ASTVผู้จัดการรายวัน-ปชป.ตั้งฉายารัฐบาลปูนิ่ม แพงทั้งแผ่นดิน กินเงินเยียวยา ตั้งหน้าพากลับบ้าน ระรานคนเห็นต่าง มีรอยด่างทั้งรัฐบาล
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากพฤติกรรม 7 เดือนของรัฐบาลที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประเมินผลงานไปแล้ว จากการรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน จึงได้ตั้งฉายานามรัฐบาลนี้ว่า "รัฐบาลแพงทั้งแผ่นดิน-กินเงินเยียวยา-ตั้งหน้าพากลับบ้าน-ระรานคนเห็นต่าง-มีรอยด่างทั้งรัฐบาล" และหวังว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควรใส่ใจและตั้งใจบริหารราชการแผ่นดินมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้น จะมีหรือไม่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ ก็ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับประเทศ
โดยผลงานรัฐบาล 1.แพงทั้งแผ่นดิน เพราะสินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้นในรอบหลายปี ราคาพลังงานพุ่งขึ้นต่อเนื่อง แต่รัฐบาลไม่มีท่าทีแก้ปัญหา รมว.พลังงาน บอกจะยกเลิกกองทุนน้ำมันอีก ซึ่งจะกระทบราคาก๊าซภาคครัวเรือนแน่นอน ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ยังไม่ได้ใส่ใจหรือพูดถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ยังพูดแต่ว่า เศรษฐกิจไทยเป็นแบบเปิด ไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วประชาชนจะมีรองนายกฯ ประเภทนี้ไว้ทำไม เช่นเดียวกับ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
นอกจากนี้ รัฐบาลยังสร้างหนี้ท่วมประเทศ โดยเมื่อปลายปี 2554 สัดส่วนหนี้ต่อดีจีพี อยู่ที่ 40% แต่ขณะนี้อยู่ที่ 43% ซ้ำยังทำงบประมาณแบบขาดดุล 3 แสนล้านบาท และออกกฎหมายกู้เงินเพิ่มอีก โดยสรุปรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกู้เงินให้ประชาชนเป็นหนี้รวมเกือบ 7 แสนล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพี แตะ 50% และเป็นหนี้ที่เกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาลในการบริหารอุทกภัย จนทำให้เศรษฐกิจเสียหาย 1.4 ล้านล้านบาท ประชาชนเสียชีวิต 815 ราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
2.กินเงินเยียวยา แทนที่จะเอาวิกฤตประเทศมาแก้ปัญหา กลับเอาวิกฤตประเทศมาเป็นโอกาสให้กลุ่มทุนการเมือง โดยเฉพาะเงินที่กู้ยังไม่มีแผนว่าไปทำโครงการไหน ตั้งกรรมการซ้ำซ้อน เสนอของบครั้งละ 2-3 หมื่นล้านบาท โดยไม่มีแผน อาจมีการรวมหัวกันของนักการเมือง โดยเอาวิกฤติประเทศมาสร้างโอกาสให้ตัวเอง เช่น เรื่องที่ดินที่นักการเมืองถือครองจำนวนมาก อาจมีการสร้างพื้นที่หลอกไว้รับน้ำ เพื่อให้ได้รับการชดเชย ไร่ละ 5,000 บาท แต่มีเป็นหมื่นไร่ นักการเมืองคนหนึ่ง อาจได้ประโยชน์ไปถึง 50 ล้านบาท ยังไม่รวมการลงทุนโครงการพื้นฐานที่อ้างความเร่งด่วน แก้ระเบียบเป็นวิธีพิเศษทั้งหมด โอนอำนาจตัดสินใจให้ท้องถิ่น ผู้ว่าฯ นายอำเภอ มีอำนาจเต็มบริหารงบ ไม่ผ่านระบบประมูล
