ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผอ.ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ระบุไตรมาส 3 ปี 54 ตลาดที่อยู่อาศัยเชียงใหม่ยังไปได้สวย เผยคนนิยมบ้านเดี่ยวส่วนคอนโดจำนวนห้องเพิ่มต่อเนื่อง ชี้ตลาดเชียงใหม่น่าสนใจเหตุมีปัจจัยบวกหลายอย่าง เชื่อนักลงทุนส่วนกลางเล็งขอแบ่งเค้กเพิ่มแน่
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ ในงานสัมมนา “วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2555” ณ โรงแรมแชงกรีลาเชียงใหม่ ว่า จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2554 พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีที่อยู่อาศัยซึ่งอยู่ในระหว่างการขายทั้งสิ้น 241 โครงการ โดยมีหน่วยในผังโครงการทั้งสิ้นประมาณ 22,650 หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรรจำนวน 208 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 19,150 หน่วย และอาคารชุด 33 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 3,500 หน่วย
บ้านจัดสรรที่อยู่ในระหว่างการขายทั้งหมดนั้น มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 56,800 ล้านบาท มีหน่วยที่ขายได้สะสมทั้งสิ้นประมาณ 11,5000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าที่ขายได้ประมาณ 32,600 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่โครงการจะตั้งอยู่ในพื้นที่ของอำเภอสันทราย อำเภอหางดง และอำเภอดอยสะเก็ด ขณะที่ประเภทบ้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดพบว่าอยู่ในช่วงระดับราคาที่ 1-1.99 ล้านบาท ส่วนในภาพรวมบ้านจัดสรรทุกประเภทและทุกระดับ ราคามีอัตราการดูดซับเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5.5
ด้านสถานะของการก่อสร้างบ้านจัดสรรพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ได้ก่อสร้างประมาร 3,500 หน่วย อยู่ในระหว่างการก่อสร้างประมาณ 3,650 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 8,500 หน่วย โดยหน่วยที่เสร้างเสร็จเหลือขายหรือบ้านว่างมีจำนวนประมาณ 500 หน่วย
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดนั้น นายสัมมากล่าวว่า จากการสำรวจพบว่ามีหน่วยที่อยู่ในระหว่างการขายประมาณ 3,500 หน่วย ซึ่ง 3,300 หน่วยจากจำนวนดังกล่าวตั้งอยู่ในอำเภอเมือง คิดเป็นมูลค่าโครงการโดยรวมประมาณ 8,000 ล้านบาท มีหน่วยที่ขายได้สะสมประมาณ 2,000 หน่วย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นหน่วยที่ขายได้ใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2554 จำนวน 680 หน่วย ส่วนอัตราการดูดซับเฉลี่ยของห้องชุดในทุกประเภทและทุกระดับราคาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10.6
สำหรับห้องชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 31-35 ตารางเมตร และมีราคาขายอยู่ในช่วงระดับราคา 1-2 ล้านบาท ส่วนสถานะด้านการก่อสร้างห้องชุดในไตรมาสที่ 3 ของปี 2554 พบว่ามีหน่วยที่ยังไม่ได้ก่อสร้างประมาณ 850 หน่วย อยู่ในระหว่างการก่อสร้างประมาณ 1,750 หน่วย ก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 900 หน่วย และมีหน่วยสร้างเสร็จเหลือขายประมาณ 150 หน่วย
ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวถึงผลจากการสำรวจในครั้งนี้ว่า จากข้อมูลที่ได้พบว่าบ้านเดี่ยวและที่อยู่อาศัยในแนวราบยังคงเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมในจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอาคารชุดแสดงให้เห็นถึงความต้องการห้องพักที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณารายละเอียดแล้วจะพบว่าผู้ที่ซื้ออาคารชุดมักเป็นประชากรที่มาจากพื้นที่อื่นๆ หรือชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่คนในท้องถิ่นจะมุ่งเลือกซื้อบ้านเดี่ยวมากกว่า
ทั้งนี้ นายสัมมายังให้ความเห็นถึงแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ว่า คาดว่าในปี 2555 จะยังคงเติบโตต่อเนื่องต่อจากปี 2554 เนื่องจากเห็นว่าเชียงใหม่มีองค์ประกอบหลายๆ ด้านที่เป็นปัจจัยบวก ไม่ว่าจะเป็นการเป็นเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและในระดับนานาชาติในอนาคต การมีเส้นทางคมนาคมที่มีคุณภาพ และยังมีแผนการที่จะพัฒนาระบบขนส่งและเส้นทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ อีกหลายโครงการ การมีค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก สามารถเลือกรูปแบบการอยู่อาศัยได้หลากหลาย และปัจจัยจากการเป็นพื้นที่ที่ไม่อยู่ในเขตเสี่ยงต่อปัญหาอุทกภัย เป็นต้น
นายสัมมากล่าวต่อไปว่า จากปัจจัยบวกต่างๆ จึงมีแนวโน้มสูงที่จะมีการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น และยังจะดึงดูดให้นักลงทุนรายใหญ่จากส่วนกลางสนใจเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยน่าจะอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองเป็นหลัก รวมถึงพื้นที่ในอำเภออื่นๆ ที่มีการเติบโตของตลสาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง อาทิเช่นอำเภอหางดง สันทราย สันกำแพง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบคือเรื่องของการจัดผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ระบุว่าพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ในด้านใดได้บ้าง และจะมีผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยว่าพื้นที่ใดจะมีการขยายตัวและเติบโตมากที่สุด
