Fund Flow ยังทะลักเข้าดันหุ้นไทยปิดตลาดบวกเพิ่ม 18.97 จุด ต่างชาติซื้อีก 2.4 พันล้าน รวมตั้งแต่พ.ย.ปีก่อนยอดซื้อสะสมจ่อ9หมื่นล้านบาท มีลุ้นเห็น1แสนล้าน จากความคาดหวังเฟดประกาศใช้มาตรการQE3 โดย”ทรีนิตี้”คาดมีโอกาสแตะ1,300 จุด ด้านทองคำรับอานิสงส์ด้วยปรับตัวเพิ่มขึ้น 400 บาท
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้(27มี.ค. ปรับตัวอยู่ในแดนบวกตลอดวัน โดยปิดที่ระดับ 1,207.29 จุด เพิ่มขึ้น 18.97 จุด หรือ1.60% มูลค่าการซื้อขาย 33,176.64 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับตัวสูงสุด 1,207.29 จุด และต่ำสุด 1,197.82 จุด ภาพรวมหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม Fund flow ที่เน้นลงทุนหุ้น Global Equity โดยวานนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,483.33 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 326 หลักทรัพย์ ลดลง 202 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 154 หลักทรัพย์ และหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,090.51 ล้านบาท ปิดที่ 618.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,883.34 ล้านบาท ปิดที่ 356.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,435.08 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,409.67 ล้านบาท ปิดที่ 66.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท และ DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,403.71 ล้านบาท ปิดที่ 85.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับเพิ่มขึ้นตามเม็ดเงินลงทุนที่ยังคงมีเข้ามาต่อเนื่องโดยตั้งแต่เดือน พ.ย54 จนถึงวานนี้มีเม็ดเงินรวม 8.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งวันนี้ยอดรวมต่างชาติน่าจะซื้อสุทธิแตะ 9 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ หากย้อนหลังไปเมื่อหลังวิกฤตซับไพร์มเมื่อ 3 ปีที่แล้วมีเม็ดเงินไหลเข้าราว 1 แสนล้านบาท ดังนั้น รอบนี้คาดว่าเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยน่าจะอยู่ในระดับเดียวกัน และดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะไปอยู่ที่ระดับ 1,241 จุด
ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะใช้มาตรการ QE3 เพื่อลดตัวเลขการว่างงานนั้น ขณะนี้ประเมินว่าไม่จำเป็นเพราะเศรษฐกิจสหรัฐได้ปรับฟื้นตัวมาอย่างต่อเนื่อง น่าจะคงใช้เพียงมาตรการดอกเบี้ยต่ำและการออกพันธบัตรเท่านั้น
“การที่ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่มาจากหุ้นกลุ่มที่ต่างชาตินิยมอยู่แล้ว อย่าง พลังงาน ปิโตรเคมี ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ซึ่งนักลงทุนคงต้องเลือกลงทุนมากขึ้น เพราะหุ้นบางตัวราคาเต็มมูลค่าไปแล้ว โดยหุ้นที่น่าสนใจ อาทิ PTTGC IVL DELTA ดังนั้นกรอบการลงทุนให้แนวรับที่ 1,185-1,180 จุด แนวต้าน 1,214 จุด ซึ่งป็นดัชนีสูงสุดเดิม”
นายวิศิษฐ์ ประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET Index)ช่วงกลางปีนี้จะขึ้นไปถึง 1,300 จุด แต่อาจเห็นการปรับฐานในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.55 แต่คงไม่มาก อาจแตะจุดต่ำสุดที่ 1,150 จุด เนื่องจาก fund flow อาจจะชะลอการลงทุนในช่วงดังกล่าว ก่อนจะกลับมาลงทุนอีกครั้งช่วง มิ.ย.55 นอกจากนี้อาจเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ปรับประมาณการกำไร บจ.ขึ้นอีก จากเดิม 14%
ทองคำดีดตัวรับข่าวQE3อีกรอบ
ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ดัชนีหลักทรัพย์เท่านั้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามข่าวที่สหรัฐฯอาจมีการประกาศใช้มาตรการQE3 เรื่องดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 400 บาทด้วยเช่นกัน โดยสมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณวานนี้ (27 มี.ค.) ทองคำแท่งรับซื้อคืนที่บาทละ 24,500 บาท และขายที่ 24,600 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อคืนที่บาทละ 24,149.88 บาท ขายที่บาทละ 25,000 บาท
บมจ. โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ ให้มุมมองต่อราคาทองคำวันนี้(28มี.ค.) ว่า ราคาทองคำวานนี้ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 3.10เหรียญ/Oz หรือ 0.18% มาอยู่ที่ 1,694.84เหรียญ/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศอยู่ที่ 1,686.34-1,694.86เหรียญ/Oz)
ภาพรวมราคาทองคำได้รับแรงบวกจากความหวังที่ว่าจะมีการเพิ่มเงินเข้ากองทุนคุ้มครองยูโรโซนซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีและสเปนปรับตัวลดลง นอกจากนี้ยังคงได้แรงหนุนจากนายเบอร์นันเก้ที่หนุนการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย หลังต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตเพิ่มขึ้นเพื่อลดจำนวนคนว่างงานลง
ทำให้แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ คาดว่าปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,705เหรียญ/Oz ได้ ซึ่งหากยังมีแรงซื้อทะลุเหนือ 1,705เหรียญ/Oz ให้รอขายทำกำไรบริเวณ 1,725เหรียญ/Oz แต่หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับที่ 1,686เหรียญ/Oz ให้ขายทำกำไร แล้วมารอซื้อกลับที่แนวรับ 1,670เหรียญ/Oz ในคืนนี้มีความเชื่อมั่นผู้บริโภค