ASTVผู้จัดการรายวัน - ปชป.ซัดรัฐบริหารกองทุนประกันภัยน้ำท่วม สุดมั่ว! “มาร์ค-กรณ์” ยันไม่ควรเกิน 2.5 ล้านล้าน หวั่นเสี่ยงเป็นผู้รับประกันเองทั้งหมด เผย “ไทยรี” คว้าผู้จัดการกองทุนฯ รับผลตอบแทนปีละ 60-65 ล้านบาท ส่วนโฆษกส่วนตัวปู อ้าง พูดภาษาไทย ไม่ต้องแปล ประหยัดเวลา ด้านปชป.แขวะ มิสโพยอินเตอร์เนชันแนล
วานนี้(9 มี.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การบริหารงานของรัฐบาล พบว่าบริหารมั่วในการตั้งกองทุนประกันภัยของรัฐบาล โดยกำหนดเงื่อนไขว่า ถ้าบ้านใดอยู่บนพื้นที่
ฟลัดเวย์จะไม่มีการจ่ายเงิน ทั้งที่ยังไม่มีใครทราบว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่แก้มลิง ทำให้ไม่มีใครกล้าให้บริการประกันภัย ถือเป็นการมั่ว บริหาร ปกปิดความจริง ไร้ความรับผิดชอบต่อประชาชนอย่างแท้จริง
**“มาร์ค” จี้ เร่งทำตามแผนป้องน้ำท่วม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่นของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า จะเรียกความเชื่อมั่นได้หรือไม่ ต้องถามนักลงทุน ซึ่งตนคิดว่าการไปอธิบายหลายเรื่องเป็นประโยชน์ แต่ก็มีเสียงสะท้อนว่าไม่มีเวทีสื่อสารสองทาง ทำให้เสียโอกาสชี้แจงในบางเรื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับความเชื่อมั่นของการทำงานต่อจากนี้ 2 เดือน ถ้าสามารถดำเนินการตามแผนได้อย่างเป็นรูปธรรมก็จะเป็นคำตอบได้อย่างดีที่สุดสำหรับนักลงทุน
**ไม่ควรตั้งกองทุนเกิน 2.5 ล้านล้าน
ส่วนมติครม.เกี่ยวกับการตั้งกองทุนประกันภัย ที่ระบุว่าถ้าเสียหายเกิน 3 แสนล้านหรือเสียหายหมด 2.5 ล้านล้านบาท รัฐบาลจะรับผิดชอบทั้งหมด โดยที่บริษัทประกันภัยไม่ต้องเข้ามารับภาระเลยว่า เมื่อทำรูปแบบอย่างนี้เท่ากับว่ารัฐเป็นผู้รับประกันเองทั้งหมด ทั้งนี้ ต้องรอดูว่าจะมีคนเข้าร่วมมากน้อยเพียงใด แต่ต้องยอมรับว่าความเสี่ยงที่เหลือภาครัฐรับเต็ม ๆ ทั้งนี้ ตนเห็นว่ารูปแบบที่ควรทำน่าจะเป็นการแบ่งเบาภาระระหว่างรัฐกับบริษัทประกันภัย โดยกองทุนนี้น่าจะเป็นรูปแบบการประกันภัยต่อ เหมือนในต่างประเทศ
“ ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงกลายเป็นว่ารัฐบาลเข้าไปทำเอง กลายเป็นว่าความเสี่ยงที่เหลือมาที่ภาครัฐทั้งหมด ซึ่งตนเข้าใจว่ารัฐบาลคงมองง่าย ๆ ว่า ความเสียหายสูงสุดไม่น่าจะมากกว่าปีที่แล้ว จึงกำหนดแนวทางเช่นนี้ ซึ่งเฉพาะตัวกองทุนรัฐบาลก็คงมั่นใจว่าจะรองรับความเสียหายได้เท่ากับปีที่แล้ว แต่ความจริงแล้วยังต้องดูรายละเอียดข้อเท็จจริง ความเสียหาย ว่าจะเป็นอย่างไรด้วย”
