ASTVผู้จัดการรายวัน – อสังหาฯ หัวหินคึกคัก ปี 54 พบคอนโดฯเปิดใหม่ 6,889 ยูนิต ปี 55 คาดเปิดใหม่ 8 โครงการ 8,300 ยูนิต เผยคอนโดฯ 1-2 ห้องนอน ราคา 3-7 ล้านบาทขายดีสุด ด้านโบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน ปรับตัวรับเปิดเฟสใหม่“เดอะ เลเจน” คอนโดฯ ไซน์เล็กรองรับลูกค้าชาวไทย ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท เผยเตรียมพัฒนาเฟสสุดท้ายอีก 2,000 ล้านบาท คาดไมเกิน 3 ปีปิดขายโครงการ
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงผลสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในหัวหิน - ชะอำปี 2554 พบว่า มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่มากถึง 6,889 ยูนิต จาก 5 โครงการ ทั้งนี้จำนวนที่เพิ่มขึ้นมากเกิดจากการเปิดตัว โครงการ เดอะ เอนเนอร์จี้ ซึ่งมีจำนวนหน่วยขายถึง 6,000 ยูนิต ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนหน่วยที่มีการพัฒนามาเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2546 - 2553 รวมกันเพียง 6,504 ยูนิต อย่างไรก็ตามอุปทานที่เพิ่มขึ้นในปี 2554 ส่วนใหญ่เน้นไปที่คอนโดฯขนาด 1 ห้องนอน ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งแตกต่างจากตลาดคอนโดฯที่เปิดขายในอดีต ที่ส่วนใหญ่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไปทางสูง
ทั้งนี้คอนโดฯเกิดใหม่เกือบทั้งหมดจะตั้งอยู่ในเขตอำเภอชะอำ ในขณะที่คอนโดฯในตัวเมืองหัวหินไม่มีการเปิดโครงการใหม่ เนื่องมาจากที่ดินในเขตหัวหินและเขาตะเกียบที่มีขนาดและราคาเหมาะสมต่อการพัฒนานั้นหายากมาก
“ส่วนห้องชุดที่นิยมหรือขายดีมากที่สุด คือขนาด 2 ห้องนอนราคา 5-7 ล้านบาท รวมถึงห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน ราคา 3-4 ล้านบาทก็ขายดีเช่นกัน ส่วนห้องชุดไม่เกิน 1-2 ล้านบาท ที่เริ่มทยอยเข้าสูตลาดหัวหินในขณะนี้นั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นที่นิยมของตลาดหรือไม่เนื่องจากพึ่งเริ่มเปิดขาย” นายพนมกล่าว
สำหรับในปี 2555 คาดว่าตลาดคอนโดฯ ในหัวหิน - ชะอำ จะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง มีการเปิดโครงการใหม่อีกไม่น้อยกว่า 8 โครงการ ประกอบด้วยหน่วยขายจากโครงการระดับกลาง - สูงเพียง 2,300 หน่วย อีกราว 6,000 หน่วย เป็นหน่วยขายจากโครงการที่ราคาขายต่ำกว่า 2 ล้านบาท และจะเห็นว่า กลุ่มแสนสิริ, แลนด์แอนด์เฮ้าส์, ควอลิตี้เฮ้าส์ และ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จะยังคงเปิดขายโครงการอย่างต่อเนื่อง เช่น เดียวกับการเข้ามาในตลาดของ บริษัท เอสซี แอสเสทจำกัด (มหาชน) ก็จะยิ่งเพิ่มความคึกคักของตลาดคอนโดในหัวหิน – ชะอำให้มากขึ้นด้วย
