เมื่อเวลา 12.00 น.วานนี้ (22 มี.ค.) พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมที่มี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ว่า ที่ประชุมรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการสูญเสียของประชาชนในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 4 ศพ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงมาตรการการเยียวยา ซึ่งจากการดำเนินการสอบสวนจนได้ข้อยุติจากคณะกรรมการ 2 ชุด โดยคณะกรรมการชุดที่ 1 ซึ่งมี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธาน มีข้อเสนอให้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4302 ทั้ง 4 นาย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย และดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเยียวยาด้านจิตใจ เพื่อมิให้เกิดเป็นเงื่อนไขในพื้นที่
ส่วนคณะกรรมการชุดที่ 2 มี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ทำหน้าที่ประธานกรรมการสอบสวน มีผลการสอบสวนว่า ชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่ใช่คนร้าย แม้จากคำให้การทั้งหมดบ่งชี้ว่า ผู้ใช้อาวุธทำให้ชาวบ้านบาดเจ็บ และเสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็ตาม แต่ยังต้องติดตามต่อไปว่าเจตนาการยิงของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร และกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าวแล้ว รวม 8 ข้อ คือ
1. ให้ผู้กระทำผิดยอมรับความจริงและขอโทษ พร้อมกับออกมาแถลงความจริงต่อสาธารณชน 2. ให้เยียวยาหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง 3.ให้นำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
4.ให้มีการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ 5. การนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล รวมทั้งการตรวจชันสูตรศพให้เวลานานมาก ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ควรคำนึงถึงจริยธรรมในการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บให้มากกว่านี้ 6. ให้กำหนดมาตรการการใช้อาวุธให้รัดกุม 7. ให้ทำความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ 8. ให้จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่เร็วพร้อมเข้าไปช่วยเหลือผู้ถูกทำร้ายในที่เกิดเหตุ
พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ จะไม่มีผลต่อรูปคดี ซึ่งจะมีการดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน และการตัดสินของศาล ที่จะพิพากษาตามพยานหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติภารกิจยังยืนยันกับประชาชนว่า เจ้าหน้าที่ทุกนาย มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ดีที่สุด เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และจะปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน และหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป โดยจะให้การเคารพและยอมรับการตัดสินใจตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมที่จะสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับการช่วยเหลือเยียวยา เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐอันสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555 ที่กำหนดไว้ ซึ่ง เบื้องต้นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้มอบเงินเยียวยาให้กับญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย รายละ 500,000บาทแล้ว ขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ และ ศอ.บต.จะร่วมพิจารณาว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเฉพาะกรณี โดยให้ช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมอีกไม่เกิน รายละ7,000,000 บาท
ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องของการเยียวยา ซึ่งเรื่องเงิน 7 ล้านบาท ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ แต่จะต้องดูว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ หรือ ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวว่า การเยียวยาผู้ที่เสียชีวิต 4 ศพนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาว่า เข้าข่ายที่จะได้รับเงินเยียวยา 7 ล้านหรือไม่ ซึ่งคงเป็นไปตามกติกา ส่วนที่มีชาวบ้านพื้นที่ออกมาเรียกร้องในความไม่เท่าเทียมของการเยียวยานั้น ตนมองว่า ทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่แล้ว คนเรียกร้องก็สามารถทำได้ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการว่าจะทำอย่างไร ไม่ใช่จะเอาอย่างเดียว ทหารยังไม่ได้อย่างนั้นเลย อย่างไรก็ตามทุกคนจะต้องเคารพกติกา
ส่วนคณะกรรมการชุดที่ 2 มี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ทำหน้าที่ประธานกรรมการสอบสวน มีผลการสอบสวนว่า ชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่ใช่คนร้าย แม้จากคำให้การทั้งหมดบ่งชี้ว่า ผู้ใช้อาวุธทำให้ชาวบ้านบาดเจ็บ และเสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็ตาม แต่ยังต้องติดตามต่อไปว่าเจตนาการยิงของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร และกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าวแล้ว รวม 8 ข้อ คือ
1. ให้ผู้กระทำผิดยอมรับความจริงและขอโทษ พร้อมกับออกมาแถลงความจริงต่อสาธารณชน 2. ให้เยียวยาหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง 3.ให้นำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
4.ให้มีการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ 5. การนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล รวมทั้งการตรวจชันสูตรศพให้เวลานานมาก ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ควรคำนึงถึงจริยธรรมในการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บให้มากกว่านี้ 6. ให้กำหนดมาตรการการใช้อาวุธให้รัดกุม 7. ให้ทำความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ 8. ให้จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่เร็วพร้อมเข้าไปช่วยเหลือผู้ถูกทำร้ายในที่เกิดเหตุ
พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ จะไม่มีผลต่อรูปคดี ซึ่งจะมีการดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน และการตัดสินของศาล ที่จะพิพากษาตามพยานหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติภารกิจยังยืนยันกับประชาชนว่า เจ้าหน้าที่ทุกนาย มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ดีที่สุด เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และจะปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน และหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป โดยจะให้การเคารพและยอมรับการตัดสินใจตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมที่จะสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับการช่วยเหลือเยียวยา เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐอันสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555 ที่กำหนดไว้ ซึ่ง เบื้องต้นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้มอบเงินเยียวยาให้กับญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย รายละ 500,000บาทแล้ว ขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ และ ศอ.บต.จะร่วมพิจารณาว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเฉพาะกรณี โดยให้ช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมอีกไม่เกิน รายละ7,000,000 บาท
ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องของการเยียวยา ซึ่งเรื่องเงิน 7 ล้านบาท ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ แต่จะต้องดูว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ หรือ ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวว่า การเยียวยาผู้ที่เสียชีวิต 4 ศพนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาว่า เข้าข่ายที่จะได้รับเงินเยียวยา 7 ล้านหรือไม่ ซึ่งคงเป็นไปตามกติกา ส่วนที่มีชาวบ้านพื้นที่ออกมาเรียกร้องในความไม่เท่าเทียมของการเยียวยานั้น ตนมองว่า ทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่แล้ว คนเรียกร้องก็สามารถทำได้ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการว่าจะทำอย่างไร ไม่ใช่จะเอาอย่างเดียว ทหารยังไม่ได้อย่างนั้นเลย อย่างไรก็ตามทุกคนจะต้องเคารพกติกา