3.ตั้งหน้าพากลับบ้าน ขณะนี้ชัดเจนว่า วาระสำคัญสุดรัฐบาลนี้ คือ แก้รัฐธรรมนูญ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นผิด และพากลับบ้านโดยเร็วที่สุด เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาล จะอ้างว่า เป็นความเห็นส่วนตัว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ไม่ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีหน้าที่พูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับวันไหน ปีไหน แต่ต้องพูดว่า มีแนวคิดยังไง ต่อกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ และในฐานะนายกฯ ไม่ใช่น้องสาวจะทำเรื่องนี้อย่างไร
4.ระรานคนเห็นต่าง ขณะนี้เหมือนมีอันธพาลกลุ่มย่อยครองเมือง การบุกเข้าพบนายกนก รัตนวงศ์สกุล ผู้ดำเนินรายการใน อสมท. เกิดจากการเหลิงอำนาจของบุคคลที่คิดว่ามีรัฐบาลหนุนหลัง จะทำอะไรก็ได้ ระรานไม่เกรงใจคนเห็นต่าง เช่นเดียวกับการตั้ง นางนลินี ทวีสิน และนายณัฒิวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่มีรอยด่างจากคำวินิจฉัยผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่กลับคิดตั้งกรรมการตรวจสอบผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะคนเหล่านี้ผิดไม่ได้ ไม่ยอมรับคำตัดสินที่ตรงข้ามใจตัวเอง ระรานกระทั่งจ้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีขึ้นป้ายในภาคใต้ ขอถาม นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยว่า ถ้ายื่นศาลแล้วไม่มีการยุบประชาธิปัตย์ จะรับผิดอบอย่างไร หรือเป็นแผนตื้นๆ จะหาว่าสองมาตรฐานอีก
5.มีรอยด่างทั้งรัฐบาล กรณีโฟร์ซีซั่นส์ ก็ยังไม่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปทำอะไร และกรณีพฤติกรรม ร.ต.อ.เฉลิม ในสภา การแต่งตั้งผู้ติดแบล็กลิสต์ และผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย เป็นรัฐมนตรี รัฐบาลไม่เอาจริยธรรมความดีงามมานำ ใช้เงินตราหลอกล่อประชาชน และรับคำสั่งจากผู้นำตัวจริงนอกประเทศ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากพฤติกรรม 7 เดือนของรัฐบาลที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประเมินผลงานไปแล้ว จากการรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน จึงได้ตั้งฉายานามรัฐบาลนี้ว่า "รัฐบาลแพงทั้งแผ่นดิน-กินเงินเยียวยา-ตั้งหน้าพากลับบ้าน-ระรานคนเห็นต่าง-มีรอยด่างทั้งรัฐบาล" และหวังว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควรใส่ใจและตั้งใจบริหารราชการแผ่นดินมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้น จะมีหรือไม่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ ก็ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับประเทศ
โดยผลงานรัฐบาล 1.แพงทั้งแผ่นดิน เพราะสินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้นในรอบหลายปี ราคาพลังงานพุ่งขึ้นต่อเนื่อง แต่รัฐบาลไม่มีท่าทีแก้ปัญหา รมว.พลังงาน บอกจะยกเลิกกองทุนน้ำมันอีก ซึ่งจะกระทบราคาก๊าซภาคครัวเรือนแน่นอน ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ยังไม่ได้ใส่ใจหรือพูดถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ยังพูดแต่ว่า เศรษฐกิจไทยเป็นแบบเปิด ไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วประชาชนจะมีรองนายกฯ ประเภทนี้ไว้ทำไม เช่นเดียวกับ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
