xs
xsm
sm
md
lg

กลับบ้านสงกรานต์ป่วน "เจ๊เกียว"งดตีรถเปล่ารับคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-”เจ๊เกียว”ขู่ไม่วิ่งตีรถเปล่ากลับรับต้นทางช่วงสงกรานต์ อ้างขาดทุนไม่มีเงินเติมน้ำมัน “ชัชชาติ”สั่งขบ.-บขส.เตรียมมาตรการรองรับ จัดรถ30 เสริม ปรับจุดออกปล่อยรถกระจาย ตัดสายสั้น ลั่นห้ามรถขาดเด็ดขาด กำชับคุมเข้มรถตู้ ตรวจก่อนออกคิว หวั่นเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่มีรถตู้ ปิดถนนประท้วง ขบ.เลือกปฏิบัติ รีดค่าปรับไม่เป็นธรรม อ้างคำสั่งจับมาจาก”รมว.คมนาคม”

นายชัชชาติ สัทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้กำชับให้บริษัท ขนส่ง จำกัด และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดย บขส.ต้องจัดเตรียมรถให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ห้ามรถขาดโดยเด็ดขาด โดยให้นำรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถ 30 ) มาวิ่งเสริม และให้กระจายจุดออกรถและตัดระยะวิ่งให้สั้นลง เช่น ออกจากกรุงเทพฯ ถึงโคราช จากนั้นค่อยกระจายต่ออีกทอดหนึ่ง รวมถึง ให้ขบ.จัดหาพื้นที่สำหรับเป็นจุดพักรถ (Rest Area) ประมาณ 10 จุด หรือ 1 แห่ง ต่อระยะทางทุกๆ 200 กิโลเมตร โดยให้สรุปมาตรการความพร้อมทั้งหมดโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับบริการในส่วนของรถตู้โดยสารที่มีอันตรายสูง และคาดว่าในช่วงสงกรานต์จะมีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงมอบหมายให้ขบ.และบขส.จัดเจ้าหน้าที่ ประจำจุดปล่อยรถตู้ เช่น อนุสาวรีย์ ,ปิ่นเกล้า เพื่อตรวจสอบความพร้อม ทั้งสภาพรถ สภาพคนขับ ใบขับขี่ การแต่งกาย ตรวจวัดแอลกอฮอล์ และรถเถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาตแอบมาวิ่งรับผู้โดยสาร

นางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร (รถร่วมเอกชน บขส.) กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ยังไม่พิจารณาปรับค่าโดยสารให้ผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32.33 บาทต่อลิตร โดยให้รอการพิจารณาของคณะกรรมการในวันที่ 25 เม.ย.นี้ นั้น ในส่วนของสมาคมฯได้หารือกับสมาชิกแล้ว ได้ข้อสรุปว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะไม่มีการพาสรถ หรือการตีรถเปล่าจากปลายทาง หลังจากส่งผู้โดยสารแล้วกลับมารับผู้โดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิตเหมือนที่เคยทำช่วงสงกรานต์อีก แต่จะเดินรถให้บริการตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ตามปกติเท่านั้น คือ ออกจากต้นทางไปส่งผู้โดยสารปลายทางและรอรับผู้โดยสารจากปลายทางกลับมา

"สาเหตุที่ไม่สามารถตีรถเปล่ากลับมารับได้เหมือนที่ผ่านมา เพราะราคาน้ำมันสูง ผู้ประกอบการไม่มีเงินเติมน้ำมัน ตีรถเปล่ากลับแล้วขาดทุนแน่นอน ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการกดดันรัฐบาลหรือบีบกระทรวงคมนาคมเพื่อให้ปรับค่าโดยสาร แต่ทำไม่ไหวจริงๆ"นางสุจินดากล่าว

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ มีสมาชิกประมาณ 300-400 คัน จะดำเนินการเหมือนกันหมด และในวันที่ 11 เม.ย.นี้ จะเข้าประชุมเพื่อให้ข้อมูลกับคณะกรรมการขนส่งกลางแน่นอน

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส.กล่าวว่า เร็วๆ นี้ จะหารือกับผู้ประกอบการรถโดยสารบขส.รายใหญ่ เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงสงกรานต์ ซึ่งเชื่อว่าผู้ประกอบการจะให้บริการอย่างเต็มที่เพื่ออำนวยความสะดวกประชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการกว่า 1 ล้านคน ใกล้เคียงกับสงกรานต์ปีที่แล้ว