ด้าน นายกรณ์ จาติวณิช รองหัวหน้าพรรค โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัวหัวข้อ (รัฐบาล) ไทยประกันภัย (ไม่) จำกัด มีถ้อยคำว่า “ทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ตกใจกับมติครม.เมื่อวันอังคารเรื่องเกี่ยวกับพ.ร.ก.กองทุนประกัยน้ำท่วม 5 หมื่นล้านบาท คืออย่างนี้ รัฐบาลขอใช้เงิน 5 หมื่นล้านตั้งกองทุนขึ้นมา เพื่อแบ่งเบาความเสี่ยงให้บริษัทประกันที่ยังแหยงอยู่ และกองทุนนี่ช่วยภาระเบี้ยประกันให้ผู้ประกอบการด้วย ก็ดีครับ และเราก็ได้สนับสนุนการตราพ.ร.ก.นี้โดยดี แต่มติครม.เมื่อวันอังคารนี้กลับบอกเพิ่มเติมว่า นอกจากกองทุนนี้จะไปซื้อประกันเพื่อว่าถ้ามูลค่าเสียหายไม่เกิน 3 แสนล้าน กองทุนก็จะรับผิดชอบได้ แต่ที่น่าตกใจคือ ถ้าเสียหายมากกว่านี้ หรือเสียหายหมด 2.5 ล้านล้านบาท รัฐบาลจะรับผิดชอบเอง แทนที่ควรต้องให้บริษัทประกันรับผิดชอบ
“งงครับ รัฐบาลไทยเอาภาษีประชาชนไปรับความเสี่ยงแทนบริษัทประกันทั่วโลกทำไม อาศัยเพียงมติครม.ทำได้หรือครับ และถ้าเกิดเสียหายจริงทำไมประชาชนต้องมาอุ้มบริษัทประกันด้วย ผมเคยเป็นกรรมการบริษัทประกัน ชื่อไทยประกันครับ แต่ไม่เคยนึกว่าจะมีวันที่รัฐบาลโดยเงินประชาชนจะทำให้ไทยต้องมาเป็นผู้ประกันเสียเอง”
**ไทยรี คว้าผู้จัดการกองทุนภัยภิบัติ
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ กล่าวว่า การเตรียมการรับประกันน้ำท่วมดำเนินการเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว รอแต่น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานการลงนามระหว่างกองทุนกับบริษัทประกันภัย เพื่อเปิดขายประกันภัย ซึ่งอาจจะเป็นสัปดาห์หน้า ประมาณวันที่ 21 มี.ค.เนื่องจากตอนนี้นายกรัฐมนตรีมีภารกิจมาก
ทั้งนี้ เบี้ยประกันน้ำท่วมรายย่อยคิด 0.5% คุ้มครองไม่เกิน 1 แสนบาท ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 1% และผู้ประกอบการรายใหญ่ 1.25% คุ้มครองความเสี่ยง 30% ของทุนประกัน สำหรับการขยายความคุ้มครองเป็น 50% อยู่ระหว่างการศึกษาว่า มีความเป็นไปได้ และจำเป็นหรือไม่
ส่วนกองทุนได้ว่าจ้างบริษัท ไทยรับประกันภัย หรือ ไทยรี เป็นผู้ดำเนินการด้านปฏิบัติการแทนกองทุน โดยอยู่ระหว่างการเจรจาผลตอบแทนที่ต้องจ่ายให้ไทยรีปีละ 60-65 ล้านบาท
**ปู ชู ไทยฮับ กล่อมนักลงทุนยุ่น
เวลา 08.30 น. ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนชั้นนำของญี่ปุ่น ที่มีแผนจะขยายการลงทุนในไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อรับทราบแนวทางและมาตรการบริหารจัดการน้ำในการป้องกันปัญหาอุทกภัยไม่ให้เกิดซ้ำอีก โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจ และให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลไทยออกมาตรการหลายประการเพื่อป้องกันน้ำท่วมอย่างเต็มที่ มีมูลค่าสูงถึง 350,000 ล้านบาท พร้อมชี้แจงจุดแข็งของประเทศที่มี Supply chain ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกเป็นเวลานาน และสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยขอให้พิจารณาในระยะยาวถึงความได้เปรียบของไทย ที่จะเป็น Hub ของกลุ่มอาเซียน และโอกาสของการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มอาเซียนยังมีอีกมาก
