาทที่จะได้เต็ม ๆ คงรออีกยาว ยาวไปๆ ไพร่โดนหลอกไปตามๆกัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น