xs
xsm
sm
md
lg

ออกหมายจับ2มือบึ้ม นพเหล่ร้อนตัว"แม้ว"เอี่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจเตรียมออกหมายจับ 2 มือระเบิดคาร์บอมบ์หาดใหญ่ อีกไม่เกิน 2 วัน พร้อมตั้งค่าหัวเป็นคนละ 1 ล้านบาท โรงแรมลี การ์เดนส์ฯ เปิดให้ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าตรวจสอบทรัพย์สินแล้ว ด้านยะลาสั่งระดมกำลังล่ากลุ่มคาร์บอมบ์ เชื่อ "อิสมาแอ" ชักใยอยู่เบื้องหลัง ตำรวจทำปฏิทินรถต้องสงสัยแจก หากใครพบเบาะแสแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ด่วน "มาร์ค"อัดใช้เงินซื้อโจร แค่คิดก็ผิดแล้ว "นพเหล่"ยัน"แม้ว"ไม่เกี่ยวบึ้ม "ปู"ยินดีเปิดสภาหารือดับไฟใต้

พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีลอบวางระเบิดโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาว่า เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับ 2 คนร้ายที่ก่อเหตุในอีกไม่เกิน 2 วัน รอเพียงการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกบางส่วนเท่านั้น โดย 2 คนร้ายที่เตรียมออกหมายจับนี้ กล้องวงจรปิดของโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า บันทึกภาพไว้ได้ขณะขับรถเก๋งคาร์บอมเข้าไปจอด และเดินออกจากโรงแรม ซึ่งได้มีการเปิดเผยไปก่อนหน้านี้แล้ว และเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ใน จ.ยะลา เนื่องจากสารที่ประกอบระเบิดเป็นชนิดเดียวกัน และคนร้ายมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเชื่อว่าขณะนี้ยังคงอยู่ในพื้นที่

นอกจากนี้ ทางตำรวจยังได้ตั้งรางวัลนำจับทั้ง 2 คน เพิ่มเป็นคนละ1 ล้านบาท นอกเหนือจากที่นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ตั้งรางวัลนำจับไปเมื่อวานนี้ คนละ 5 แสนบาท

**เปิดให้เจ้าร้านเข้าตรวจสอบทรัพย์สิน

ส่วนบรรยากาศที่โรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ พื้นที่เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบความปลอดภัยภายในโรงแรมในส่วนของพลาซ่าอีกครั้ง ตั้งแต่ชั้นที่ 1 ถึง ชั้น 5 ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่โรงแรมนำผู้ประกอบการในส่วนของพลาซ่า ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 200 ร้านเข้าไปเก็บสิ่งของมีค่าและสิ่งของต่างๆ ภายในร้านออกมา ขณะที่ในส่วนของรถจักรยานยนต์เจ้าของรถก็ยังคงทยอยนำออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับรถยนต์จะสามารถนำรถออกได้ภายในวันที่ 6 เม.ย.นี้ ในส่วนของด้านโครงสร้างตัวตึกนั้นทางวิศวกรโยธากำลังดำเนินการใช้เครื่องมือตรวจวัดตัวอาคารตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่

ขณะที่บรรยากาศด้านบริเวณหน้าโรงแรม ได้มีผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ มารอเพื่อที่จะเข้าไปตรวจสอบร้านค้าของตนเองตั้งแต่เช้า เพื่อเก็บสิ่งของต่างๆ ภายในร้าน ร่วมทั้งถ่ายรูปความเสียหายเพื่อยืนให้กับเจ้าหน้าที่ของทางจังหวัดที่มาตั้งโต๊ะรับยืนเอกสาร เพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องการเยียวยาทรัพย์สินที่เสียหาย โดยทางเจ้าหน้าที่ได้จัดระบบในการเข้าไปตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ของผู้ประกอบการ ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามลงไปด้วย เพื่อป้องกันการขโมยสินค้าภายในร้านอื่น เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายได้ร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ทรัพย์สินบางอย่างภายในตัวร้านสูญหาย