ส่วนกรณีที่กลุ่มนางสุจินดาจะไม่พาสรถกลับมารับผู้โดยสารในช่วงสงกรานต์นั้น เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ไม่ผิดอะไร ซึ่งในส่วนของบขส.จะประสานรถ 30 เข้ามาวิ่งเสริม และขอความร่วมมือกับขนส่งอื่นๆ เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ช่วยเพิ่มขบวนรถอีกทางหนึ่ง ยืนยันว่าจะมีรถบริการประชาชนเดินทางอย่างเพียงพอแน่นอน

***คมนาคมรับปากยอมแท็กซี่ขึ้นราคา

นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ โดยยืนยันว่าในความเห็นส่วนตัว ยอมรับว่า ผู้ขับรถแท็กซี่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงน่าจะปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่ภายในเดือนเม.ย.2555 นี้ โดยจะขอนำข้อเสนอของกลุ่มแท็กซี่เสนอต่อ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก่อน จากนั้นจะนำข้อสรุปตัวเลขต่างๆ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป

ด้านนายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานกรรมการสหกรณ์แท็กซี่สยาม กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการแท็กซี่มีความเห็นร่วมกันว่าควรจะปรับอัตราค่าโดยสารตามมิเตอร์แท็กซี่เพิ่มขึ้น โดยคงอัตรา 35 บาทในจุดเริ่มต้นเท่าเดิม แต่ให้ปรับขึ้นตามระยะทางจากกิโลเมตรที่ 1-50 เพิ่มขึ้น 12% ส่วนระยะทางกิโลเมตรที่ 50-150 เพิ่มขึ้น 8% และระยะทางกิโลเมตรที่ 150 ขึ้นไป ปรับขึ้น 15% และหากรถติดไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 1.50 บาทต่อนาที เป็น 2.50 บาทต่อนาที สำหรับการปรับขึ้นค่าโดยสารในอัตราดังกล่าว จะช่วยผู้ขับรถแท็กซี่ให้อยู่รอดและช่วยแก้ปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารในระยะทางไกลได้ด้วย

***รถตู้ประท้วงรีดค่าปรับไม่เป็นธรรม

วานนี้ (27 มี.ค.) เวลาประมาณ 12.30 น. ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้โดยสาร สายต.16 (ชลบุรี-หมอชิตใหม่) และสาย ต.116 (มีนบุรี-หมอชิต) ประมาณ 40 คัน ได้รวมตัวกันที่บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 ตรงข้ามห้างสรรพสินค้า JJ MALL ประท้วงเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มีพฤติกรรมเลือกปฏิบัติทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน

นายสมมาตร บุญยอ แกนนำรถตู้สาย ต 16 (ชลบุรี-หมอชิตใหม่) กล่าวว่า กลุ่มของตนได้ให้บริการในเส้นทางดังกล่าวมาประมาณ 10 ปีแล้ว โดยมีใบอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย ต่อมามีกลุ่มนายทุนนำรถตู้ 70 คัน จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอวิ่งในเส้นทางเดียวกัน และร้องเรียนว่า กลุ่มของตนที่วิ่งอยู่เดิมอย่างถูกต้องวิ่งทับเส้นทาง ทำให้ถูกกรมการขนส่งทางบก

จับกุมบ่อยครั้ง ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า มีเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก ได้มาออกใบสั่งให้รถตู้กลุ่มของตนเกือบ 20 ใบ โดยจะต้องเสียค่าปรับใบละ 2,000 บาท และอ้างว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้มาจับ จึงต้องออกมารวมตัวกันให้มีการชี้แจงในเรื่องดังกล่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ได้รับแจ้งเหตุว่า กลุ่มรถตู้ สาย ต.116 ที่รวมตัวกันนั้น เพื่อร้องเรียนเจ้าหน้ากรมการขนส่งทางบก เนื่องจากมีการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากก่อนหน้านี้ รถตู้โดยสารสายดังกล่าว จะถูกโดนจับ-ปรับ ถี่มาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานขอความร่วมมือกับรถตู้ ให้จอดรถเป็นที่เป็นทาง เพื่อไม่ให้กระทบต่อการจราจร

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวยืนยันว่า ไม่มีกรณีเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกดำเนินการตามที่ผู้ประกอบการรถตู้ร้องเรียนแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมา กรมฯ มีนโยบายที่ปราบปรามรถตู้โดยสารเถื่อนให้หมดไป ซึ่งการกระทำตามที่ผู้ประกอบการระบุนั้น ถือว่าเป็นการสนับสนุนให้ผู้กระทำผิดดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะรถตู้โดยสารที่วิ่งให้บริการทับเส้นทางรถตู้โดยสารที่ได้รับอนุญาตตามที่กรมฯ ออกใบอนุญาตให้ ก็เป็นรถตู้เถื่อนและถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น