ส่งท้ายเดือนมีนาคมเกิดระเบิดขึ้นใน 3 จังหวัดภาคใต้ สงขลา ยะลา ปัตตานี เวลาใกล้เคียงกัน สร้างความเสียหายแก่ชีวิตทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกว่า เป็นการกระทำของกลุ่มโจรกลุ่มเล็กๆ
ไม่ต่างจากความคิดความเห็นของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคยแสดงความเห็นเอาไว้เมื่อคราวที่เกิดเหตุการณ์ปล้นปืนในค่ายทหารคราวโน้นว่า เป็นฝีมือของโจรกระจอก
เหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.หาดใหญ่ ได้รับรายงานว่าเกิดระเบิดขึ้นที่ชั้นใต้ดินของศูนย์การค้าลีการ์เดนส์ พลาซ่า ถนนเสน่หานุสรณ์ อำเภอ หาดใหญ่ สงขลา ซึ่งเป็นย่านการค้าสำคัญ เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้า และโรงแรมที่สูงที่สุดในหาดใหญ่มี 33 ชั้น
จุดเกิดเหตุเป็นลานจอดรถใต้ดินชั้น 4 แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่ท่อส่งแก๊สให้กับร้านค้าแมคโดนัลด์ซึ่งตั้งอยู่หน้าศูนย์การค้า เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงลามขึ้นไปชั้น 2 ขณะที่ชั้น 4 เป็นล็อบบี้ ห้องอาหาร จึงเกิดความโกลาหลขึ้น มีนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์พักอยู่ในโรงแรม 300 กว่าคน ต้องระดมเจ้าหน้าที่นับร้อยนายเข้าไปช่วยอพยพหนีภัย
ปรากฏว่าต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงเพลิงจึงได้สงบเหลือแต่กลุ่มควัน พบศพผู้เสียชีวิต 5 ศพ มีผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี โรงพยาบาลมิตรภาพรวม 275 ราย
ที่ยะลาเกิดเหตุระเบิดเช่นเดียวกัน ในเวลา 12.30 น. ที่สี่แยกถนนจงรักษ์ หน้าร้านข้าวต้มรุ่งเรือง หลังระเบิดเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วรุนแรง ตึกแถว 2 ชั้น 10 คูหาเสียหายทั้งหมด รถยนต์ มีผู้เสียชีวิต 11 ราย เข้ารักษาตัวในห้องไอซียู 9 ราย
และที่ปัตตานีเกิดระเบิดขึ้นที่หน้าร้านข้าวแกงสัญญาห่างจากสถานีตำรวจแม่ลานเพียง 50 เมตร พ.ต.ท.จิตการ เกื้อก่อยอด รอง ผกก.ป.สภ.แม่ลานถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณคิ้ว ใบหู จุดที่เกิดเหตุพบซากรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ใช้ซุกระเบิด
นี่เป็นฝีมือของกลุ่มโจรกลุ่มเล็กๆ ในความเห็นของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งว่าไปแล้วควรที่จะไปเอาดีทางการเดินแฟชั่น หรือการแต่งตัวให้ดูสวยงาม สวมชุดประจำชาติประเทศต่างๆ ในโลกนี้มากกว่าการเป็นนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศที่จะต้องใช้สมอง ใช้สติปัญญาเป็นไหนๆ
โจรกลุ่มเล็กๆ สามารถประสานงานก่อวินาศกรรมในเวลาใกล้เคียงกันใน 3 จังหวัด สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ให้กับประชาชนอย่างหนักชนิดที่ยังไม่มีโจรกลุ่มใดก่อความเสียหายเช่นนี้มาก่อน
แน่นอนว่าจะกระทบกับการท่องเที่ยวในอนาคตอันใกล้ คือ เทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ และการท่องเที่ยวในอนาคตก็จะต้องได้รับผลสะเทือนอย่างใหญ่หลวงแน่นอน หากนายกรัฐมนตรียังเบาใจว่าเป็นโจรกลุ่มเล็กๆ ไม่สลักสำคัญ ไม่ใช่ปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไขขจัดปัดเป่า
เพราะงานสำคัญของรัฐบาลนี้คือเร่งช่วยพี่ชายของนางที่กำลังหนีคุกอยู่เวลานี้ให้ได้มีโอกาสกลับประเทศได้อย่างเท่ๆ ตามความต้องการ เพราะได้ลงแรงลงทุนไปมากโขแล้ว
แผนการช่วยพี่ชายจึงอยู่ที่การเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือว่าที่จริงก็คือ ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ทิ้งแล้วร่างขึ้นมาใหม่ โดยอ้าง ส.ส.ร.เป็นคนร่าง รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นด้วย นั่นเป็นหนทางหนึ่ง อีกทางหนึ่ง พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติซึ่งใช้กำลังยึดอำนาจทักษิณเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 มาวันนี้หัวหน้าคณะปฏิวัติบอกให้ลืมความหลังหันมาปรองดองกันเพื่อประเทศชาติ
ผู้คนเขางงกันทั้งประเทศว่า พลเอกสนธิเป็นคนชนิดไหน เป็นคนรึเปล่า?