นอกจากนี้ รัฐบาลยังสร้างหนี้ท่วมประเทศ โดยเมื่อปลายปี 2554 สัดส่วนหนี้ต่อดีจีพี อยู่ที่ 40% แต่ขณะนี้อยู่ที่ 43% ซ้ำยังทำงบประมาณแบบขาดดุล 3 แสนล้านบาท และออกกฎหมายกู้เงินเพิ่มอีก โดยสรุปรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกู้เงินให้ประชาชนเป็นหนี้รวมเกือบ 7 แสนล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพี แตะ 50% และเป็นหนี้ที่เกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาลในการบริหารอุทกภัย จนทำให้เศรษฐกิจเสียหาย 1.4 ล้านล้านบาท ประชาชนเสียชีวิต 815 ราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
2.กินเงินเยียวยา แทนที่จะเอาวิกฤตประเทศมาแก้ปัญหา กลับเอาวิกฤตประเทศมาเป็นโอกาสให้กลุ่มทุนการเมือง โดยเฉพาะเงินที่กู้ยังไม่มีแผนว่าไปทำโครงการไหน ตั้งกรรมการซ้ำซ้อน เสนอของบครั้งละ 2-3 หมื่นล้านบาท โดยไม่มีแผน อาจมีการรวมหัวกันของนักการเมือง โดยเอาวิกฤติประเทศมาสร้างโอกาสให้ตัวเอง เช่น เรื่องที่ดินที่นักการเมืองถือครองจำนวนมาก อาจมีการสร้างพื้นที่หลอกไว้รับน้ำ เพื่อให้ได้รับการชดเชย ไร่ละ 5,000 บาท แต่มีเป็นหมื่นไร่ นักการเมืองคนหนึ่ง อาจได้ประโยชน์ไปถึง 50 ล้านบาท ยังไม่รวมการลงทุนโครงการพื้นฐานที่อ้างความเร่งด่วน แก้ระเบียบเป็นวิธีพิเศษทั้งหมด โอนอำนาจตัดสินใจให้ท้องถิ่น ผู้ว่าฯ นายอำเภอ มีอำนาจเต็มบริหารงบ ไม่ผ่านระบบประมูล
3.ตั้งหน้าพากลับบ้าน ขณะนี้ชัดเจนว่า วาระสำคัญสุดรัฐบาลนี้ คือ แก้รัฐธรรมนูญ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นผิด และพากลับบ้านโดยเร็วที่สุด เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาล จะอ้างว่า เป็นความเห็นส่วนตัว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ไม่ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีหน้าที่พูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับวันไหน ปีไหน แต่ต้องพูดว่า มีแนวคิดยังไง ต่อกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ และในฐานะนายกฯ ไม่ใช่น้องสาวจะทำเรื่องนี้อย่างไร
4.ระรานคนเห็นต่าง ขณะนี้เหมือนมีอันธพาลกลุ่มย่อยครองเมือง การบุกเข้าพบนายกนก รัตนวงศ์สกุล ผู้ดำเนินรายการใน อสมท. เกิดจากการเหลิงอำนาจของบุคคลที่คิดว่ามีรัฐบาลหนุนหลัง จะทำอะไรก็ได้ ระรานไม่เกรงใจคนเห็นต่าง เช่นเดียวกับการตั้ง นางนลินี ทวีสิน และนายณัฒิวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่มีรอยด่างจากคำวินิจฉัยผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่กลับคิดตั้งกรรมการตรวจสอบผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะคนเหล่านี้ผิดไม่ได้ ไม่ยอมรับคำตัดสินที่ตรงข้ามใจตัวเอง ระรานกระทั่งจ้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีขึ้นป้ายในภาคใต้ ขอถาม นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยว่า ถ้ายื่นศาลแล้วไม่มีการยุบประชาธิปัตย์ จะรับผิดอบอย่างไร หรือเป็นแผนตื้นๆ จะหาว่าสองมาตรฐานอีก
5.มีรอยด่างทั้งรัฐบาล กรณีโฟร์ซีซั่นส์ ก็ยังไม่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปทำอะไร และกรณีพฤติกรรม ร.ต.อ.เฉลิม ในสภา การแต่งตั้งผู้ติดแบล็กลิสต์ และผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย เป็นรัฐมนตรี รัฐบาลไม่เอาจริยธรรมความดีงามมานำ ใช้เงินตราหลอกล่อประชาชน และรับคำสั่งจากผู้นำตัวจริงนอกประเทศ