ASTVผู้จัดการรายวัน- โฆษกฯปชป.ชี้ มาตรการเยียวยาเสื้อแดงแค่เล่นละคร หลอกต้ม หวังดึงคนเสื้อแดงให้เป็นแนวร่วมและอยู่ในโอวาทต่อไป เห็นด้วยที่ให้เร่งนำฆาตกรสั่งฆ่าประชน เผาเมืองมาลงโทษ อัดยับแกนนำแดง พอได้เป็นรัฐบาลแต่คนนั่งเสวยสุขเป็น ส.ส.-รมต. ชี้ต้องกล้าจับคนพวกเดียวกัน "มาร์ค"ซัด"ปู" ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ หลังชิ่งหนี ไม่ยอมตอบกรณี"เหลิม" จะพา"แม้ว"กลับบ้าน ด้าน พท.ขู่เอาผิดผู้ตรวจฯก้าวก่ายปู ลั่นไม่ทบทวนตั้ง"นลินี"
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีครม.มีมติให้เยียวยา ผู้เสียหาจากการชุมนุมทางการเมือง โดยผู้เสียชีวิตจะไดรับการเยียวยาเป็นเงิน 7.75 ล้านบาท ว่า เรื่องรนี้ อาจเป็นเพียงละครฉากหนึ่ง ที่รัฐบาลสร้างขึ้นมา เพียงเพื่อเลี้ยงคนเสื้อแดงให้อยู่ในโอวาท อยู่ในคำสั่งต่อไป ซึ่งข้อเท็จจริงขณะนี้มีนักกฎหมายหลายคนพูดว่า เงินดังกล่าวอาจจะไม่สามารถจ่ายได้จริง เพราะมติครม. ไม่สามารถอนุมัติให้นำงบประมาณแผ่นดิน หรือภาษีประชาชนไปจ่ายให้กับบุคคลในจำนวนที่สูงมากเช่นนี้ ซึ่งการจ่ายเงินเยียวยาจะต้องมีการออก พ.ร.บ.ประกอบการเบิกจ่ายงบประมาณ และออกกฎหมายประกอบการเอาเงินภาษีของประชาชนไปใช้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า ตนตั้งข้อสงสัยว่า เรื่องดังกล่าวนี้อาจจะเป็นละครอีกเรื่องที่รัฐบาล หรือแกนนำกลุ่มเสื้อแดงสร้างขึ้นมา เพื่อหลอกต้มคนเสื้อแดงด้วยกัน ตนขอแนะนำว่า แนวทางที่ง่ายที่สุดที่ในการเยียวยาคนเสื้อแดงโดยไม่ต้องออกกฎหมาย คือ ไปเบิกกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะเงินแค่นี้คงไม่กระเทือน เพราะโดนยึดไป 4.6หมื่นล้านยาท ยังบินปร๋อ รอบโลกได้
**แกนนำแดงได้เสวยสุขเป็นส.ส.-รมต.
นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณี นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. ระบุถึงโรดแมปการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านโดยจะต้องนำฆาตกรที่สั่งฆ่าประชาชน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนว่า ตนเห็นด้วยว่าต้องนำฆาตกรที่สั่งประชาชน เผาบ้านเผาเมือง ให้ออกมารับผิดชอบ คนที่นั่งเป็นรัฐมนตรี เป็นส.ส.ไปเป็นอำมาตย์เสวยสุขบนความทุกข์ของประชาชน เพราะก่อนจะเป็นรัฐบาล เคยบอกว่าจะเอาคนผิดมาลงโทษ แต่เป็นรัฐบาลมา 7 เดือน ไม่เห็นเอาพี่น้องเสื้อแดงออกจากคุกได้สักคนเดียว ในขณะที่ตัวเองเสวยสุข เป็นฯพณฯท่าน กันหมดแล้ว ถ้าสืบมาแล้วคนที่ผิด เป็นพวกเดียวกับคนที่เป็นรัฐมนตรี ก็ต้องกล้าจับ
เมื่อถามว่ามีการมองว่า พรรคเพื่อไทยต้องดึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี และอดีตนายกฯ ให้มีคดีติดตัวไปด้วย เพื่อเป็นเงื่อนไขในการพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศ นายชวนนท์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการยุติธรรม โดยพรรคยังเชื่อมั่นในระบบศาล การที่รัฐบาลบอกว่า จะเอาคนผิดมาลงโทษ พรรคประชาธิปัตย์ก็รอดูอยู่ แต่รัฐบาลกลับพยายามเอาเงินไปอุดปากคนเสื้อแดง ไม่ให้ออกมาโวยวายถึงคนจ้างคนเผาเมือง จึงไม่ทราบว่าใครกันแน่ ที่กลัวความเป็นจริง