ด้านนายประไพสิทธิ์ ตัณฑ์เกยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้ามามากขึ้นทั้งรายใหญ่จากตลาดหลักทรัพย์และรายกลางจากกรุงเทพฯ และฝั่งตะวันออก ส่วนใหญ่ขายยูนิตขนาดเล็ก 28-32 ตร.ม. หรือไม่ติดทะเลหรือไม่เห็นทะเลเต็มตาเป็นหลัก และยึดตลาดคนไทยเกือบทั้งหมดเพื่อการพักผ่อนเป็นบ้านหลังที่สองและหนีน้ำท่วม เพราะหัวหินไม่มีย่านธุรกิจหรือนิคมอุตสาหกรรม เช่นฝั่งทะเลตะวันออก ชาวต่างชาติส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปที่เกษียณแล้วมาอาศัยที่นี่ คิดเป็นสัดส่วน 20% ซึ่งลดลงจากปีที่ผ่านมา 25% เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอย่างยิ่งในยุโรป ความต้องการดังกล่าว ทำให้ราคาที่ดินชะอำ-หัวหิน เพิ่มขึ้น 10 – 20% ต่อปี อาทิ ที่ดินติดทะเลและถนนใหญ่ราคา 20-35 ล้านบาท/ไร่ ที่ดินหัวหินก่อนเขาตะเกียบราคา 50 – 60 ล้านบาท/ไร่, เขาเต่าราคา 15 – 20 ล้านบาท/ไร่ ราคาที่ดิน การพัฒนาส่วนใหญ่มุ่งมาเขตชะอำต่อกับหัวหิน เพราะการคมนาคมสะดวกและสาธารณูปโภคพร้อม
จากอุปสงค์ดังกล่าวฯ ส่งผลให้บริษัทฯ ตัดสินใจนำที่ดิน 4 ไร่เศษ (1,214,7 ตร.ว.) บริเวณด้านเหนือโครงการโบ๊ทเฮ้าส์หัวหินมาพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อ The Legend by Boathouse Hua Hin (เดอะ เลจเจ้นท์ บาย โบ๊ทเฮ้าส์หัวหิน) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 18 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 159 ยูนิต พื้นที่เริ่มต้น 46-130 ตารางเมตร ขนาด 1- 3 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท หรือ ประมาณ 90,000 บาท ต่อต.ร.ม.รูปแบบอาคาร Single-Loaded Corridor ซึ่งเกือบทุกห้องมองเห็นวิวทะเล 180 องศา.
ทั้งนี้บริษัทจะเปิดขายโครงการอย่างเป็นทางการในวันที่ 5-8 เมษายน 2555 นี้ ลูกค้าจะได้รับโปรโมชั่น เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท*, ผ่อนดาวน์เริ่มต้น 9,900 บ./เดือน, ฟรีเฟอร์นิเจอร์ และลุ้นรับ The New I PAD และแพ็คเกจพักโรงแรมหรู ส่วนความคืบหน้าของเฟสแรก
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงผลสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในหัวหิน - ชะอำปี 2554 พบว่า มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่มากถึง 6,889 ยูนิต จาก 5 โครงการ ทั้งนี้จำนวนที่เพิ่มขึ้นมากเกิดจากการเปิดตัว โครงการ เดอะ เอนเนอร์จี้ ซึ่งมีจำนวนหน่วยขายถึง 6,000 ยูนิต ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนหน่วยที่มีการพัฒนามาเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2546 - 2553 รวมกันเพียง 6,504 ยูนิต อย่างไรก็ตามอุปทานที่เพิ่มขึ้นในปี 2554 ส่วนใหญ่เน้นไปที่คอนโดฯขนาด 1 ห้องนอน ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งแตกต่างจากตลาดคอนโดฯที่เปิดขายในอดีต ที่ส่วนใหญ่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไปทางสูง
ทั้งนี้คอนโดฯเกิดใหม่เกือบทั้งหมดจะตั้งอยู่ในเขตอำเภอชะอำ ในขณะที่คอนโดฯในตัวเมืองหัวหินไม่มีการเปิดโครงการใหม่ เนื่องมาจากที่ดินในเขตหัวหินและเขาตะเกียบที่มีขนาดและราคาเหมาะสมต่อการพัฒนานั้นหายากมาก