นี่ก็เช่นเดียวกัน นางสาวยิ่งลักษณ์บอกไม่รู้ไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องของสภา
ดูเหมือนว่าเกิดเป็นนางสาวยิ่งลักษณ์ เรื่องการบ้านการเมืองเธอจะไม่ค่อยรู้เรื่องเอาเสียเลย ท่องได้แต่คำว่า “เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน ไม่ทำเพื่อคนคนเดียว ทักษิณไม่เกี่ยว”
แต่ลงมือทำทีไร ทักษิณได้ประโยชน์ทุกทีไป
ผู้ที่ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอาจจะรู้สึกอึดอัดขัดข้องใจว่าจะต้องทนกับรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ไปอีกนานเท่าไร?
นานตราบเท่าที่เรายังทนกันได้แหละครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 15 ล้านเสียง เขาทนได้ เราก็ต้องทนได้ บางคนอาจจะบอกว่า 15 ล้านเสียงเขาได้ประโยชน์มาร่วมชุมนุมปี 2552 และปี 2553 ก็ได้รับเงินเป็นเงินประกันโดยที่ไม่ต้องเสียเบี้ยประกัน ตายก็ได้ 7.5 ล้านบาท บาดเจ็บก็ได้ลดหลั่นลงมา
เชื่อเถอะครับว่า พวกเขาไม่ได้กันครบ 15 ล้านคนหรอก ได้เพียงไม่กี่ร้อยครอบครัวเท่านั้น ให้เขาไปเถอะ เขาเป็นเสียงข้างมาก พรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคบอกว่า ต้องเคารพระบบรัฐสภา
ระบบรัฐสภาจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นจริงหรือไม่จริง ต้องค่อยๆ ให้นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์เรียนรู้
นานตราบเท่าที่ทุกคนยังทนกันได้ เราก็ต้องทนให้ได้ เราไม่ได้ซื้อข้าวของแพงเฉพาะเราคนเดียว 15 ล้านเสียงที่เลือกนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ก็กินข้าวแพงเหมือนกัน ซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคแพงเหมือนกัน
ประเทศชาติอยู่ในสภาพย่ำแย่น่าอับอายขายหน้า 15 ล้านคนเขาทนได้ เราก็ต้องทนได้เหมือนกัน
ไม่ต่างจากความคิดความเห็นของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคยแสดงความเห็นเอาไว้เมื่อคราวที่เกิดเหตุการณ์ปล้นปืนในค่ายทหารคราวโน้นว่า เป็นฝีมือของโจรกระจอก
เหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.หาดใหญ่ ได้รับรายงานว่าเกิดระเบิดขึ้นที่ชั้นใต้ดินของศูนย์การค้าลีการ์เดนส์ พลาซ่า ถนนเสน่หานุสรณ์ อำเภอ หาดใหญ่ สงขลา ซึ่งเป็นย่านการค้าสำคัญ เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้า และโรงแรมที่สูงที่สุดในหาดใหญ่มี 33 ชั้น
จุดเกิดเหตุเป็นลานจอดรถใต้ดินชั้น 4 แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่ท่อส่งแก๊สให้กับร้านค้าแมคโดนัลด์ซึ่งตั้งอยู่หน้าศูนย์การค้า เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงลามขึ้นไปชั้น 2 ขณะที่ชั้น 4 เป็นล็อบบี้ ห้องอาหาร จึงเกิดความโกลาหลขึ้น มีนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์พักอยู่ในโรงแรม 300 กว่าคน ต้องระดมเจ้าหน้าที่นับร้อยนายเข้าไปช่วยอพยพหนีภัย
ปรากฏว่าต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงเพลิงจึงได้สงบเหลือแต่กลุ่มควัน พบศพผู้เสียชีวิต 5 ศพ มีผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี โรงพยาบาลมิตรภาพรวม 275 ราย
ที่ยะลาเกิดเหตุระเบิดเช่นเดียวกัน ในเวลา 12.30 น. ที่สี่แยกถนนจงรักษ์ หน้าร้านข้าวต้มรุ่งเรือง หลังระเบิดเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วรุนแรง ตึกแถว 2 ชั้น 10 คูหาเสียหายทั้งหมด รถยนต์ มีผู้เสียชีวิต 11 ราย เข้ารักษาตัวในห้องไอซียู 9 ราย
และที่ปัตตานีเกิดระเบิดขึ้นที่หน้าร้านข้าวแกงสัญญาห่างจากสถานีตำรวจแม่ลานเพียง 50 เมตร พ.ต.ท.จิตการ เกื้อก่อยอด รอง ผกก.ป.สภ.แม่ลานถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณคิ้ว ใบหู จุดที่เกิดเหตุพบซากรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ใช้ซุกระเบิด
