วานนี้(20 มี.ค.55)นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.สัญจร จ.ภูเก็ต มีมติเห็นชอบในหลักการแผนงานโครงการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 5 จังหวัด ประกอบด้วย ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, ตรัง ระนอง จำนวน 117 โครงการ วงเงินรวมกว่า 84,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการกลุ่มจังหวัด 10 โครงการ วงเงิน 24,873 ล้านบาท และโครงการจังหวัด 107 โครงการ วงเงิน 59,263 ล้านบาท แยกเป็นจังหวัดภูเก็ต จำนวน 67 โครงการ วงเงิน 47,683 ล้านบาท, จังหวัดพังงา จำนวน 13 โครงการ วงเงิน 3,817 ล้านบาท, จังหวัดกระบี่ 10 โครงการ วงเงิน 3,439 ล้านบาท, จังหวัดตรัง 6 โครงการ วงเงิน 334 ล้านบาท และจังหวัดระนอง 11 โครงการ วงเงิน 3,990 ล้านบาท
ขณะทีโครงการด้านต่าง ๆรัฐบาลจะใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเป็นการยะระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยจะมีการจัดสรรงบประมาณให้แต่ละจังหวัดประมาณ 100 ล้านบาทในการดำเนินโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
ครม.ยังเห็นชอบโครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันทีรวม 23 โครงการ วงเงิน 628 ล้านบาท โดย นายกรัฐมนตรี กำชับให้หน่วยงานต่างๆ ทำรายละเอียดคำขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2555 จัดส่งให้สำนักงบประมาณภายใน 2 สัปดาห์ ยกเว้นโครงการเตรียมพื้นที่, ปรับปรุงพื้นที่, ถมดินบริเวณโครงการจัดตั้งศูนย์ราชการระดับจังหวัด จ.พังงา วงเงิน 35 ล้าบาท ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ พ.ศ.2539 ก่อนทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าครม.เห็นชอบในหลักการการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงาและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ เช่น การขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ต เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี การจัดตั้งสำนักงานแขวงการทางพังงา การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ให้ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย
ขณะเดียวกันครม.ยังรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจภูมิภาค (กรอ.ภูมิภาค) และเห็นชอบให้ผวจ.ภุเก็ต จัดทำแผนงานการดำเนินการขยายและเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับผู้โดยสารที่สนามบินนานาชาติ จังหวัดภูเก็ต จาก 6 ล้านคน เป็น 12 ล้านคน
ทั้งนี้ยังเห็นชอบโครงการขยายถนนฝั่งอันดามันเป็น 4 ช่องทาง ตั้งแต่ชุมพร ระนอง พังงา ตรัง และสตูลบางส่วน
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า การจัดประชุม ครม.สัญจร ครั้งที่ 5 คาดว่าจะเป็นจังหวัด ในภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ แต่ยังไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าจะเป็นจังหวัดใด ระหว่างจ.ราชบุรี นครปฐม หรือ กาญจนบุรี
สำหรับบรรยากาศด้านนอกมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มีประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนมากก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินเท้า พบปะพูดคุยทักทาย ก่อนรับหนังสือจากนายสานันท์ สุพรรณชนะบุรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พัทลุง และกลุ่มผู้สูงอายุที่สวมเสื้อสีแดงจำนวน 700 คน 15 คันรถบัส ที่เดินทางจาก อ.ทะเลน้อย จ.พัทลุง เพื่อขอส่งแผนการของบประมาณ โครงการจัดตั้งศูนย์การศึกษาและบริการทางแพทย์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง
อีกด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเคยเรียกร้องมาตลอดว่า ทุกฝ่ายควรมีโอกาสลงพื้นที่ทั่วทุกภาคได้โดยปราศจากการใช้ความรุนแรง อยากให้นายกฯ พูดกับผู้สนับสนุนในเรื่องนี้ด้วย ถ้าไปตามธรรมชาติก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็ได้รับการต้อนรับเป็นเรื่องที่ดี เพียงแต่ว่า สมัยที่ตนเป็นรัฐบาล มีการประกาศเชิญชวนเป็นกระบวนการชัดเจนว่า จะไม่ให้ลงพื้นที่นั้น พื้นที่นี้ แล้วมีการรวมตัวคนไปเพื่อที่จะไปก่อกวน วันนี้นายกฯ ก็สามารถจะเดินทางไปภาคใต้ได้แล้วถือเป็นเรื่องที่ดี ก็เพียงแต่บอกว่า อยากจะให้มันเป็นอย่างนี้กันทั้งหมด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ขอเตือนรัฐบาลอย่าทำเหมือนครม.สัญจรสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เน้นการสร้างภาพ แต่เอาเข้าจริงกลับมีแต่ตัวเลข และผลที่ปรากฏไม่เป็นไปตามประกาศไว้