สำหรับบริเวณโดยรอบของโรงแรมลีการ์เดนส์ฯ ยังคงเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ที่เข้ามาร่วมกันดูแลกันพื้นที่ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในตัวอาคาร โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันทรัพย์สูญหาย

**ผู้แทนพระองค์เยี่ยมเหยื่อคาร์บอมบ์

วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้แทนพระองค์ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้เดินทางเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ และเพลิงไหม้โรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งขณะนี้ยังคงมีพักรักษาตัวอยู่ทั้งสิ้น 9 คน โดยได้มอบสิ่งของพระราชทาน พร้อมทั้งพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ โดยผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดขณะนี้มีอาการดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะ ด.ช.กัณต์ณภัทต์ อินทรสุวรรณ วัย 2 เดือน ในวันนี้อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และต่างซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ และปลอบขวัญให้กำลังใจผู้ประสบเหตุภัยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้พูดคุยกับนายวันชัย ลีละศิธร เจ้าของโรงแรมและครอบครัว พร้อมกล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ เนื่องจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้รับสั่งให้เดินทางมาเยี่ยม และให้กำลังใจ เนื่องจากพระองค์ทรงมีความห่วงใยผู้ที่ประสบภัยทุกคน

**ยะลาเชื่อ"อิสมาแอ"ชักใย

นายประยูร รัตนเสนีย์ รองผู้ว่าราชการ จ.ยะลา กล่าวว่า จากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ถนนรวมมิตร เขตเทศบาลนครยะลา สร้างความหวาดกลัว และเป็นข่าวสะเทือนขวัญทั่วประเทศ เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานด้านความมั่นคง ไม่นิ่งนอนใจ เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด และวิเคราะห์ทีวีวงจรปิด เพื่อหาที่มาของรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจค้นสถานที่ต่างๆ ที่ต้องสงสัยว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะหลบซ่อนตัวอยู่

สำหรับการตรวจค้นโรงเรียนปอเนาะ เนื่องจากพบว่า รถยนต์คันที่ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และเจ้าหน้าที่เริ่มเชื่อว่า การก่อเหตุครั้งนี้มี นายอิสมาแอ ระยะหลง แกนนำคนสำคัญที่กำลังหลบหนีมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากเคยเป็นครูสอนศาสนาในพื้นที่ดังกล่าว

**ตร.ทำปฏิทินรถต้องสงสัยคาร์บอมบ์แจก

หลังหน่วยงานด้านความมั่นคงออกมาระบุแจ้งเตือนไปยังหน่วยกำลังในพื้นที่ให้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย เนื่องจากกลุ่มก่อความไม่สงบยังมีแผนก่อวินาศกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการติดตามรถประกอบระเบิด 10 คัน ทำให้กองบังคับการ ตร.ภ.จว.ปัตตานี ได้ออกปฏิทินภาพรถยนต์ 7 คัน ที่คนร้ายใช้ประกอบคาร์บอมบ์ และล่าสุด ใช้ก่อเหตุระเบิดไปแล้ว 3 คัน ประกอบด้วยรถฮอนด้า ซีวิค สีดำ ก่อเหตุระเบิดที่โรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รถกระบะ 2 คัน ที่ระเบิดกลางเมืองยะลา

ส่วนที่เหลืออีก 4 คัน เป็นรถโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บน 3384 ลำปาง รถกระบะสีเขียว ยี่ห้อมิตซซูบิชิ สตาด้า ทะเบียน ม 1137 ปัตตานี และรถกระบะสีน้ำตาล ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน 9197 ปัตตานี อีกคันเป็นรถกระบะสีน้ำตาล ไม่ทราบทะเบียน หากใครพบเบาะแสให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้ตรวจสอบอย่างเร่งด่วนที่ โทร 0-7341-4688 และ 0-7334-8555

**"ยุทธศักดิ์"สั่งฝ่ายความมั่นคงทำงานเชิงรุก

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า กรณีการก่อเหตุรุนแรงที่โรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่นั้น เป็นเพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีศูนย์การค้า ซึ่งตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกรณีที่ทางโรงแรมเพิ่งซ้อมแผนเผชิญเหตุเมื่อกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น โดยมีรายงานว่าทางโรงแรมได้เปลี่ยนทีมรักษาความปลอดภัยในวันเกิดเหตุ ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงทราบข้อมูลของแกนนำผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่และได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาในบางรายแล้ว