รวมทั้ง โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายและการคมนาคมเชื่อมโยงในภูมิภาค ที่จะสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพให้แก่นักลงทุนและภูมิภาค รวมถึง ออกมาตรการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล มาตรการช่วยเหลือบริษัท ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารบริษัทชั้นนำ ต่างแสดงความชื่นชมในความเป็นผู้นำของนายกฯ ในการแก้ปัญหาอุทกภัย และการช่วยเหลือประชาชน ดังนั้น บริษัทต่าง ๆ จึงแสดงความเชื่อมั่นยืนหยัดการลงทุนในประเทศไทย และเร่งเดินหน้าขยายการลงทุนตามแผนการลงทุนต่อไป เพราะไทยถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของการลงทุนในภูมิภาค
**ชี้’ปู’ไม่พูดอังกฤษเรื่องปกติ
อีกเรื่อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ทางสถานีโทรทัศน์ Blue Sky Channel ว่า กรณีหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal(วอลล์ สตรีท เจเนอรัล) วิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาต่อนักลงทุนญี่ปุ่น โดยกล่าวเป็นภาษาไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ผู้จัดก็ควรจะคิดถึงคนฟังด้วย ว่าจะมีลักษณะของการแปลที่เขาเรียกว่า Simultaneous คือแปลพร้อมๆ กัน แล้วมีหูฟัง แม้จะมีการแจกเอกสารการปาฐกถาก่อนหน้าอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่าจะได้ความรู้สึกว่าตกลงแล้วฟังนายกฯ กำลังพูดอะไรอย่างไร ถ้าแจกแบบนี้เฉยๆ เขาไม่ต้องเข้าร่วมงานก็ได้ ทั้งนี้การที่นายกรัฐมนตรีไม่ตอบคำถามนั้นก็ควรมอบหมายให้ผู้อื่นตอบแทน
**ตั้งฉายามิสโพยอินเตอร์เนชันแนล
นายชวนนท์ โกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอตั้งฉายาให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็น “มิสโพยอินเตอร์เนชั่นแนล” จากกรณีนี้ เพราะเป็นการทำลายโอกาสในการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน นายกฯทำทุกอย่างให้เลวร้ายลงด้วยการอ่านสคริปต์เป็นภาษาไทย 7 นาที ต่อหน้านักลงทุนกว่า 100 ชีวิต โดยไม่มีการแปล ก่อนจะเดินลงจากเวทีทันที พร้อมกับรอยยิ้มและการส่งจูบ ทำให้นักธุรกิจไม่เข้าใจในสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูด
**ปุ้ม อ้างประหยัดเวลา ปูไม่ปล่อยไก่
นาย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ตนตรวจสอบไปยังญี่ปุ่น ทีมงานนายกฯและกระทรวงการต่างประเทศแล้วว่า เรื่องนี้มันเป็นข้อตกลงของสองเจ้าภาพ การแจกคำแปลนั้นแจกตั้งแต่ผู้เข้าร่วมสัมมนาลงทะเบียนและเป็นระเบียบปฏิบัติที่หอการค้าฯดำเนินการเป็นประจำในกรณีที่มีเวลาจำกัด ฉะนั้นนส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้โดนวิจารณ์ว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และเหตุใดไม่มีการแปลภาษา เรื่องนี้มีการยืนยันจากญี่ปุ่นแล้วว่ามีคำแปลและดำเนินการตามที่ตกลงไว้กับเจ้าภาพ
