ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเติบโตต่อเนื่อง ทุนใหญ่จากส่วนกลางบุกพื้นที่ไม่หยุด ผุดทั้งบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ศูนย์ข้อมูลธนาคารอาคารสงเคราะห์ระบุ ผลสำรวจเมื่อต.ค.ที่ผ่านมา มีการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตแล้วกว่า 23,000 หน่วย ทั้งที่เป็นบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศ แนวโน้มเติบโตเรื่อยๆ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดสัมมนาเรื่อง “วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดภูเก็ต ขึ้น ณ.โรงแรม ~A2 รีสอร์ท ภูเก็ต เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลสำรวจโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และวิเคราะห์แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ตตลอดปี 2555 นี้
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้มาจากการสำรวจภาคสนามของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นข้อมูลจากโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย เฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย ใน จ.ภูเก็ตมีหน่วยขายที่อยู่อาศัยในผังโครงการทั้งสิ้นประมาณ 23,340 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยบ้านจัดสรรประมาณ 9,940 หน่วย อาคารชุดประมาณ 6,970 หน่วย บ้านพักตากอากาศประมาณ 1,280 หน่วย บ้านเอื้ออาทรประมาณ 720 หน่วย และอาคารชุดเอื้ออาทรประมาณ 4,430 หน่วย
ในประเภทบ้านจัดสรร หน่วยที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 9,940 หน่วย มาจากประมาณ 65 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 36,700 ล้านบาท ขายได้แล้วประมาณ 6,790 หน่วย มูลค่าที่ขายได้ประมาณ 22,000 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 3,150 หน่วย มูลค่าเหลือขายประมาณ 14,700 ล้านบาท
จากโครงการทั้งหมด อยู่ในอำเภอเมืองภูเก็ตประมาณ 5,890 หน่วย ในอำเภอถลางประมาณ 3,320 หน่วย และอำเภอกะทู้ประมาณ 730 หน่วย และจากจำนวนหน่วยในผังทั้งหมด เป็นบ้านเดี่ยวประมาณ 3,260 หน่วยเป็นทาวเฮาส์ประมาณ 3,280 หน่วย บ้านแฝดประมาณ 2,200 หน่วย และอาคารพาณิชย์ประมาณ 730 หน่วยนอกนั้นเป็นที่ดินเปล่า
สำหรับสถานการณ์ก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 1,940 หน่วยอยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 2,680 หน่วยและก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 5,320 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขาย หรือเป็นบ้านว่าง ประมาณ 590 หน่วย
มีผู้ประกอบการจากส่วนกลางอย่างน้อย 5 รายที่เปิดขายโครงการบ้านจัดสรรในช่วงตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้วหรือมีแผนจะเปิดโครงการบ้านจัดสรรในภูเก็ตในปีนี้ โดยมีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวเฮาส์หรือทาวน์โฮม
ในประเภทอาคารชุด หน่วยที่อยู่ระหว่างการขายมีประมาณ 6,970 หน่วยมาจากประมาณ 49 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 32,800 ล้านบาท ขายได้แล้วประมาณ 4,100 หน่วย มูลค่าที่ขายได้ประมาณ 18,100 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 2,870 หน่วย มูลค่าเหลือขายรวมประมาณ 14,700 ล้านบาท
