ยะลา - ชาวยะลาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุคาร์บอมบ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ช่วนกันเคลียร์พื้นที่บริเวณถนนรวมมิตร ขณะที่สื่อมวลชนในพื้นที่รวมตัวกันตั้งจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ เผยขณะนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัสอยู่อีก 10 ราย
จากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์หน้าร้านขายข้าวมันไก่ บริเวณถนนรวมมิตร ตัดกับ ถนนจงรักษ์ และในเวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุคาร์บอมบ์บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 รวมมิตร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต และทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (2 เม.ย.) ประชาชนต่างทยอยเข้ามาดูความเสียหายในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยผู้ที่อาศัยในย่านถนนรวมมิตร และเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครยะลาได้ช่วยกันทำความสะอาดบ้านเรือน พื้นผิวถนน ขนย้ายรถยนต์ และข้าวของที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดออกจากพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อจะให้ถนนรวมมิตรกลับมาใช้งานได้อีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย พร้อมเพื่อนสื่อและชาวยะลา นำโดยนายอับดุลการิม รามันห์สิริวงศ์ เลขาธิการสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย/คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา และติดตามการแก้ไขปัญหา และการฟื้นฟูการพัฒนาตามวิถีวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายยุทธนา ปลื้มสำราญ สถานีวิทยุ 97.5 modern hit ยะลา และทีมงานสื่อมวลชนในจังหวัดยะลากว่า 20 คน จัดตั้งโต๊ะ เพื่อร่วมให้กำลังใจ และรับบริจาคเงินรวมทั้งสิ่งของ เพื่อนำไปช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดใจกลางเมืองยะลาดังกล่าว ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาในพื้นที่ และต่างจังหวัดเข้ามาบริจาคเงินและน้ำดื่มจำนวนมาก สำหรับยอดเงินที่ได้รับการบริจาค มีถึง 86,724 บาทแล้ว
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ยังมีจำนวน 32 ราย (บาดเจ็บสาหัส 10 ราย ชาย 5 คน หญิง 5 คน) ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส จำนวน 22 ราย (ชาย 16 คน หญิง 5 คน เด็ก 1 คน) แพทย์ให้กลับบ้านได้แล้ว จำนวน 77 ราย
ส่วนความคืบหน้าในด้านคดี แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุคาร์บอมบ์น่าจะเป็นกลุ่มของนายสาหูดิน โต๊ะเจ๊ะมะ นายอุสมาน เด็งสาแม และนายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรืออุสตาซรอฮิง อาซ่อง ซึ่งเป็นแกนนำก่อเหตุรุนแรงที่มีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายคดี เป็นกลุ่มที่ก่อเหตุเพื่อต้องการแสดงศักยภาพ และสร้างความหวาดผวาให้แก่ประชาชนในพื้นที่ว่าสามารถก่อเหตุร้ายได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะมีการดูแลในพื้นที่เข้มแล้วก็ตาม
ด้านญาติของ 1 ใน 10 ที่เสียชีวิตจากเหตุคาร์บอมบ์ก็ขอวอนให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหา และยุติเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่โดยเร็ว ซึ่งที่บริเวณศาลาสวดอภิธรรม วัดพุทธภูมิ (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของนายสมเกียรติ์ พยากรณ์ อายุ 35 ปี ช่างเคเบิลร้านเจมาร์ท ถนนรวมมิตร 1 ใน 10 ของเหยื่อคาร์บอมบ์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นายสมศักดิ์ พยากรณ์ พี่ชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สิ่งแรกที่อยากให้รัฐบาล หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการ คือ อยากให้เหตุการณ์ในพื้นที่สงบลงโดยเร็ว ไม่อยากให้พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความทุกข์ไปมากกว่านี้ ที่ผ่านมา หน่วยงานของรัฐก็ทำงานกันเต็มที่อยู่แล้ว ตนเองก็ขอให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกๆฝ่าย สิ่งที่ต้องการให้ช่วยเหลืออันดับแรกในตอนนี้คือ บุตรของผู้ที่เสียชีวิต ในเรื่องของการศึกษา ในเรื่องของสังคมที่จะต้องไม่มีผู้นำครอบครัว สุดท้ายก็อยากจะฝากกำลังใจไปยังประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกคนว่า ขอให้ระวังตัวด้วย และให้มีความเข้มแข็งมากๆ ต้องช่วยเหลือกัน
ขณะเดียวกัน นายแพทย์ พีระพงศ์ ภาวนาสุทธิไพศิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตว่ามีทั้งหมด 10 ราย โดยเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ 8 ราย และมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาอีก 2 ราย ขณะที่ผู้บาดเจ็บสาหัสมีจำนวน 10 ราย
โดย 1 ในผู้บาดเจ็บสาหัส คือนางสาวจุไร ลีลา อายุ 33 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดเข้าบริเวณศีรษะ ยังอาการน่าเป็นห่วง แพทย์ได้ทำการผ่าตัด และเปิดกะโหลกเพื่อนำเนื้อเยื่อสมองที่ฉีกขาดออก ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ชั้น 2 โรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยมีแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการตรวจอาการผู้บาดเจ็บสาหัสทั้งหมดพบว่ามีอาการดีขึ้นตามลำดับ มีเพียงนางสาวจุไร ลีลา ที่มีอาการน่าเป็นห่วง ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บสาหัสส่วนใหญ่จะถูกไฟไหม้ ไฟลวกประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย และผู้บาดเจ็บที่ถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย แพทย์ได้ให้การรักษา และดูแลอย่างใกล้ชิด
สำหรับนางสาวจุไร ลีลา เป็นเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าบนถนนรวมมิตร ประสบเหตุระเบิดคาร์บอมบ์จุดที่ 2 ขณะกำลังปิดร้าน และเก็บของอยู่ภายในร้านของตนเอง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ นางสาวจุไร ต้องสูญเสียมารดา คือ นางสมใจ ชูโลก และนายสมัย ลีลา น้องชาย ไปในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