“ ยืนยันเป็นข้อตกลง อย่าไปมองกันเลยว่ากรณีนี้เป็นความผิดของใคร การเปิดสัมมนาปกติที่ต้องการให้เอกชนมีเวลาหารือมากขึ้นกว่าการนั่งฟังการพูดแล้วแปลกันไปมา จึงมีการประหยัดเวลาคือพูดภาษาหนึ่งแล้วมีคำแปลออกมาเป็นเอกสารดังนั้น ขอความเห็นใจ เพราะนายกฯไปญี่ปุ่นก็เหนื่อย เพราะภารกิจค่อนข้างแน่น”
เมื่อถามว่าเหตุที่มาชี้แจงนั้นเป็นเพราะนายกฯมีจุดอ่อนด้านการใช้ภาษาอังกฤษและการสื่อสาร นายสุรนันทน์กล่าวว่าไม่มี เวทีต่างๆทั้งในและต่างประเทศจะพบว่านายกฯพูดภาษาอังกฤษและสื่อสารทำความเข้าใจได้ จึงไม่มีปัญหาตรงนี้ นายกฯไม่มีปัญหาการพูดภาษาไทยและอังกฤษ และแน่นอนว่านายกฯไม่ได้พูดภาษาญี่ปุ่น ฉะนั้นตรงนี้ไม่ได้เป็นข้อบกพร่องของนายกฯ แต่การประสานงานอาจมีช่องโหว่บ้างจึงต้องทำความเข้าใจกัน
เมื่อถามว่านายกฯปล่อยไก่บ่อยมากเพราะนายกฯมักมีข้อผิดพลาดแบบนี้บ่อยๆ นายสุรนันทน์กล่าวว่า”ตนยังไม่เห็นไก่ ไก่วิ่งที่ไหน ไม่มี ยืนยันว่านายกฯมีเจตนาที่ดีที่ทำงานเพื่อประเทศ
**กต.เผย 2 ปท.ตกลงกันไว้แล้ว
อีกด้านเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ้างเรื่องนี้ว่า หลังจากประธานบริหารเจซีซีไอกล่าวต้อนรับและเปิดงานเป็นภาษาญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานเป็นภาษาไทย ซึ่งเป็นรูปแบบที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันไว้ล่วงหน้า เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเวลา.
วานนี้(9 มี.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การบริหารงานของรัฐบาล พบว่าบริหารมั่วในการตั้งกองทุนประกันภัยของรัฐบาล โดยกำหนดเงื่อนไขว่า ถ้าบ้านใดอยู่บนพื้นที่
ฟลัดเวย์จะไม่มีการจ่ายเงิน ทั้งที่ยังไม่มีใครทราบว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่แก้มลิง ทำให้ไม่มีใครกล้าให้บริการประกันภัย ถือเป็นการมั่ว บริหาร ปกปิดความจริง ไร้ความรับผิดชอบต่อประชาชนอย่างแท้จริง
**“มาร์ค” จี้ เร่งทำตามแผนป้องน้ำท่วม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่นของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า จะเรียกความเชื่อมั่นได้หรือไม่ ต้องถามนักลงทุน ซึ่งตนคิดว่าการไปอธิบายหลายเรื่องเป็นประโยชน์ แต่ก็มีเสียงสะท้อนว่าไม่มีเวทีสื่อสารสองทาง ทำให้เสียโอกาสชี้แจงในบางเรื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับความเชื่อมั่นของการทำงานต่อจากนี้ 2 เดือน ถ้าสามารถดำเนินการตามแผนได้อย่างเป็นรูปธรรมก็จะเป็นคำตอบได้อย่างดีที่สุดสำหรับนักลงทุน
**ไม่ควรตั้งกองทุนเกิน 2.5 ล้านล้าน
ส่วนมติครม.