จากโครงการทั้งหมด อยู่ในอำเภอเมืองภูเก็ตประมาณ 4380 หน่วย ในอำเภอกะทู้ ประมาณ 1720 หน่วย และในอำเภอถลางประมาณ 870 หน่วย และจากจำนวนหน่วยในผังทั้งหมด เป็นห้องแบบสตูดิโอประมาณ 2500 หน่วย แบบ 1 ห้องนอนประมาณ 2940 หน่วย แบบ 2 ห้องนอนประมาณ 1140 หน่วย และแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไปประมาณ 400 หน่วย
สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 720 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 3400หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 2820 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขายหรือเป็นห้องว่างประมาณ 1010 หน่วย
มีผู้ประกอบการจากส่วนกลางอย่างน้อย 3 ราย ที่เปิดขายโครงการอาคารชุดในช่วงตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้วหรือมีแผนจะเปิดโครงการอาคารชุดในภูเก็ตในปีนี้
ในประเภทบ้านพักตากอากาศ หรือ วิลล่า นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายอย่างน้อย 1 หน่วย มีจำนวนประมาณ 40 โครงการ รวมประมาณ 1280 หน่วย อยู่ในอำเภอถลางประมาณ 530 หน่วย ในอำเภอเมืองภูเก็ตประมาณ 600 หน่วย และในอำเภอกะทู้ประมาณ 150 หน่วย จากจำนวนหน่วยทั้งหมดนี้ ขายได้แล้วประมาณ 730 หน่วย เหลือขายอีกประมาณ 550 หน่วย หน่วยในผังโครงการทั้งหมดเป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 300 หน่วย อยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 140 หน่วยและก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 840 หน่วย สร้างเสร็จเหลือขายประมาณ 200 หน่วย
ในประเภทบ้านเอื้ออาทร ซึ่งพัฒนาโดยการเคหะแห่งชาติ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 มีโครงการแนวราบที่อยู่ระหว่างการขาย 2 โครงการ รวมประมาณ 720 หน่วย อยู่ในอำเภอถลางทั้งหมด ขายได้แล้วประมาณ 680 หน่วย และมีเหลือขายประมาณ 40 หน่วย สำหรับโครงการอาคารชุดเอื้ออาทรที่ยังอยู่ระหว่างการขายมีจำนวน 4 โครงการ รวมประมาณ 4430 หน่วย อยู่ในอำเภอถลาง 3 โครงการ รวมประมาณ 3730 หน่วยและในอำเภอเมือง 1 โครงการ รวมประมาณ 700 หน่วย จากจำนวนหน่วยทั้งหมดนี้ ขายได้แล้วประมาณ 2770 หน่วย และมีเหลือขายประมาณ 1660 เป็นหน่วยก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 3170 หน่วย และมีเหลือขายประมาณ 1660 เป็นหน่วยก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 3170 หน่วย และยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 1260 หน่วย
ขณะที่ผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ ต่างเห็นพ้องกันว่า ธุรกิจอสังหาฯในภูเก็ตมีโอกาสเติบโตอีกมาก ตราบใดที่การท่องเที่ยวของภูเก็ตยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตจะเพิ่มมากขึ้น จากคนต่างจังหวัดที่ทยอยเดินทางเข้ามาทำงาน รวมไปถึงคนต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ต และหลงใหลในความสวยงามของภูเก็ตก็ซื้อบ้านพักตากอากาศ คอนโดมิเนียม เพื่อการพักผ่อนและการลงทุนอีกไม่น้อยเช่นกัน
นายสุทธิชัย พรหมชาติ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในปี 2555 นี้ มีโครงการบ้านจัดสรรได้ยื่นขออนุญาตจัดสรรเข้ามาแล้ว 22 โครงการ กระจายอยู่ในพื้นที่กะทู้ 2 โครงการ ถลาง 8 โครงการ และที่เหลืออยู่ในพื้นที่เมืองภูเก็ต ซึ่งโครงการบ้านจัดสรรที่ราคาไม่สูงมากนัก 1-2 ล้านบาท ยังเป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนบ้านระดับบนที่ขายกันเป็นเงินดอลลาร์นั้นอยู่ในภาวะชะลอตัว จากที่เศรษฐกิจของยุโรปมีปัญหา และตลาดคอนโดมิเนียมมีการขยายตัวมากในปี 2554 ที่ผ่านมามีถึง 10 โครงการ โดยกลุ่มที่ลูกค้ามีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ซึ่งในปี 2554 ที่ผ่านมามีคนต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯถึง 276 ราย