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แม้ว่าจะมีความเห็นต่างทางการเมือง แต่พี่น้องชาวใต้พร้อมที่จะให้โอกาสรัฐบาลในการทำหน้าที่และทำให้สังคมเห็นว่าในอนาคตไม่ว่ารัฐบาลใดมาทำหน้าที่ก็สามารถประชุมครม.สัญจรได้ทุกภาค ทั้งนี้ไม่อยากเห็นการซ้ำรอยการทำงานประเภทผักชีโรยหน้า เหมือนยุครัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีการจัดประชุมครม.สัญจรที่รู้จักกันในชื่อ ทัวร์นกขมิ้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยเลือกใช้สถานที่วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช แต่ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น จนถึงวันนี้ไม่มีมีงบประมาณแม้แต่บาทเดียวให้กับ จ.นครศรีธรรมราช
ขณะทีโครงการด้านต่าง ๆรัฐบาลจะใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเป็นการยะระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยจะมีการจัดสรรงบประมาณให้แต่ละจังหวัดประมาณ 100 ล้านบาทในการดำเนินโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
ครม.ยังเห็นชอบโครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันทีรวม 23 โครงการ วงเงิน 628 ล้านบาท โดย นายกรัฐมนตรี กำชับให้หน่วยงานต่างๆ ทำรายละเอียดคำขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2555 จัดส่งให้สำนักงบประมาณภายใน 2 สัปดาห์ ยกเว้นโครงการเตรียมพื้นที่, ปรับปรุงพื้นที่, ถมดินบริเวณโครงการจัดตั้งศูนย์ราชการระดับจังหวัด จ.พังงา วงเงิน 35 ล้าบาท ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ พ.ศ.2539 ก่อนทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าครม.เห็นชอบในหลักการการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงาและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ เช่น การขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ต เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี การจัดตั้งสำนักงานแขวงการทางพังงา การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ให้ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย
ขณะเดียวกันครม.ยังรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจภูมิภาค (กรอ.ภูมิภาค) และเห็นชอบให้ผวจ.ภุเก็ต จัดทำแผนงานการดำเนินการขยายและเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับผู้โดยสารที่สนามบินนานาชาติ จังหวัดภูเก็ต จาก 6 ล้านคน เป็น 12 ล้านคน
ทั้งนี้ยังเห็นชอบโครงการขยายถนนฝั่งอันดามันเป็น 4 ช่องทาง ตั้งแต่ชุมพร ระนอง พังงา ตรัง และสตูลบางส่วน
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า การจัดประชุม ครม.สัญจร ครั้งที่ 5 คาดว่าจะเป็นจังหวัด ในภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ แต่ยังไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าจะเป็นจังหวัดใด ระหว่างจ.ราชบุรี นครปฐม หรือ กาญจนบุรี
สำหรับบรรยากาศด้านนอกมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มีประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนมากก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินเท้า พบปะพูดคุยทักทาย ก่อนรับหนังสือจากนายสานันท์ สุพรรณชนะบุรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พัทลุง และกลุ่มผู้สูงอายุที่สวมเสื้อสีแดงจำนวน 700 คน 15 คันรถบัส ที่เดินทางจาก อ.ทะเลน้อย จ.พัทลุง เพื่อขอส่งแผนการของบประมาณ โครงการจัดตั้งศูนย์การศึกษาและบริการทางแพทย์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง
อีกด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเคยเรียกร้องมาตลอดว่า ทุกฝ่ายควรมีโอกาสลงพื้นที่ทั่วทุกภาคได้โดยปราศจากการใช้ความรุนแรง อยากให้นายกฯ พูดกับผู้สนับสนุนในเรื่องนี้ด้วย ถ้าไปตามธรรมชาติก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็ได้รับการต้อนรับเป็นเรื่องที่ดี เพียงแต่ว่า สมัยที่ตนเป็นรัฐบาล มีการประกาศเชิญชวนเป็นกระบวนการชัดเจนว่า จะไม่ให้ลงพื้นที่นั้น พื้นที่นี้ แล้วมีการรวมตัวคนไปเพื่อที่จะไปก่อกวน วันนี้นายกฯ ก็สามารถจะเดินทางไปภาคใต้ได้แล้วถือเป็นเรื่องที่ดี ก็เพียงแต่บอกว่า อยากจะให้มันเป็นอย่างนี้กันทั้งหมด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ขอเตือนรัฐบาลอย่าทำเหมือนครม.สัญจรสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เน้นการสร้างภาพ แต่เอาเข้าจริงกลับมีแต่ตัวเลข และผลที่ปรากฏไม่เป็นไปตามประกาศไว้
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แม้ว่าจะมีความเห็นต่างทางการเมือง แต่พี่น้องชาวใต้พร้อมที่จะให้โอกาสรัฐบาลในการทำหน้าที่และทำให้สังคมเห็นว่าในอนาคตไม่ว่ารัฐบาลใดมาทำหน้าที่ก็สามารถประชุมครม.สัญจรได้ทุกภาค ทั้งนี้ไม่อยากเห็นการซ้ำรอยการทำงานประเภทผักชีโรยหน้า เหมือนยุครัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีการจัดประชุมครม.สัญจรที่รู้จักกันในชื่อ ทัวร์นกขมิ้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยเลือกใช้สถานที่วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช แต่ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น จนถึงวันนี้ไม่มีมีงบประมาณแม้แต่บาทเดียวให้กับ จ.นครศรีธรรมราช