เกี่ยวกับการตั้งกองทุนประกันภัย ที่ระบุว่าถ้าเสียหายเกิน 3 แสนล้านหรือเสียหายหมด 2.5 ล้านล้านบาท รัฐบาลจะรับผิดชอบทั้งหมด โดยที่บริษัทประกันภัยไม่ต้องเข้ามารับภาระเลยว่า เมื่อทำรูปแบบอย่างนี้เท่ากับว่ารัฐเป็นผู้รับประกันเองทั้งหมด ทั้งนี้ ต้องรอดูว่าจะมีคนเข้าร่วมมากน้อยเพียงใด แต่ต้องยอมรับว่าความเสี่ยงที่เหลือภาครัฐรับเต็ม ๆ ทั้งนี้ ตนเห็นว่ารูปแบบที่ควรทำน่าจะเป็นการแบ่งเบาภาระระหว่างรัฐกับบริษัทประกันภัย โดยกองทุนนี้น่าจะเป็นรูปแบบการประกันภัยต่อ เหมือนในต่างประเทศ
“ ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงกลายเป็นว่ารัฐบาลเข้าไปทำเอง กลายเป็นว่าความเสี่ยงที่เหลือมาที่ภาครัฐทั้งหมด ซึ่งตนเข้าใจว่ารัฐบาลคงมองง่าย ๆ ว่า ความเสียหายสูงสุดไม่น่าจะมากกว่าปีที่แล้ว จึงกำหนดแนวทางเช่นนี้ ซึ่งเฉพาะตัวกองทุนรัฐบาลก็คงมั่นใจว่าจะรองรับความเสียหายได้เท่ากับปีที่แล้ว แต่ความจริงแล้วยังต้องดูรายละเอียดข้อเท็จจริง ความเสียหาย ว่าจะเป็นอย่างไรด้วย”
ด้าน นายกรณ์ จาติวณิช รองหัวหน้าพรรค โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัวหัวข้อ (รัฐบาล) ไทยประกันภัย (ไม่) จำกัด มีถ้อยคำว่า “ทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ตกใจกับมติครม.เมื่อวันอังคารเรื่องเกี่ยวกับพ.ร.ก.กองทุนประกัยน้ำท่วม 5 หมื่นล้านบาท คืออย่างนี้ รัฐบาลขอใช้เงิน 5 หมื่นล้านตั้งกองทุนขึ้นมา เพื่อแบ่งเบาความเสี่ยงให้บริษัทประกันที่ยังแหยงอยู่ และกองทุนนี่ช่วยภาระเบี้ยประกันให้ผู้ประกอบการด้วย ก็ดีครับ และเราก็ได้สนับสนุนการตราพ.ร.ก.นี้โดยดี แต่มติครม.เมื่อวันอังคารนี้กลับบอกเพิ่มเติมว่า นอกจากกองทุนนี้จะไปซื้อประกันเพื่อว่าถ้ามูลค่าเสียหายไม่เกิน 3 แสนล้าน กองทุนก็จะรับผิดชอบได้ แต่ที่น่าตกใจคือ ถ้าเสียหายมากกว่านี้ หรือเสียหายหมด 2.5 ล้านล้านบาท รัฐบาลจะรับผิดชอบเอง แทนที่ควรต้องให้บริษัทประกันรับผิดชอบ
“งงครับ รัฐบาลไทยเอาภาษีประชาชนไปรับความเสี่ยงแทนบริษัทประกันทั่วโลกทำไม อาศัยเพียงมติครม.ทำได้หรือครับ และถ้าเกิดเสียหายจริงทำไมประชาชนต้องมาอุ้มบริษัทประกันด้วย ผมเคยเป็นกรรมการบริษัทประกัน ชื่อไทยประกันครับ แต่ไม่เคยนึกว่าจะมีวันที่รัฐบาลโดยเงินประชาชนจะทำให้ไทยต้องมาเป็นผู้ประกันเสียเอง”
**ไทยรี คว้าผู้จัดการกองทุนภัยภิบัติ
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ กล่าวว่า การเตรียมการรับประกันน้ำท่วมดำเนินการเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว รอแต่น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานการลงนามระหว่างกองทุนกับบริษัทประกันภัย เพื่อเปิดขายประกันภัย ซึ่งอาจจะเป็นสัปดาห์หน้า ประมาณวันที่ 21 มี.ค.เนื่องจากตอนนี้นายกรัฐมนตรีมีภารกิจมาก
ทั้งนี้ เบี้ยประกันน้ำท่วมรายย่อยคิด 0.5% คุ้มครองไม่เกิน 1 แสนบาท ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 1% และผู้ประกอบการรายใหญ่ 1.25% คุ้มครองความเสี่ยง 30% ของทุนประกัน สำหรับการขยายความคุ้มครองเป็น 50% อยู่ระหว่างการศึกษาว่า มีความเป็นไปได้ และจำเป็นหรือไม่
