xs
xsm
sm
md
lg

"4บิ๊กคลัง-รมต."อ่วม จ่ายหนี้BTSพันล้าน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- พบ ขรก.คลังและรัฐมนตรีเอี่ยวบีทีเอสหมอชิต ต้องร่วมกันจ่ายคืนค่าตอม่อพันล้านบาท เผยมี ขรก.คลังทั้งที่ยังรับราชการและเกษียณอายุ เตรียมชงนายกรัฐมนตรีตั้งกรรมการสอบหาข้อยุติ หวั่นดอกเบี้ยค่าปรับพุ่งวันละกว่า 1 แสนบาท ด้าน “นริศ ชัยสูตร” เผย ครม.ไฟเขียวโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์มูลค่าหลายหมื่นล้านแล้ว เตรียมเดินหน้านับหนึ่งผลักดันโครงการอีกรอบ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้รายงานผลการสอบข้อเท็จจริงตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อชดเชยเงินคืนแก่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ BTS ที่ได้ก่อสร้างฐานรากโรงจอดและซ่อมบำรุงบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต วงเงินรวมเงินต้นและดอกเบี้ยจำนวนทั้งสิ้น 1,049 ล้านบาทต่อกระทรวงการคลังแล้ว โดยพบว่ามีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังที่ยังรับราชการอยู่ประกอบไปด้วย นายวัฒนา เชาวสกู ที่ปรึกษาด้านพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์ และนายอำนวย ปรีมนวงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลัง ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องที่เกษียณอายุราชการไปแล้วคือ นายนิพัทธ พุกกะณะสุต อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายยืนยง ทัศนศรี อดีตรองอธิบดีกรมธนารักษ์

“ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายชดเชยคืนให้บีทีเอสในครั้งนี้มีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายราย รวมทั้งมีบางรายเป็นรัฐมนตรีในขณะนั้น ดังนั้นต้องรอให้มีมติ ครม.ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อหาผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามแต่งตั้งต่อไปเพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้” แหล่งข่าวกล่าว

ด้านนายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.สัญจรที่จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา เห็นชอบให้กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ ประชุมหาข้อสรุปในกรณีการจ่ายชดเชยดังกล่าวโดยเร็ว เนื่องจากดอกเบี้ยที่เกิดจากค่าปรับนั้นมีการคำนวณทุกวันโดยเมื่อคิดจากเงินต้นจนถึงวันนี้กรมธนารักษ์จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวถึงวันละ 1 แสนบาท

นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังมีมติเห็นชอบให้เดินหน้าโครงการบนที่ราชพัสดุแปลงหมอชิตอีกครั้งหลังมีคดีความฟ้องร้องกันและชะลอโครงการมานาน กรมธนารักษ์จะแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อนับหนึ่งโครงการใหม่ตามมติครม.โดยจะมีตัวแทนจากกระทรวงการคลังเป็นประธานคณะกรรมการและให้เดินหน้าโครงการตามแนวทางที่คณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประกอบไปด้วย

“โครงการเดิมที่มีมูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านบาทต้องเริ่มต้นใหม่ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากองค์ประกอบและสภาพแวดล้อมบริเวณหมอชิตหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เริ่มต้นโครงการ อีกทั้งต้องพัฒนาโครงการให้มีความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมโดยเร็วเพื่อที่ที่ราชพัสดุบริเวณดังกล่าวเกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ” นายนริศกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น