นราธิวาส - จังหวัดนราธิวาส วางมาตรการเข้มทั้ง 13 อำเภอ หลังหน่วยข่าวแจ้งว่าภาย 1-2 วันนี้ กลุ่มก่อความไม่สงบเตรียมก่อเหตุอีกครั้ง เผยตั้งแต่วันที่ 1-10 มี.ค.มีเจ้าหน้าที่และประชาชนเสียชีวิตแล้ว 13 ราย และบาดเจ็บอีก 28 ราย
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดนราธิวาสวางมาตรการ การป้องกั้นและสกัดกั้นการก่อเหตุร้ายรายวันของกองกำลังติดอาวุธ RKK ของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดสลับสับเปลี่ยนกันตลอด 24 ชั่วโมง ในการตรวจยานพาหนะที่แล่นผ่านไปมาบนถนนสายหลักและสายรอง โดยเฉพาะการตรวจสอบบุคคลเจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรประจำตัวประชาชน
ส่วนข้าราชการและเจ้าหน้าที่กองกำลังนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะมีการตรวจสอบบัตรของต้นสังกัด หวั่นคนร้ายจะเลียนแบบแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ เหมือนกับเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 9 มี.ค.55 ที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายได้บุกปล้นปืนและยิงเจ้าหน้าที่ อส.และ ชรบ.เสียชีวิต รวมทั้งกลุ่มคนร้ายจำนวน 50 คน ที่นำกำลังบุกถล่มฐานทหารหมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยปืนเล็กที่ 1 และกองบังคับการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 เมื่อวันที่ 9 มี.ค.55 ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 12 นาย โดยสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-10 มี.ค.55 ในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีสถิติยอดเจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตถึง 13 ราย ได้รับบาดเจ็บ 28 ราย
โดยมาตรการดังกล่าวได้มีการรายงานเข้าศูนย์วิทยุสื่อสารของตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ทุกๆ 1 ชั่วโมง และกลุ่มบุคคลที่เจ้าหน้าที่มีการเพ่งเล็งเป็นพิเศษ คือ กองกำลังติดอาวุธ RKK กลุ่มนายรอแปอิง อูเซ็ง ที่ก่อเหตุขว้างระเบิดใส่ร้านค้าในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.55 กลุ่มนายมะรอโซ จันทราวดี และกลุ่มนายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ ที่ทั้ง 2 กลุ่มเคยร่วมก่อเหตุบุกปล้นปืนฐานปฏิบัติการทหารพระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.54 และร่วมกันนำกำลังบุกถล่มฐานทหาร 2 จุดในพื้นที่ อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.55 ที่ผ่านมา ซึ่งบุคคลทั้ง 3 กลุ่ม เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ยังมีแผนก่อเหตุร้ายในพื้นที่ จ.นราธิวาส อีกใน 1-2 วันนี้
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดนราธิวาสวางมาตรการ การป้องกั้นและสกัดกั้นการก่อเหตุร้ายรายวันของกองกำลังติดอาวุธ RKK ของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดสลับสับเปลี่ยนกันตลอด 24 ชั่วโมง ในการตรวจยานพาหนะที่แล่นผ่านไปมาบนถนนสายหลักและสายรอง โดยเฉพาะการตรวจสอบบุคคลเจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรประจำตัวประชาชน
ส่วนข้าราชการและเจ้าหน้าที่กองกำลังนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะมีการตรวจสอบบัตรของต้นสังกัด หวั่นคนร้ายจะเลียนแบบแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ เหมือนกับเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 9 มี.ค.55 ที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายได้บุกปล้นปืนและยิงเจ้าหน้าที่ อส.และ ชรบ.เสียชีวิต รวมทั้งกลุ่มคนร้ายจำนวน 50 คน ที่นำกำลังบุกถล่มฐานทหารหมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยปืนเล็กที่ 1 และกองบังคับการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 เมื่อวันที่ 9 มี.ค.55 ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 12 นาย โดยสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-10 มี.ค.55 ในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีสถิติยอดเจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตถึง 13 ราย ได้รับบาดเจ็บ 28 ราย
โดยมาตรการดังกล่าวได้มีการรายงานเข้าศูนย์วิทยุสื่อสารของตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ทุกๆ 1 ชั่วโมง และกลุ่มบุคคลที่เจ้าหน้าที่มีการเพ่งเล็งเป็นพิเศษ คือ กองกำลังติดอาวุธ RKK กลุ่มนายรอแปอิง อูเซ็ง ที่ก่อเหตุขว้างระเบิดใส่ร้านค้าในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.55 กลุ่มนายมะรอโซ จันทราวดี และกลุ่มนายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ ที่ทั้ง 2 กลุ่มเคยร่วมก่อเหตุบุกปล้นปืนฐานปฏิบัติการทหารพระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.54 และร่วมกันนำกำลังบุกถล่มฐานทหาร 2 จุดในพื้นที่ อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.55 ที่ผ่านมา ซึ่งบุคคลทั้ง 3 กลุ่ม เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ยังมีแผนก่อเหตุร้ายในพื้นที่ จ.นราธิวาส อีกใน 1-2 วันนี้