ส่วนกองทุนได้ว่าจ้างบริษัท ไทยรับประกันภัย หรือ ไทยรี เป็นผู้ดำเนินการด้านปฏิบัติการแทนกองทุน โดยอยู่ระหว่างการเจรจาผลตอบแทนที่ต้องจ่ายให้ไทยรีปีละ 60-65 ล้านบาท
**ปู ชู ไทยฮับ กล่อมนักลงทุนยุ่น
เวลา 08.30 น. ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนชั้นนำของญี่ปุ่น ที่มีแผนจะขยายการลงทุนในไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อรับทราบแนวทางและมาตรการบริหารจัดการน้ำในการป้องกันปัญหาอุทกภัยไม่ให้เกิดซ้ำอีก โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจ และให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลไทยออกมาตรการหลายประการเพื่อป้องกันน้ำท่วมอย่างเต็มที่ มีมูลค่าสูงถึง 350,000 ล้านบาท พร้อมชี้แจงจุดแข็งของประเทศที่มี Supply chain ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกเป็นเวลานาน และสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยขอให้พิจารณาในระยะยาวถึงความได้เปรียบของไทย ที่จะเป็น Hub ของกลุ่มอาเซียน และโอกาสของการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มอาเซียนยังมีอีกมาก
รวมทั้ง โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายและการคมนาคมเชื่อมโยงในภูมิภาค ที่จะสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพให้แก่นักลงทุนและภูมิภาค รวมถึง ออกมาตรการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล มาตรการช่วยเหลือบริษัท ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารบริษัทชั้นนำ ต่างแสดงความชื่นชมในความเป็นผู้นำของนายกฯ ในการแก้ปัญหาอุทกภัย และการช่วยเหลือประชาชน ดังนั้น บริษัทต่าง ๆ จึงแสดงความเชื่อมั่นยืนหยัดการลงทุนในประเทศไทย และเร่งเดินหน้าขยายการลงทุนตามแผนการลงทุนต่อไป เพราะไทยถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของการลงทุนในภูมิภาค
**ชี้’ปู’ไม่พูดอังกฤษเรื่องปกติ
อีกเรื่อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ทางสถานีโทรทัศน์ Blue Sky Channel ว่า กรณีหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal(วอลล์ สตรีท เจเนอรัล) วิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาต่อนักลงทุนญี่ปุ่น โดยกล่าวเป็นภาษาไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ผู้จัดก็ควรจะคิดถึงคนฟังด้วย ว่าจะมีลักษณะของการแปลที่เขาเรียกว่า Simultaneous คือแปลพร้อมๆ กัน แล้วมีหูฟัง แม้จะมีการแจกเอกสารการปาฐกถาก่อนหน้าอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่าจะได้ความรู้สึกว่าตกลงแล้วฟังนายกฯ กำลังพูดอะไรอย่างไร ถ้าแจกแบบนี้เฉยๆ เขาไม่ต้องเข้าร่วมงานก็ได้ ทั้งนี้การที่นายกรัฐมนตรีไม่ตอบคำถามนั้นก็ควรมอบหมายให้ผู้อื่นตอบแทน