**"มาร์ค"ซัด"ปู"ปัดความรับผิดชอบไม่ได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผูแทนราษฎร กล่าวถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามหลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า จะพาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านโดยไม่มีความผิดว่า นายกรัฐมนตรี จะปัดความรับผิดชอบเรื่องนี้ ไปให้เป็นเรื่องของสภาฯไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญ รัฐบาลเองก็เป็นผู้เสนอให้แก้ไข หรือ พ.ร.บ.ปรองดอง ตัวรองนายกฯ ก็เป็นคนออกมาพูดเองว่า จะเสนอ
ดังนั้น จึงเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี เพราะหากต้องการสร้างความปรองดองจริง ก็ควรที่จะยุติประเด็นที่จะทำให้เรื่องดังกล่าวกลายเป็นชนวนของความขัดแย้งในสังคม
ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วย ที่จะมีการล้มล้างอำนาจของฝ่ายตุลาการและศาล เพราะคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ทางศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ได้เปิดโอกาสให้มีการต่อสู้คดีในชั้นศาลอย่างเต็มที่ ทั้ง 2 คดี ดังนั้นการจะมากล่าวอ้างว่า คตส. ไม่ให้ความเป็นธรรม ก็คงไม่ได้ เพราะทุกประเด็นทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ต่อสู้ไปแล้ว ซึ่งศาลก็ได้พิจารณาไปหมดแล้ว จึงเห็นว่าแนวทางที่ดีที่สุดคือ การยอมรับคำพิพากษาของศาล และกลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาล ไม่ใช่กลับมาทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม ของประเทศบ้านเมือง และหวังว่าการแปรญัตติของตนในเรื่ององค์กรอิสระ และอำนาจศาลตามกระบวนการยุติธรรม จะมีส่วนช่วยในการลดปัญหาความขัดแย้งในสังคม
เมื่อถามต่อว่า คอป. ควรแสดงบทบาทอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คอป. ต้องย้ำข้อเสนอว่าเป็นอย่างไร สำคัญที่สุดทุกฝ่ายต้องเลี่ยงการสร้างปมขัดแย้งในสังคม เพราะไม่อยากเห็นเหตุลุกลามบานปลายมากขึ้นไปกว่านี้ ส่วนระบบนิติรัฐ นิติธรรมจะถูกทำลายหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่รัฐสภา และรัฐบาลว่าจะยอมให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ายังยึดหลักตามที่ร.ต.อ.เฉลิมพูดมาก่อนหน้านี้ ก็มีปัญหาแน่ เพราะถ้าทุกคนทำในสิ่งที่กฏหมายห้าม บ้านเมืองก็มีปัญหา
** อัด "ยิ่งลักษณ์" ไร้ภาวะผู้นำ
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยภายในปีนี้ ว่า ตนขอตำหนิเพราะถือเป็นความบกพร่อง ไร้ภาวะผู้นำอย่างยิ่ง เพราะในฐานะนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับไม่แสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง และที่สำคัญ ยังปล่อยให้คนระดับรองนายกรัฐมนตรี ชี้นำสังคมแทนคนเป็นนายกรัฐมนตรี ในทางที่ดูหมิ่นกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นกติกาของบ้านเมือง
" ขอเรียกร้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ทำงานมา 7 เดือนกว่า แต่ยังไม่รู้ตัวอีกว่าตัวเองเป็นนายกฯ นึก ว่าเป็นนางแบบหรืออย่างไร " น.ส.มัลลิกา กล่าว และว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่เป็นกระแสต่อสังคม ในเรื่องที่อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง และถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้ และถ้าไม่รู้จริงๆ ว่านายกฯ ต้องรับทราบและบัญชาการบังคับใช้กฏหมายของประเทศให้ตำรวจประสานกระทรวงการต่างประเทศ ติดตามนักโทษคดีสำคัญที่หนีหมายจับของศาลถึง 5 คดี
น.ส.มัลลิกา กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักโทษคดีเด็ดขาด และเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีตามหมายจับของทางราชการ 5 คดี คือ 1. คดีที่ดินรัชดาภิเษก 2. คดีหวยบนดิน 3. คดีเอ็กซิมแบงก์ 4. คดีแปลงสัญญาณสัมปทานเป็นภาษาสรรพสามิต และ 5. คดีก่อการร้าย ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯ ไม่ควรละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมา ตนยังไม่เคยเห็นนายกฯ สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ดำเนินการในเรื่องนี้ หากนายกฯ ยังละเว้นอีก ตนก็จะให้ฝ่ายกฏหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่