“ส่วนห้องชุดที่นิยมหรือขายดีมากที่สุด คือขนาด 2 ห้องนอนราคา 5-7 ล้านบาท รวมถึงห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน ราคา 3-4 ล้านบาทก็ขายดีเช่นกัน ส่วนห้องชุดไม่เกิน 1-2 ล้านบาท ที่เริ่มทยอยเข้าสูตลาดหัวหินในขณะนี้นั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นที่นิยมของตลาดหรือไม่เนื่องจากพึ่งเริ่มเปิดขาย” นายพนมกล่าว
สำหรับในปี 2555 คาดว่าตลาดคอนโดฯ ในหัวหิน - ชะอำ จะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง มีการเปิดโครงการใหม่อีกไม่น้อยกว่า 8 โครงการ ประกอบด้วยหน่วยขายจากโครงการระดับกลาง - สูงเพียง 2,300 หน่วย อีกราว 6,000 หน่วย เป็นหน่วยขายจากโครงการที่ราคาขายต่ำกว่า 2 ล้านบาท และจะเห็นว่า กลุ่มแสนสิริ, แลนด์แอนด์เฮ้าส์, ควอลิตี้เฮ้าส์ และ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จะยังคงเปิดขายโครงการอย่างต่อเนื่อง เช่น เดียวกับการเข้ามาในตลาดของ บริษัท เอสซี แอสเสทจำกัด (มหาชน) ก็จะยิ่งเพิ่มความคึกคักของตลาดคอนโดในหัวหิน – ชะอำให้มากขึ้นด้วย
ด้านนายประไพสิทธิ์ ตัณฑ์เกยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้ามามากขึ้นทั้งรายใหญ่จากตลาดหลักทรัพย์และรายกลางจากกรุงเทพฯ และฝั่งตะวันออก ส่วนใหญ่ขายยูนิตขนาดเล็ก 28-32 ตร.ม. หรือไม่ติดทะเลหรือไม่เห็นทะเลเต็มตาเป็นหลัก และยึดตลาดคนไทยเกือบทั้งหมดเพื่อการพักผ่อนเป็นบ้านหลังที่สองและหนีน้ำท่วม เพราะหัวหินไม่มีย่านธุรกิจหรือนิคมอุตสาหกรรม เช่นฝั่งทะเลตะวันออก ชาวต่างชาติส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปที่เกษียณแล้วมาอาศัยที่นี่ คิดเป็นสัดส่วน 20% ซึ่งลดลงจากปีที่ผ่านมา 25% เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอย่างยิ่งในยุโรป ความต้องการดังกล่าว ทำให้ราคาที่ดินชะอำ-หัวหิน เพิ่มขึ้น 10 – 20% ต่อปี อาทิ ที่ดินติดทะเลและถนนใหญ่ราคา 20-35 ล้านบาท/ไร่ ที่ดินหัวหินก่อนเขาตะเกียบราคา 50 – 60 ล้านบาท/ไร่, เขาเต่าราคา 15 – 20 ล้านบาท/ไร่ ราคาที่ดิน การพัฒนาส่วนใหญ่มุ่งมาเขตชะอำต่อกับหัวหิน เพราะการคมนาคมสะดวกและสาธารณูปโภคพร้อม
จากอุปสงค์ดังกล่าวฯ ส่งผลให้บริษัทฯ ตัดสินใจนำที่ดิน 4 ไร่เศษ (1,214,7 ตร.ว.) บริเวณด้านเหนือโครงการโบ๊ทเฮ้าส์หัวหินมาพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อ The Legend by Boathouse Hua Hin (เดอะ เลจเจ้นท์ บาย โบ๊ทเฮ้าส์หัวหิน) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 18 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 159 ยูนิต พื้นที่เริ่มต้น 46-130 ตารางเมตร ขนาด 1- 3 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท หรือ ประมาณ 90,000 บาท ต่อต.ร.ม.รูปแบบอาคาร Single-Loaded Corridor ซึ่งเกือบทุกห้องมองเห็นวิวทะเล 180 องศา.
ทั้งนี้บริษัทจะเปิดขายโครงการอย่างเป็นทางการในวันที่ 5-8 เมษายน 2555 นี้ ลูกค้าจะได้รับโปรโมชั่น เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท*, ผ่อนดาวน์เริ่มต้น 9,900 บ./เดือน, ฟรีเฟอร์นิเจอร์ และลุ้นรับ The New I PAD และแพ็คเกจพักโรงแรมหรู ส่วนความคืบหน้าของเฟสแรก
