ศรีสะเกษ- ภาคเอกชนศรีสะเกษ หนุนค้านถอนทหารไทยพ้น “เขาพระวิหาร” ชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้หากไทยถอนกำลังฝ่ายเขมรต้องขนทั้งทหารและชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่รอบประสาทพระวิหารทั้งหมดเพื่อให้เป็นเขตปลอดทหาร-ปชช. ผวาเขมรใช้ ปชช.รุกคืบยึดแผ่นดินไทยไม่หยุด ยันไทยเป็นประเทศเอกราชไม่เห็นด้วยให้ทหารอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ (คปศ.) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มกำลังแผ่นดินและเครือข่ายประชาชนชาวกันทรลักษ์พิทักษ์เขาพระวิหาร ได้ดำเนินการทำประชาพิจารณ์และประชาชนชาวศรีสะเกษลงมติมีความเห็นคัดค้านการถอนกำลังทหารไทยออกจากบริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามคำสั่งของศาลโลกว่า เรื่องการถอนทหารนั้นหากทั้ง 2 ฝ่ายทั้งไทยและกัมพูชาถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ด้วยกันโดยให้บริเวณรอบปราสาทพระวิหารเป็นเขตปลอดทั้งประชาชนและทหารนั้น ตนเห็นด้วย
แต่หากให้ถอนเฉพาะกำลังทหาร แต่ชาวกัมพูชายังคงตั้งชุมชนอาศัยอยู่รอบบริเวณเขาพระวิหารนั้นไม่เห็นด้วย เพราะหากไทยเราถอนกำลังทหารออกมาชาวกัมพูชาที่อยู่รอบบริเวณปราสาทพระวิหารก็จะรุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทยและยึดพื้นที่รุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด
นายทิวากล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการทำประชาพิจารณ์นั้นเป็นเรื่องดี แต่น่าจะมีการประชาพิจารณ์ทุกจุดโดยเฉพาะในตัว จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีนักวิชาการ นักศึกษา ข้าราชการส่วนต่างๆ และประชาชนที่มีความสนใจในเรื่องของปราสาทพระวิหารเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่ประชาพิจารณ์เฉพาะในชุมชน หมู่บ้านต่างๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้การประชาพิจารณ์เป็นไปอย่างกว้างขวาง
ส่วนกรณีจะมีการส่งทหารอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ที่บริเวณเขาพระวิหารในเขตแดนไทยนั้น ขอยืนยันว่าไทยเราเป็นประเทศมีเอกราช ไม่เห็นด้วยที่จะให้ทหารต่างชาติเข้ามาอยู่ในดินแดนของประเทศไทย
“จุดยืนของเรา คือ อยากให้ทั้งสองฝ่ายปักปันเขตแดนให้เรียบร้อยและให้ถอนประชาชนชาวกัมพูชาที่รุกล้ำอธิปไตยไทยเข้ามาอยู่รอบบริเวณเขาพระวิหารออกไปให้หมด รวมทั้งไม่อยากให้มีการเผชิญหน้ากัน แต่ไม่เห็นด้วยในการถอนกำลังทหารไทยออกมาในขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังให้ประชาชนอยู่เต็มในพื้นที่บริเวณรอบปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นการไม่ถูกต้อง ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งรับไม่ได้ในเรื่องนี้” นายทิวากล่าว