***พท.ขู่เอาผิดผู้ตรวจฯก้าวก่ายปู
จากกรณีนายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน ออกมาให้สัมภาษณ์ อธิบายความถึงคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการฯ กรณีการร้องเรียนถึงการแต่งตั้ง นางนลินี ทวีสิน และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรัฐมนตรี ขัดต่อประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ เรื่องจากนางนลินี ติดแบล็กลิสต์ ของทางสหรัฐฯ และนายณัฐวุฒิ กำลังถูกดำเนินคดีผู้ก่อการร้าย ว่า แม้จะไม่ขัดข้อกฎหมาย แต่เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่ตั้งโดยขาดความรอบคอบ ที่ไม่ตรวจสอบถึงพฤติกรรมของบุคคลทั้งสองให้ดีก่อนที่จะแต่งตั้ง และได้ขอให้นายกรัฐมนตรี ใช้ดุลยพินิจ พิจารณาทั้ง 2 กรณี ให้รอบคอบเสียใหม่ โดยทางผู้ตรวจฯ จะขอคำตอบภายใน 30 วัน หากนายกรัฐมนตรี ยังเพิกเฉย ก็จะมีการมาตรการต่อไป
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้กระทำผิดจริยธรรม ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี แต่การที่ผู้ตรวจการ จะให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงภายใน 30 วัน และอาจจะมีมาตราการดำเนินการ หากไม่มีการทบทวนเรื่องการแต่งตั้งนางนลินี และ นายณัฐวุฒิ นั้น ทางพรรคเพื่อไทยเห็นว่า การแต่งตั้งรัฐมนตรีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำเนินการด้วยความรอบคอบ และอยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยพรรคเพื่อไทยจะไม่มีการทบทวนการแต่งตั้งรัฐมนตรีทั้ง 2 คน และขอโอกาสให้ทำหน้าที่ก่อน หากมีการประพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต และบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ก็สามารถดำเนินการตรวจสอบได้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของนายประวิช เป็นการก้าวก่ายการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหาร และจะปรึกษาฝ่ายกฎหมาย เพื่อยื่นตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าทำเกินกว่าหน้าที่หรือไม่.
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีครม.มีมติให้เยียวยา ผู้เสียหาจากการชุมนุมทางการเมือง โดยผู้เสียชีวิตจะไดรับการเยียวยาเป็นเงิน 7.75 ล้านบาท ว่า เรื่องรนี้ อาจเป็นเพียงละครฉากหนึ่ง ที่รัฐบาลสร้างขึ้นมา เพียงเพื่อเลี้ยงคนเสื้อแดงให้อยู่ในโอวาท อยู่ในคำสั่งต่อไป ซึ่งข้อเท็จจริงขณะนี้มีนักกฎหมายหลายคนพูดว่า เงินดังกล่าวอาจจะไม่สามารถจ่ายได้จริง เพราะมติครม. ไม่สามารถอนุมัติให้นำงบประมาณแผ่นดิน หรือภาษีประชาชนไปจ่ายให้กับบุคคลในจำนวนที่สูงมากเช่นนี้ ซึ่งการจ่ายเงินเยียวยาจะต้องมีการออก พ.ร.บ.ประกอบการเบิกจ่ายงบประมาณ และออกกฎหมายประกอบการเอาเงินภาษีของประชาชนไปใช้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า ตนตั้งข้อสงสัยว่า เรื่องดังกล่าวนี้อาจจะเป็นละครอีกเรื่องที่รัฐบาล หรือแกนนำกลุ่มเสื้อแดงสร้างขึ้นมา เพื่อหลอกต้มคนเสื้อแดงด้วยกัน ตนขอแนะนำว่า แนวทางที่ง่ายที่สุดที่ในการเยียวยาคนเสื้อแดงโดยไม่ต้องออกกฎหมาย คือ ไปเบิกกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะเงินแค่นี้คงไม่กระเทือน เพราะโดนยึดไป 4.6หมื่นล้านยาท ยังบินปร๋อ รอบโลกได้