**ตั้งฉายามิสโพยอินเตอร์เนชันแนล
นายชวนนท์ โกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอตั้งฉายาให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็น “มิสโพยอินเตอร์เนชั่นแนล” จากกรณีนี้ เพราะเป็นการทำลายโอกาสในการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน นายกฯทำทุกอย่างให้เลวร้ายลงด้วยการอ่านสคริปต์เป็นภาษาไทย 7 นาที ต่อหน้านักลงทุนกว่า 100 ชีวิต โดยไม่มีการแปล ก่อนจะเดินลงจากเวทีทันที พร้อมกับรอยยิ้มและการส่งจูบ ทำให้นักธุรกิจไม่เข้าใจในสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูด
**ปุ้ม อ้างประหยัดเวลา ปูไม่ปล่อยไก่
นาย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ตนตรวจสอบไปยังญี่ปุ่น ทีมงานนายกฯและกระทรวงการต่างประเทศแล้วว่า เรื่องนี้มันเป็นข้อตกลงของสองเจ้าภาพ การแจกคำแปลนั้นแจกตั้งแต่ผู้เข้าร่วมสัมมนาลงทะเบียนและเป็นระเบียบปฏิบัติที่หอการค้าฯดำเนินการเป็นประจำในกรณีที่มีเวลาจำกัด ฉะนั้นนส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้โดนวิจารณ์ว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และเหตุใดไม่มีการแปลภาษา เรื่องนี้มีการยืนยันจากญี่ปุ่นแล้วว่ามีคำแปลและดำเนินการตามที่ตกลงไว้กับเจ้าภาพ
“ ยืนยันเป็นข้อตกลง อย่าไปมองกันเลยว่ากรณีนี้เป็นความผิดของใคร การเปิดสัมมนาปกติที่ต้องการให้เอกชนมีเวลาหารือมากขึ้นกว่าการนั่งฟังการพูดแล้วแปลกันไปมา จึงมีการประหยัดเวลาคือพูดภาษาหนึ่งแล้วมีคำแปลออกมาเป็นเอกสารดังนั้น ขอความเห็นใจ เพราะนายกฯไปญี่ปุ่นก็เหนื่อย เพราะภารกิจค่อนข้างแน่น”
เมื่อถามว่าเหตุที่มาชี้แจงนั้นเป็นเพราะนายกฯมีจุดอ่อนด้านการใช้ภาษาอังกฤษและการสื่อสาร นายสุรนันทน์กล่าวว่าไม่มี เวทีต่างๆทั้งในและต่างประเทศจะพบว่านายกฯพูดภาษาอังกฤษและสื่อสารทำความเข้าใจได้ จึงไม่มีปัญหาตรงนี้ นายกฯไม่มีปัญหาการพูดภาษาไทยและอังกฤษ และแน่นอนว่านายกฯไม่ได้พูดภาษาญี่ปุ่น ฉะนั้นตรงนี้ไม่ได้เป็นข้อบกพร่องของนายกฯ แต่การประสานงานอาจมีช่องโหว่บ้างจึงต้องทำความเข้าใจกัน
เมื่อถามว่านายกฯปล่อยไก่บ่อยมากเพราะนายกฯมักมีข้อผิดพลาดแบบนี้บ่อยๆ นายสุรนันทน์กล่าวว่า”ตนยังไม่เห็นไก่ ไก่วิ่งที่ไหน ไม่มี ยืนยันว่านายกฯมีเจตนาที่ดีที่ทำงานเพื่อประเทศ
**กต.เผย 2 ปท.ตกลงกันไว้แล้ว
อีกด้านเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ้างเรื่องนี้ว่า หลังจากประธานบริหารเจซีซีไอกล่าวต้อนรับและเปิดงานเป็นภาษาญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานเป็นภาษาไทย ซึ่งเป็นรูปแบบที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันไว้ล่วงหน้า เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเวลา.