ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดูไบใหม่เป็น 140 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งแรง แต่ยังมั่นใจเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีนี้ไม่หลุดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐาน 3% หรือกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไป 4.5% เล็งเสนอเข้าที่ประชุม กนง.ในวันที่ 21 มี.ค.ก่อนเสนอคลังพิจารณาต่อไป
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดูไบขยับขึ้นมาเป็น 120 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งต่างจากข้อมูลของธปท.ที่ตั้งสมมติฐานราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยทั้งปีนี้ไว้ที่ 103 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ธปท.ได้ปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดูไบใหม่เป็น 140 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สำหรับกรณีเลวร้าย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าราคาน้ำมันระดับดังกล่าวไม่ได้กดดันต่อแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของธปท.ในระยะต่อไป
“แม้ ธปท.จะปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดูไบเพิ่มขึ้นเป็น 140 เหรียญต่อบาร์เรล แต่เท่าที่ประเมินอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีนี้ก็ยังคงอยู่ภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งคิดตามแบบเดิมที่คำนวณจากเงินเฟ้อพื้นฐาน 0.5-3.0% หรือแบบใหม่ที่คิดจากเงินเฟ้อทั่วไป 3% ซึ่งบวกลบได้ไม่เกิน 1.5% หรืออยู่ในช่วง 1.5-4.5% ”
ทั้งนี้ แม้ปัจจุบันแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อยังไม่มาก แต่ธปท.จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและต้องพิจารณาเรื่องอื่นประกอบด้วย ซึ่งนอกเหนือจากราคาน้ำมันในตลาดโลกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ก็ต้องติดตามนโยบายภาครัฐ อาทิ เรื่องกองทุนน้ำมัน หรือนโยบายภาษีสรรพสามิต เป็นต้น ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าค่าครองชีพอาจมีโอกาสขยับขึ้นเช่นเดียวกับราคาน้ำมันในตลาดโลกก็เพิ่มขึ้น ฉะนั้นแนวทางที่ดีที่สุดต้องใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและในระยะยาวควรลดการแทรกแซง เพื่อให้สามารถปรับตัวเองได้ตามสถานการณ์ความเป็นจริง
ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ธปท.เตรียมนำเสนอกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 55 กลับมาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ได้เสนอไป แต่ทางคณะรัฐมนตรีไม่อนุมัติ โดยขณะนี้ระดับทีมเจ้าหน้าที่ของธปท.และกระทรวงการคลังได้หารือเรื่องนี้อยู่ และธปท.จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ และนำข้อสรุปที่ได้เรื่องกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 55 นำเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้งในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
“ธปท.จะเสนอไป 2 ทางเลือกให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณา โดยทางเลือกแรกกลับไปใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานแค่ช่วงสั้นๆ ทางเลือกต่อมา หากรองนายกฯ ยังติดใจเรื่องการใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปอยู่อาจจะใช้เงินเฟ้อพื้นฐานตามเป้าหมายเดิมไปก่อนแล้วอาจจะเสนอเวลาในอนาคตที่ค่อยๆ ขยับไปใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เพราะยังไงก็มองว่าเงินเฟ้อทั่วไปยังสะท้อนค่าครองชีพที่ดีอยู่ ซึ่งเข้าใจได้ง่าย”
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดูไบขยับขึ้นมาเป็น 120 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งต่างจากข้อมูลของธปท.ที่ตั้งสมมติฐานราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยทั้งปีนี้ไว้ที่ 103 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ธปท.ได้ปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดูไบใหม่เป็น 140 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สำหรับกรณีเลวร้าย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าราคาน้ำมันระดับดังกล่าวไม่ได้กดดันต่อแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของธปท.ในระยะต่อไป
“แม้ ธปท.จะปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดูไบเพิ่มขึ้นเป็น 140 เหรียญต่อบาร์เรล แต่เท่าที่ประเมินอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีนี้ก็ยังคงอยู่ภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งคิดตามแบบเดิมที่คำนวณจากเงินเฟ้อพื้นฐาน 0.5-3.0% หรือแบบใหม่ที่คิดจากเงินเฟ้อทั่วไป 3% ซึ่งบวกลบได้ไม่เกิน 1.5% หรืออยู่ในช่วง 1.5-4.5% ”
ทั้งนี้ แม้ปัจจุบันแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อยังไม่มาก แต่ธปท.จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและต้องพิจารณาเรื่องอื่นประกอบด้วย ซึ่งนอกเหนือจากราคาน้ำมันในตลาดโลกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ก็ต้องติดตามนโยบายภาครัฐ อาทิ เรื่องกองทุนน้ำมัน หรือนโยบายภาษีสรรพสามิต เป็นต้น ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าค่าครองชีพอาจมีโอกาสขยับขึ้นเช่นเดียวกับราคาน้ำมันในตลาดโลกก็เพิ่มขึ้น ฉะนั้นแนวทางที่ดีที่สุดต้องใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและในระยะยาวควรลดการแทรกแซง เพื่อให้สามารถปรับตัวเองได้ตามสถานการณ์ความเป็นจริง
ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ธปท.เตรียมนำเสนอกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 55 กลับมาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ได้เสนอไป แต่ทางคณะรัฐมนตรีไม่อนุมัติ โดยขณะนี้ระดับทีมเจ้าหน้าที่ของธปท.และกระทรวงการคลังได้หารือเรื่องนี้อยู่ และธปท.จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ และนำข้อสรุปที่ได้เรื่องกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 55 นำเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้งในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
“ธปท.จะเสนอไป 2 ทางเลือกให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณา โดยทางเลือกแรกกลับไปใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานแค่ช่วงสั้นๆ ทางเลือกต่อมา หากรองนายกฯ ยังติดใจเรื่องการใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปอยู่อาจจะใช้เงินเฟ้อพื้นฐานตามเป้าหมายเดิมไปก่อนแล้วอาจจะเสนอเวลาในอนาคตที่ค่อยๆ ขยับไปใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เพราะยังไงก็มองว่าเงินเฟ้อทั่วไปยังสะท้อนค่าครองชีพที่ดีอยู่ ซึ่งเข้าใจได้ง่าย”