**แกนนำแดงได้เสวยสุขเป็นส.ส.-รมต.
นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณี นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. ระบุถึงโรดแมปการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านโดยจะต้องนำฆาตกรที่สั่งฆ่าประชาชน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนว่า ตนเห็นด้วยว่าต้องนำฆาตกรที่สั่งประชาชน เผาบ้านเผาเมือง ให้ออกมารับผิดชอบ คนที่นั่งเป็นรัฐมนตรี เป็นส.ส.ไปเป็นอำมาตย์เสวยสุขบนความทุกข์ของประชาชน เพราะก่อนจะเป็นรัฐบาล เคยบอกว่าจะเอาคนผิดมาลงโทษ แต่เป็นรัฐบาลมา 7 เดือน ไม่เห็นเอาพี่น้องเสื้อแดงออกจากคุกได้สักคนเดียว ในขณะที่ตัวเองเสวยสุข เป็นฯพณฯท่าน กันหมดแล้ว ถ้าสืบมาแล้วคนที่ผิด เป็นพวกเดียวกับคนที่เป็นรัฐมนตรี ก็ต้องกล้าจับ
เมื่อถามว่ามีการมองว่า พรรคเพื่อไทยต้องดึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี และอดีตนายกฯ ให้มีคดีติดตัวไปด้วย เพื่อเป็นเงื่อนไขในการพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศ นายชวนนท์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการยุติธรรม โดยพรรคยังเชื่อมั่นในระบบศาล การที่รัฐบาลบอกว่า จะเอาคนผิดมาลงโทษ พรรคประชาธิปัตย์ก็รอดูอยู่ แต่รัฐบาลกลับพยายามเอาเงินไปอุดปากคนเสื้อแดง ไม่ให้ออกมาโวยวายถึงคนจ้างคนเผาเมือง จึงไม่ทราบว่าใครกันแน่ ที่กลัวความเป็นจริง
**"มาร์ค"ซัด"ปู"ปัดความรับผิดชอบไม่ได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผูแทนราษฎร กล่าวถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามหลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า จะพาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านโดยไม่มีความผิดว่า นายกรัฐมนตรี จะปัดความรับผิดชอบเรื่องนี้ ไปให้เป็นเรื่องของสภาฯไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญ รัฐบาลเองก็เป็นผู้เสนอให้แก้ไข หรือ พ.ร.บ.ปรองดอง ตัวรองนายกฯ ก็เป็นคนออกมาพูดเองว่า จะเสนอ
ดังนั้น จึงเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี เพราะหากต้องการสร้างความปรองดองจริง ก็ควรที่จะยุติประเด็นที่จะทำให้เรื่องดังกล่าวกลายเป็นชนวนของความขัดแย้งในสังคม
ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วย ที่จะมีการล้มล้างอำนาจของฝ่ายตุลาการและศาล เพราะคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ทางศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ได้เปิดโอกาสให้มีการต่อสู้คดีในชั้นศาลอย่างเต็มที่ ทั้ง 2 คดี ดังนั้นการจะมากล่าวอ้างว่า คตส. ไม่ให้ความเป็นธรรม ก็คงไม่ได้ เพราะทุกประเด็นทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ต่อสู้ไปแล้ว ซึ่งศาลก็ได้พิจารณาไปหมดแล้ว จึงเห็นว่าแนวทางที่ดีที่สุดคือ การยอมรับคำพิพากษาของศาล และกลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาล ไม่ใช่กลับมาทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม ของประเทศบ้านเมือง และหวังว่าการแปรญัตติของตนในเรื่ององค์กรอิสระ และอำนาจศาลตามกระบวนการยุติธรรม จะมีส่วนช่วยในการลดปัญหาความขัดแย้งในสังคม
เมื่อถามต่อว่า คอป. ควรแสดงบทบาทอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คอป. ต้องย้ำข้อเสนอว่าเป็นอย่างไร สำคัญที่สุดทุกฝ่ายต้องเลี่ยงการสร้างปมขัดแย้งในสังคม เพราะไม่อยากเห็นเหตุลุกลามบานปลายมากขึ้นไปกว่านี้ ส่วนระบบนิติรัฐ นิติธรรมจะถูกทำลายหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่รัฐสภา และรัฐบาลว่าจะยอมให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ายังยึดหลักตามที่ร.ต.อ.เฉลิมพูดมาก่อนหน้านี้ ก็มีปัญหาแน่ เพราะถ้าทุกคนทำในสิ่งที่กฏหมายห้าม บ้านเมืองก็มีปัญหา
** อัด "ยิ่งลักษณ์" ไร้ภาวะผู้นำ
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยภายในปีนี้ ว่า ตนขอตำหนิเพราะถือเป็นความบกพร่อง ไร้ภาวะผู้นำอย่างยิ่ง เพราะในฐานะนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับไม่แสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง และที่สำคัญ ยังปล่อยให้คนระดับรองนายกรัฐมนตรี ชี้นำสังคมแทนคนเป็นนายกรัฐมนตรี ในทางที่ดูหมิ่นกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นกติกาของบ้านเมือง
" ขอเรียกร้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ทำงานมา 7 เดือนกว่า แต่ยังไม่รู้ตัวอีกว่าตัวเองเป็นนายกฯ นึก ว่าเป็นนางแบบหรืออย่างไร " น.ส.มัลลิกา กล่าว และว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่เป็นกระแสต่อสังคม ในเรื่องที่อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง และถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้ และถ้าไม่รู้จริงๆ ว่านายกฯ ต้องรับทราบและบัญชาการบังคับใช้กฏหมายของประเทศให้ตำรวจประสานกระทรวงการต่างประเทศ ติดตามนักโทษคดีสำคัญที่หนีหมายจับของศาลถึง 5 คดี
น.ส.มัลลิกา กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักโทษคดีเด็ดขาด และเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีตามหมายจับของทางราชการ 5 คดี คือ 1. คดีที่ดินรัชดาภิเษก 2. คดีหวยบนดิน 3. คดีเอ็กซิมแบงก์ 4. คดีแปลงสัญญาณสัมปทานเป็นภาษาสรรพสามิต และ 5. คดีก่อการร้าย ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯ ไม่ควรละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมา ตนยังไม่เคยเห็นนายกฯ สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ดำเนินการในเรื่องนี้ หากนายกฯ ยังละเว้นอีก ตนก็จะให้ฝ่ายกฏหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่
***พท.ขู่เอาผิดผู้ตรวจฯก้าวก่ายปู
จากกรณีนายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน ออกมาให้สัมภาษณ์ อธิบายความถึงคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการฯ กรณีการร้องเรียนถึงการแต่งตั้ง นางนลินี ทวีสิน และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรัฐมนตรี ขัดต่อประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ เรื่องจากนางนลินี ติดแบล็กลิสต์ ของทางสหรัฐฯ และนายณัฐวุฒิ กำลังถูกดำเนินคดีผู้ก่อการร้าย ว่า แม้จะไม่ขัดข้อกฎหมาย แต่เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่ตั้งโดยขาดความรอบคอบ ที่ไม่ตรวจสอบถึงพฤติกรรมของบุคคลทั้งสองให้ดีก่อนที่จะแต่งตั้ง และได้ขอให้นายกรัฐมนตรี ใช้ดุลยพินิจ พิจารณาทั้ง 2 กรณี ให้รอบคอบเสียใหม่ โดยทางผู้ตรวจฯ จะขอคำตอบภายใน 30 วัน หากนายกรัฐมนตรี ยังเพิกเฉย ก็จะมีการมาตรการต่อไป
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้กระทำผิดจริยธรรม ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี แต่การที่ผู้ตรวจการ จะให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงภายใน 30 วัน และอาจจะมีมาตราการดำเนินการ หากไม่มีการทบทวนเรื่องการแต่งตั้งนางนลินี และ นายณัฐวุฒิ นั้น ทางพรรคเพื่อไทยเห็นว่า การแต่งตั้งรัฐมนตรีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำเนินการด้วยความรอบคอบ และอยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยพรรคเพื่อไทยจะไม่มีการทบทวนการแต่งตั้งรัฐมนตรีทั้ง 2 คน และขอโอกาสให้ทำหน้าที่ก่อน หากมีการประพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต และบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ก็สามารถดำเนินการตรวจสอบได้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของนายประวิช เป็นการก้าวก่ายการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหาร และจะปรึกษาฝ่ายกฎหมาย เพื่อยื่นตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าทำเกินกว่าหน้าที่หรือไม่.
