xs
xsm
sm
md
lg

ศุภาลัยสยายปีกบุกตลาดภูธรเต็มสูบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - อสังหาฯอีสานคึกคักรับเปิด AEC ศุภาลัยเร่งหาที่ดินเมืองอุดร อุบลฯ โคราช ผุดโครงการ หวังขยายฐานลูกค้าภูธร ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่างจังหวัด 19% ด้านพีดีเฮ้าส์ ระบุ ความเฟื่องฟูของเศรษฐกิจภาคอีกสาน ดันราคาที่ดินปรับตัวก้าวกระโดด 50-100%

นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในส่วนภูมิภาคเริ่มมีการขยายตัวอย่างมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่นิยมสร้างบ้านเอง แต่ในระยะหลังๆ เริ่มยอมรับการซื้อบ้านในโครงการจัดสรรเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหัวเมืองขนาดใหญ่ที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดดังกล่าว บริษัทได้มีแผนที่ขยายการลงทุนไปในทำเลต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ รองรับการเติบโตของบริษัท รวมถึงกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน ให้มีทำเลที่หลากหลาย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาโครงการในต่างจังหวัด ได้แก่ หาดใหญ่ จ.สงขลา ภูเก็ต ขอนแก่น และเชียงใหม่ เป็นต้น

โดยล่าสุดได้ขยายไปในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และชลบุรี สำหรับจังหวัดที่บริษัทให้ความสนใจลงทุน อาทิ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหาซื้อที่ดินในจังหวัดนี้อย่างจริงจัง เพราะมองเห็นศักยภาพที่ดีของตลาด อีกทั้งยังสนใจตลาดอื่นๆ อีก เช่น นครราชสีมา อุบลราชธานี นครสวรรค์ เชียงราย ระยอง และนครศรีธรรมราช

สำหรับตลาดอสังหาฯในจังหวัดขอนแก่น ที่บริษัทได้เข้ามาลงทุนก่อนหน้านี้ โดยได้ทดลองทำตลาดมาแล้ว 4 โครงการในย่านถนนมะลิวัลย์ และศรีจันทร์ พบว่า มีการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว จะปิดการขายได้ดีกว่าทาวน์เฮาส์ เพราะคนขอนแก่นนิยมบ้านที่มีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 60 ตร.วา ราคาประมาณ 3.5-4 ล้านบาทก็อยู่ในระดับที่คนท้องถิ่นรับได้ ซึ่งปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายจากตลาดขอนแก่นกว่า 600 ล้านบาท

ในด้านของตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดขอนแก่น ถือว่ามีโอกาสที่ดี และกำลังเริ่มต้นขยายตัวมาก โดยทำเลใกล้มหาวิทยาลัย ในราคาล้านต้นๆ เป็นตลาดที่น่าสนใจ และยังมีผู้เล่นน้อยราย แต่ต้องใช้เวลาในการศึกษา และหาที่ดินที่เหมาะสมให้ได้ เพราะแม้ว่าขอนแก่นจะยังมีอุปทานห้องชุดน้อย แต่มีอุปทานหอพักในปริมาณที่สูงมาก ปัจจุบันมีผู้ประกอบการจากส่วนกลางเข้าสู่ตลาดขอนแก่นหลายราย เช่น กลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กลุ่มพฤกษา เรียลเอสเตท และศุภาลัย โดยพฤกษา และศุภาลัย จะเลือกทำตลาดในระดับราคาใกล้เคียงกัน ส่วนกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะเลือกจับกลุ่มบ้านระดับบนราคาประมาณ 4 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่เน้นจับกลุ่มคนท้องถิ่น ส่วนกลุ่มเขยฝรั่ง ชะลอตัวลง เพราะปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจทางยุโรป

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย กล่าวว่า ปีนี้บริษัทวางแผนในการเปิดโครงการใหม่ในต่างจังหวัด ทั้งประเภทบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม รวม 10 โครงการ ใน 6 จังหวัด โดยจะเป็นการเปิดคอนโดมิเนียมครั้งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากได้ทดลองตลาดบ้านแนวราบมาแล้ว โดยตั้งเป้ายอดขายในส่วนของต่างจังหวัดปีนี้รวม 2 หมื่นล้านบาท เพื่อผลักดันให้สัดส่วนยอดขายตลาดต่างจังหวัดอยู่ที่ 19% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ยอดขายต่างจังหวัดอยู่ที่เพียง 14% เท่านั้น

ห้างค้าปลีกดันอสังหาฯอุดรคึกคัก

นางพรทิพย์ ธนศรีวนิชชัย ประธานชมรมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จังหวัดอุดรธานีมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมาก เฉลี่ย 10% ต่อปี โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีหลัง เศรษฐกิจในอุดรธานีเติบโตมากจากการเป็นศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าในภูมิภาคอีสาน การเกิดของธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง และศูนย์การค้า เพื่อรองรับการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคชาวอุดรธานีที่เริ่มยอมรับการอยู่อาศัยในโครงการบ้านจัดสรรมากขึ้น และการใช้ชีวิตแบบคนกรุงเทพฯ ทำให้ธุรกิจบ้านจัดสรรในอุดรธานีมีการเติบโต และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องหลังจากที่ทุนส่วนกลาง เช่น กลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และกลุ่มศุภาลัย ที่แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในจังหวัดนี้ ซึ่งจากก่อนหน้านี้ มีทุนจากส่วนกลางเข้ามาทำตลาดเรียงรายเดียว คือ กลุ่มสิทธารมย์

อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของทุนส่วนกลาง ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยยกระดับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดอุดรธานีให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น รวมถึงการยกระดับการแข่งขันให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าตลาดนี้ยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก

สำหรับการพัฒนาโครงการ ส่วนใหญ่มาจากผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยเน้นโครงการขนาดเล็ก ประมาณ 10-20 ไร่ จำนวน 50-60 ยูนิต มีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่พัฒนาโครงการขนาดใหญ่ เช่น หมู่บ้านหรรษา ของบริษัท พาวิลเลี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ที่พัฒนาโครงการบนพื้นที่ 150 ไร่ จำนวนกว่า 600 ยูนิต

ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยของตลาด แบ่งเป็น กลุ่มสร้างบ้านเอง กลุ่มจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน และบ้านในโครงการจัดสรร ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน แต่โดยรวมแล้ว จะเห็นได้ว่าการสร้างบ้านอยู่เองในอุดรธานียังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดให้มีบริษัทรับสร้างบ้านจากส่วนกลางสนใจเข้ามาด้วยเช่นกัน

สำหรับรูปแบบที่อยู่อาศัยในอุดรธานีส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น ระดับราคา 1.5 - 3 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป โดยระดับราคาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ กลุ่ม 1.7 - 2.5 ล้านบาท ส่วนทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมยังไม่เป็นที่นิยมนัก เพราะคนอุดรธานีมองว่าที่ดินยังมีอีกมาก ไม่จำเป็นอยู่อาศัยแบบหนาแน่นมากนัก

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาที่ดินแนวราบในอุดรธานี มีความยากและต้นทุนแพงมากขึ้น เพราะราคาที่ดินปรับตัวสูงมาก โดยที่ดินใจกลางเมือง บางแปลง พบว่า มีการตั้งราคาขายไว้สูงถึง 1 แสนบาทต่อตร.วา ส่วนบริเวณถนนวงแหวนรอยต่อใจกลางเมือง ราคาก็ขยับขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อตร.วา หรือ 3-4 ล้านบาทต่อไร่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก ราคาที่ดินย่านนี้จึงเหมาะกับการพัฒนาเชิงพาณิชย์มากกว่าที่อยู่อาศัย

พีดีเฮ้าส์ฟันธงรับสร้างบ้านอีสานบูม

นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดิเวลลอป จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจรับสร้างบ้านแฟรนไชส์ แบรนด์ พีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า เศรษฐกิจในภาคอีสานมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดศูนย์กลางภูมิภาค เช่น ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี และจังหวัดแนวตะเข็บชายแดน ส่งผลดีต่อการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัย(บ้านสร้างเอง)ในจังหวัดภาคอีสานอย่างมาก

"สังเกตได้เป็นอย่างดี ยักษ์ใหญ่ในหลายธุรกิจของเมืองไทย เข้าไปลงทุน ไม่ว่าจะเป็น บริษัทโฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ในเครือแลนด์ฯ ที่มีการขยายสาขาโฮมโปร, กลุ่ม เซ็นทรัลพัฒนาฯ ลงทุนเปิดตัวห้างสรรพสินค้า และร้านค้าวัสดุก่อสร้างไทวัสดุ, บริษัท สยาม โกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่ชูคอนเซ็ปต์แหล่งร้านค้าวัสดุก่อสร้างครบวงจร รวมถึงการขยายการลงทุนของร้านค้าวัสดุก่อสร้างในรูปแบบโมเดิร์นเทรด ดูโฮม รวมถึงผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมากขยายการลงทุนไปในพื้นภาคอีสานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบริษัท SCG ภายใต้แบรน์ ซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ท "

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่แล้ว เหตุผลสำคัญที่เลือกมาสู่ตลาดภาคอีสาน เพื่อรองรับการขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน ภายหลังการเปิดเสรีทางการค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน หรือ AEC ซึ่งจะเกิดขึ้นใน3ปีจากนี้

ทำให้ขณะนี้ ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น โดยพบว่าในจังหวัดหัวเมืองขนาดใหญ่ เช่น ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี สกลนคร ฯลฯ ปรับราคาขายขึ้นสูง 50-100 % จากเดิมราคาขายไร่ละ 1ล้านบาท ก็ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 1.5-2ล้านบาท ทั้งนี้ เชื่อว่าหากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในส่วนกลางขยายการลงทุนไปในจังหวัดภาคอีสานมากขึ้น จะส่งผลให้เกิดการขยายตัวของตลาดอสังหาฯอย่างมากและชัดเจนมากขึ้น

" เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าตลาดรับสร้างบ้านในระดับล่างราคา 1-2 ล้านบาท บริษัทได้เตรียมแผนเข้าไปเจาะตลาดดังกล่าว โดยมีการออกแบบบ้านรองรับไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้รอเพียงดัชนีชี้ชัดว่าตลาดระดับล่างมีความต้องการขยายตัวสูง โดยวัดจากการเข้าไปลงทุนของผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่ ที่ปัจจุบันมีหลายบริษัทเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการแล้ว ".
กำลังโหลดความคิดเห็น