นี่เป็นฝีมือของกลุ่มโจรกลุ่มเล็กๆ ในความเห็นของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งว่าไปแล้วควรที่จะไปเอาดีทางการเดินแฟชั่น หรือการแต่งตัวให้ดูสวยงาม สวมชุดประจำชาติประเทศต่างๆ ในโลกนี้มากกว่าการเป็นนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศที่จะต้องใช้สมอง ใช้สติปัญญาเป็นไหนๆ
โจรกลุ่มเล็กๆ สามารถประสานงานก่อวินาศกรรมในเวลาใกล้เคียงกันใน 3 จังหวัด สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ให้กับประชาชนอย่างหนักชนิดที่ยังไม่มีโจรกลุ่มใดก่อความเสียหายเช่นนี้มาก่อน
แน่นอนว่าจะกระทบกับการท่องเที่ยวในอนาคตอันใกล้ คือ เทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ และการท่องเที่ยวในอนาคตก็จะต้องได้รับผลสะเทือนอย่างใหญ่หลวงแน่นอน หากนายกรัฐมนตรียังเบาใจว่าเป็นโจรกลุ่มเล็กๆ ไม่สลักสำคัญ ไม่ใช่ปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไขขจัดปัดเป่า
เพราะงานสำคัญของรัฐบาลนี้คือเร่งช่วยพี่ชายของนางที่กำลังหนีคุกอยู่เวลานี้ให้ได้มีโอกาสกลับประเทศได้อย่างเท่ๆ ตามความต้องการ เพราะได้ลงแรงลงทุนไปมากโขแล้ว
แผนการช่วยพี่ชายจึงอยู่ที่การเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือว่าที่จริงก็คือ ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ทิ้งแล้วร่างขึ้นมาใหม่ โดยอ้าง ส.ส.ร.เป็นคนร่าง รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นด้วย นั่นเป็นหนทางหนึ่ง อีกทางหนึ่ง พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติซึ่งใช้กำลังยึดอำนาจทักษิณเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 มาวันนี้หัวหน้าคณะปฏิวัติบอกให้ลืมความหลังหันมาปรองดองกันเพื่อประเทศชาติ
ผู้คนเขางงกันทั้งประเทศว่า พลเอกสนธิเป็นคนชนิดไหน เป็นคนรึเปล่า?
นี่ก็เช่นเดียวกัน นางสาวยิ่งลักษณ์บอกไม่รู้ไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องของสภา
ดูเหมือนว่าเกิดเป็นนางสาวยิ่งลักษณ์ เรื่องการบ้านการเมืองเธอจะไม่ค่อยรู้เรื่องเอาเสียเลย ท่องได้แต่คำว่า “เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน ไม่ทำเพื่อคนคนเดียว ทักษิณไม่เกี่ยว”
แต่ลงมือทำทีไร ทักษิณได้ประโยชน์ทุกทีไป
ผู้ที่ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอาจจะรู้สึกอึดอัดขัดข้องใจว่าจะต้องทนกับรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ไปอีกนานเท่าไร?
นานตราบเท่าที่เรายังทนกันได้แหละครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 15 ล้านเสียง เขาทนได้ เราก็ต้องทนได้ บางคนอาจจะบอกว่า 15 ล้านเสียงเขาได้ประโยชน์มาร่วมชุมนุมปี 2552 และปี 2553 ก็ได้รับเงินเป็นเงินประกันโดยที่ไม่ต้องเสียเบี้ยประกัน ตายก็ได้ 7.5 ล้านบาท บาดเจ็บก็ได้ลดหลั่นลงมา
เชื่อเถอะครับว่า พวกเขาไม่ได้กันครบ 15 ล้านคนหรอก ได้เพียงไม่กี่ร้อยครอบครัวเท่านั้น ให้เขาไปเถอะ เขาเป็นเสียงข้างมาก พรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคบอกว่า ต้องเคารพระบบรัฐสภา
ระบบรัฐสภาจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นจริงหรือไม่จริง ต้องค่อยๆ ให้นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์เรียนรู้
นานตราบเท่าที่ทุกคนยังทนกันได้ เราก็ต้องทนให้ได้ เราไม่ได้ซื้อข้าวของแพงเฉพาะเราคนเดียว 15 ล้านเสียงที่เลือกนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ก็กินข้าวแพงเหมือนกัน ซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคแพงเหมือนกัน
ประเทศชาติอยู่ในสภาพย่ำแย่น่าอับอายขายหน้า 15 ล้านคนเขาทนได้ เราก็ต้องทนได้เหมือนกัน