xs
xsm
sm
md
lg

สุกำพลอ้างที่4.6ตร.กม.นิดเดียว ไม่ยกมาถกวงJWG ไทย-กัมพูชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ( JWG ) เพื่อหาแนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลก เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการพูดคุยกันเป็นบวก โดยมีเรื่องสำคัญ 2 ประเด็นคือ ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องทำงานด้วยกัน และจะร่วมกันเก็บกู้กับระเบิดที่อยู่ในพื้นที่ 17.3 ตร. กม. บริเวณพื้นที่ปราสาทพระวิหารทั้งหมด
ทั้งนี้คณะทำงาน JWG ไม่ใช่หน่วยงานตัดสินใจ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา(GBC) โดยที่ JWG เป็นส่วนหนึ่งของGBC เท่านั้น ขณะนี้ไทย-กัมพูชา คุยกันรู้เรื่องมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีคนกลาง และขณะนี้ยังไม่มีการปรับกำลังทหารในพื้นที่ ส่วนเรื่องการปรับเปลี่ยนกำลังเป็นไปตามวงรอบเท่านั้น โดยยืนยันว่า ยังไม่ถอนทหารออกจากพื้นที่
เมื่อถามว่า จะดำเนินการกับประชาชนชาวกัมพูชา ที่อยู่ในพื้นที่ 4.6 ตร.กม. อย่างไร พล.อ.อ. สุกำพล กล่าวว่า เรายังไม่พูดถึงตรงนั้น แต่คงเป็นเรื่องต่อไปที่ต้องคุยกัน เรื่องนี้ต้องระวังเพราะบ้านเมืองก็มีหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มฮาร์ดคอร์ จึงต้องค่อยๆ คุยกัน เพราะบางทีจะเกิดผลหลายเรื่อง แต่ในส่วนของทหารจะพูดคุยกันบนพื้นฐานความเข้าใจ พื้นที่เขาพระวิหารมีนิดเดียว ซึ่งต่อไปเราก็จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และไทยเป็นประเทศที่โชคดีที่อยู่ตรงกลางของประเทศอาเซียน การรวมตัวกันของอาเซียน ถือเป็นโชคดีของประเทศไทย ปัญหาที่พูดกันเป็นเรื่องเล็กน้อย ลิ้นกับฟัน ต้องกระทบกันบ้าง
ผู้สื่อข่าววรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา (JWG) ครั้งทื่ 1 โดยมี พล.อ.วรพงษ์ สง่าแนตร เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นประธานฝ่ายไทย ส่วนพล.อ.เนียง พาด รมช.กลาโหมกัมพูชา เป็นประธานฝ่ายกัมพูชา โดยใช้เวลาประชุมเกือบ 10 ชั่วโมง โดยที่ประชุมมีมติว่า
1. ทั้งสองฝ่ายจะแต่งตั้งเลขานุการของตัวเอง เพื่อทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานของคณะทำงานร่วม โดยจะมีการสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล และวิทยุสื่อสาร
2. ที่ประชุมเห็นชอบมอบหมายให้ศูนย์การเก็บกู้ทุ่นระเบิดของทั้งไทยและกัมพูชา มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกันในพื้นที่ที่กำหนด โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะดำเนินการบริเวณจุดที่กำหนดคือ เอ บี ซี ดี ของพื้นที่เขตปลอดทหหารชั่วคราว
3. การประชุมเป็นไปด้วยบรรยากาศเป็นมิตร มีความเข้าใจที่ดีต่อกัน สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของประเทศเพื่อนบ้านที่ดี สนับสนุนการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อความมั่งคั่งของประชาชนสองประเทศ และเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันบนพื้นฐานความเท่าเทียมและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ตามเจตนารมณ์ของอาเซียน เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็งต่อไป
ทั้งนี้การประชุมครั้งต่อไป จะมีการประสานวันเวลา สถานที่อีกครั้ง โดยทางกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในการประชุม สำหรับผลการประชุมครั้งที่ 1 ฝ่ายไทยจะรายงานให้คณะกรรมการจีบีซี ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายภายในของฝ่ายไทยต่อไป โดยการประชุมครั้งที่ 1 ไม่มีการลงนามแต่อย่างใด แต่ใช้รูปแบบการบันทึกการหารือแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น