ด้านสุริยะ วรรณบุตร รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริเข้ามาภูเก็ตปีกว่า เปิดขายไปแล้ว 4 โครงการ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านแฝดและบ้านทาวน์เฮ้าส์ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมาก สามารถปิดการขายได้ในเวลาอันรวดเร็ว จากการทำวิจัยเชิงคุณภาพทำให้ทราบว่าคนภูเก็ตต้องการบ้านที่เป็นสไตล์โมเดิร์น โดยเฉพาะบ้านที่ราคาไม่สูงจะได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งแนวโน้มตลาดอสังหาฯในภูเก็ตยังเติบโตอีกมาก และโอกาสในการลงทุนก็มีสูงด้วย ตราบที่การท่องเที่ยวของภูเก็ตยังมีการขยายตัว โดยที่เศรษฐกิจของภูเก็ตไม่ได้อ้างอิงกับเศรษฐกิจของประเทศมากนัก แต่จะขึ้นอยู่กับภาวการณ์ท่องเที่ยวเป็นหลัก
ขณะที่นายธนันท์ ตัณฑ์ไพบูลย์ นายกสมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯในภูเก็ตเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก เมื่อ 3-4 ปีก่อน หากลงทุนก่อสร้างคอนโดฯก็ไม่รู้จะขายใคร มาตอนนี้ตลาดคอนโดฯเติบโตเร็วมาก มีการลงทุนเกิดขึ้นหลายโครงการ ทั้งจากนักลงทุนในพื้นที่ภูเก็ตและยักษ์ใหญ่จากส่วนกลาง โดยเฉพาะคอนโดฯที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ได้รับการตอบรับดีมากๆ ซึ่งจะเห็นว่าขณะนี้ยักษ์ใหญ่จากส่วนกลางได้เข้ามาลงทุนคอนโดฯที่ภูเก็ตแล้วหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นของศุภาลัย แสนสิริ และอื่นๆ เป็นต้น
ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมของคนภูเก็ตเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่นิยมที่จะอยู่คอนโดฯมากขึ้น และที่สำคัญที่ดินในภูเก็ตแพงมาก การลงทุนที่อยู่อาศัยในแนวราบที่เป็นบ้านจัดสรรมีต้นทุนที่สูงมาก นักลงทุนจึงได้หันมาลงทุนคอนโดฯกันมากขึ้น และการลงทุนอีกประเภทหนึ่งที่น่าสนใจในขณะนี้ และเกิดขึ้นในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากชายละประมาณ 500-600 เมตร คือ คอนโดเทล ที่มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนเป็นคนต่างชาติ ที่ต้องการซื่อเพื่อการพักผ่อนและซื้อเพื่อการลงทุน
ธุรกิจอสังหาฯในภูเก็ตเติบโตตามการท่องเที่ยว เมื่อการท่องเที่ยวขยายตัว ธุรกิจอสังหาฯก็ขยายตัวตาม นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาฯในภูเก็ตเติบโตตามสถานการณ์ท่องเที่ยว เมื่อท่องเที่ยวโต อสังหาฯก็โตตามไปด้วย จากที่คนจากต่างถิ่นเข้ามาทำงานในภูเก็ตมากขึ้น ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยตามไปด้วย และคิดว่าในระยะนี้ธุรกิจอสังหาฯของภูเก็ตจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
เพราะท่องเที่ยวของภูเก็ตขยายตัวไม่หยุด แม้ว่าตลาดยุโรปจะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ภูเก็ตก็ได้นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นมาทดแทน ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย ที่เข้ามามากในขณะนี้ จีน เกาหลี ออสเตรเลีย ที่เพิ่มสูงขึ้นตลอด จนทำให้เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาเป็นปีทองทางการท่องเที่ยวของภูเก็ตก็ว่าได้ และในปี 2555 นี้ หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้นที่ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปี 2554 อย่างแน่นอน