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ ในงานสัมมนา “วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2555” ณ โรงแรมแชงกรีลาเชียงใหม่ ว่า จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2554 พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีที่อยู่อาศัยซึ่งอยู่ในระหว่างการขายทั้งสิ้น 241 โครงการ โดยมีหน่วยในผังโครงการทั้งสิ้นประมาณ 22,650 หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรรจำนวน 208 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 19,150 หน่วย และอาคารชุด 33 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 3,500 หน่วย
บ้านจัดสรรที่อยู่ในระหว่างการขายทั้งหมดนั้น มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 56,800 ล้านบาท มีหน่วยที่ขายได้สะสมทั้งสิ้นประมาณ 11,5000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าที่ขายได้ประมาณ 32,600 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่โครงการจะตั้งอยู่ในพื้นที่ของอำเภอสันทราย อำเภอหางดง และอำเภอดอยสะเก็ด ขณะที่ประเภทบ้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดพบว่าอยู่ในช่วงระดับราคาที่ 1-1.99 ล้านบาท ส่วนในภาพรวมบ้านจัดสรรทุกประเภทและทุกระดับ ราคามีอัตราการดูดซับเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5.5
ด้านสถานะของการก่อสร้างบ้านจัดสรรพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ได้ก่อสร้างประมาร 3,500 หน่วย อยู่ในระหว่างการก่อสร้างประมาณ 3,650 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 8,500 หน่วย โดยหน่วยที่เสร้างเสร็จเหลือขายหรือบ้านว่างมีจำนวนประมาณ 500 หน่วย
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดนั้น นายสัมมากล่าวว่า จากการสำรวจพบว่ามีหน่วยที่อยู่ในระหว่างการขายประมาณ 3,500 หน่วย ซึ่ง 3,300 หน่วยจากจำนวนดังกล่าวตั้งอยู่ในอำเภอเมือง คิดเป็นมูลค่าโครงการโดยรวมประมาณ 8,000 ล้านบาท มีหน่วยที่ขายได้สะสมประมาณ 2,000 หน่วย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นหน่วยที่ขายได้ใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2554 จำนวน 680 หน่วย ส่วนอัตราการดูดซับเฉลี่ยของห้องชุดในทุกประเภทและทุกระดับราคาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10.6
สำหรับห้องชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 31-35 ตารางเมตร และมีราคาขายอยู่ในช่วงระดับราคา 1-2 ล้านบาท ส่วนสถานะด้านการก่อสร้างห้องชุดในไตรมาสที่ 3 ของปี 2554 พบว่ามีหน่วยที่ยังไม่ได้ก่อสร้างประมาณ 850 หน่วย อยู่ในระหว่างการก่อสร้างประมาณ 1,750 หน่วย ก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 900 หน่วย และมีหน่วยสร้างเสร็จเหลือขายประมาณ 150 หน่วย
ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวถึงผลจากการสำรวจในครั้งนี้ว่า จากข้อมูลที่ได้พบว่าบ้านเดี่ยวและที่อยู่อาศัยในแนวราบยังคงเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมในจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอาคารชุดแสดงให้เห็นถึงความต้องการห้องพักที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณารายละเอียดแล้วจะพบว่าผู้ที่ซื้ออาคารชุดมักเป็นประชากรที่มาจากพื้นที่อื่นๆ หรือชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่คนในท้องถิ่นจะมุ่งเลือกซื้อบ้านเดี่ยวมากกว่า
ทั้งนี้ นายสัมมายังให้ความเห็นถึงแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ว่า คาดว่าในปี 2555 จะยังคงเติบโตต่อเนื่องต่อจากปี 2554 เนื่องจากเห็นว่าเชียงใหม่มีองค์ประกอบหลายๆ ด้านที่เป็นปัจจัยบวก ไม่ว่าจะเป็นการเป็นเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและในระดับนานาชาติในอนาคต การมีเส้นทางคมนาคมที่มีคุณภาพ และยังมีแผนการที่จะพัฒนาระบบขนส่งและเส้นทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ อีกหลายโครงการ การมีค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก สามารถเลือกรูปแบบการอยู่อาศัยได้หลากหลาย และปัจจัยจากการเป็นพื้นที่ที่ไม่อยู่ในเขตเสี่ยงต่อปัญหาอุทกภัย เป็นต้น
นายสัมมากล่าวต่อไปว่า จากปัจจัยบวกต่างๆ จึงมีแนวโน้มสูงที่จะมีการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น และยังจะดึงดูดให้นักลงทุนรายใหญ่จากส่วนกลางสนใจเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยน่าจะอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองเป็นหลัก รวมถึงพื้นที่ในอำเภออื่นๆ ที่มีการเติบโตของตลสาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง อาทิเช่นอำเภอหางดง สันทราย สันกำแพง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบคือเรื่องของการจัดผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ระบุว่าพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ในด้านใดได้บ้าง และจะมีผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยว่าพื้นที่ใดจะมีการขยายตัวและเติบโตมากที่สุด