สำหรับระเบิดที่ใช้ก่อเหตุ ประกอบในประเทศไทย แต่อาจนำส่วนประกอบมาจากต่างประเทศ และมั่นใจว่าไม่ถึงขั้นระเบิดพลีชีพ และขยายพื้นที่ออกนอก 4 จังหวัด ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามรถต้องสงสัยที่เหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะมีการเข้มงวดตรวจสอบยานพาหนะในพื้นที่ให้เพิ่มมากขึ้น

พร้อมกันนี้ ได้ปฏิเสธข่าวที่เจ้าหน้าที่จะเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น ส่วนแนวทางการแก้ปัญหา จะต้องทำในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งเรื่องแรก คือ ด้านการข่าว ต้องเพิ่มประสิทธิภาพ เพราะหากการข่าวไม่ดี การแก้ปัญหาด้านอื่นทำได้ยาก

**จับมือบอมบ์ข้างโรงพักปัตตานี

ส่วนที่ จ.ปัตตานี เวลา 09.00 น. ที่กองบังคับการสถานีตำรวจภูธร จ.ปัตตานี พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พลตรีชวลิต ชุนประสาน ผบ.ฉก.ปัตตานี ร่วมกันนำตัวนายสัมลี ฮูลูดือเระ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.4 ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา ศาลจังหวัดปัตตานี แถลงข่าวหลังถูกจับกุมได้ขณะหลบซ่อนตัวภายในบ้านพักของภรรยา เลขที่ 60/1 ม.4 ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี พร้อมทั้งตรวจค้นบ้านพัก สามารถยึดของกลาง ประกอบด้วย กางเกง เสื้อ หมวกแก๊ป ที่ใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังตรวจยึดคีมตัดเหล็ก ตะปูเรือใบ สายไฟ และโทรศัพท์ และนำไปตรวจสอบหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ด้วย

โดยการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ซุกระเบิดมาจอดไว้หน้าร้านข้าวแกง ข้าง สภ.แม่ลาน แล้วจึงกดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จิตการ เกื้อก่อยอด รอง ผกก.ป.สภ.แม่ลาน ที่กำลังนั่งกินข้าวได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จากพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นภาพคนร้ายที่เป็นคนขับรถ จักรยานยนต์ซุกระเบิดมาจอดไว้ และจากพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ต่างยืนยันชัดเจนว่านายสัมลีเป็นคนที่ขับรถจักรยานยนต์ซุกระเบิดมาจอดไว้ตามที่ภาพวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ก่อนจะเดินขึ้นรถจักรยานยนต์อีกคันที่มีเพื่อนมารอรับหลบหนีไปก่อนเกิดการระเบิดเพียง 3 นาที โดยคนร้ายอีกคนที่พานายสัมลีหลบหนีนั้น ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป

***"นพเหล่"ปัด"แม้วไม่เกี่ยวระเบิดใต้

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง ส.ส.ประชาธิปัตย์ แสดงความเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนร้ายก่อเหตุระเบิดในภาคใต้ เนื่องจากไม่พอใจพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไปเจรจากับหัวหน้าโจร ว่า อยากจะขอให้พรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อย่าไปเชื่อตามกระแสข่าว ขอให้เชื่อในความจริง อย่าเชื่อในสิ่งที่เป็นเท็จ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และไม่ได้ไปเจรจากับหัวหน้ากลุ่มผู้ก่อการต่างๆ ตามที่มีการนำเสนอข่าว

"ขอฝากถึงสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่า ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็น ในเรื่องที่สำคัญ ควรจะตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ดีก่อน ถึงจะถูกต้องและเป็นธรรมกับคนอื่น และขอยืนยันว่า การก่อเหตุระเบิด ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งนี้ ผมมีความรู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่พรรคประชาธิปัตย์ มักจะโยนความผิดทุกอย่างในโลกนี้ ผมอยากเรียนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่แก๊ซโซฮอล์ ที่เมื่อขับรถพัง แล้วจะมาโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกเรื่อง"นายนพดลกล่าว

นายนพดลกล่าวว่า ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือนายอภิสิทธิ์ ตนเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ควรเอาปัญหาความรุนแรงภาคใต้ มาเป็นประเด็นการเมือง และโยนบาปกันไปมา ฝ่ายค้านเองก็สามารถทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ และร่วมมือกับรัฐบาลได้ เพราะผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากเห็นความสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์อยู่แล้ว ตนมั่นใจว่า หากพรรคปราธิปัตย์ มีข้อมูลหรือข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็คงมีความยินดีที่จะรับฟังและยอมรับข้อเสนอนั้น

***"สุกำพล"ปัด"ทวี-ทักษิณ"เจรจาบีอาร์เอ็น

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว ศอ.บต.ได้ส่งคนเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นกลุ่มเก่า จนทำให้กลุ่มบีอาร์เอ็นสายเหยี่ยวกลุ่มใหม่ เกิดความไม่พอใจ จนต้องออกมาแสดงตัว โดยการออกมาก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่ จ.สงขลา และจ.ยะลา ว่า คงไม่ได้ห้ามและคงไม่ได้เสียหาย หากเป็นการดำเนินการในนโยบายระดับล่าง แต่ระดับบนไม่มีนโยบายเปิดพื้นที่การพูดคุยกัน ทั้งนี้ อาจเป็นเรื่องของคนปฏิบัติที่เขาต้องการทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ข้างบนไม่ได้มีการสั่ง

"ผมไม่ทราบว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ไปคุยกับกลุ่มดังกล่าว เพราะเมื่อวานก็คุยกับทวีก็ไม่เห็นบอกว่าไปคุยจริงหรือไม่ แต่หากผู้ปฏิบัติคุยกันได้ก็เป็นเรื่องดี ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เข้ามาพยายามเคลียร์ภาคใต้นั้น ผมไม่เชื่อข่าวนี้ ไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณไปคุย" พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว

***"มาร์ค"อัดใช้เงินซื้อโจรแค่คิดก็ผิด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เสนอเงินหลายร้อยล้านบาทให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยุติการเคลื่อนไหว จะยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ใครก็ตามที่คิดว่าวิธีการเช่นนั้นจะแก้ปัญหาได้แสดงว่า ไม่เข้าใจสถานการณ์อย่างแท้จริง

เมื่อถามถึงข้อเสนอให้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่มในบางพื้นที่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะเป็นการถอยหลังมากกว่า ที่ผ่านมา ยังไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าการเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ใดแล้วจะมีปัญหา ทั้งนี้ รัฐบาลควรจะเร่งฟื้นฟูพร้อมสร้างความเชื่อมั่น มีความชัดเจนเรื่องนโยบายและให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่า

***"ยิ่งลักษณ์"ยินดีเปิดสภาดับไฟใต้

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 กองทัพอากาดอนเมือง ภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมอาเซียนที่ประเทศกัมพูชาถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้เปิดประชุมสภาอภิปรายทั่วไปในวาระแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เรายินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นของทุกส่วน ในการที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหา

เมื่อถามว่าจะพร้อมเปิดอภิปรายหรือไม่ นายกฯ กล่าวพยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถาม และกล่าวเพียงว่า ขอทำงานก่อน ขออนุญาตสื่อมวลชนนิดนึง เพราะว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ขอเวลาทำงาน เพราะว่าเราต้องได้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงก่อน แต่ยินดีรับฟังข้อคิดเห็น

ส่วนจะยกระดับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้ที่ระดับไหนนั้น นายกฯ กล่าวว่า ต้องยกระดับเป็นความสำคัญอยู่แล้ว ให้ความสำคัญอยู่แล้วทุกปัญหาของพี่น้องประชาชนให้ความสำคัญเช่นเดียวกันไม่ได้ละเลย สื่อมวลชนก็เห็นว่าหลังจากเกิดเหตุได้สั่งการทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ลงไปในพื้นที่และตนก็ติดตามตลอดเวลาอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจะใช้เกณฑ์ไหนในการเยียวยาประชาชนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามและนั่งรถออกจาก บน.6 ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น