xs
xsm
sm
md
lg

"ไทยรี" คว้างานบริหารกองทุนภัยพิบัติตามคาด คิดค่าเหนื่อยปีละ 60 ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ไทยรี" คว้างานบริหารกองทุนภัยพิบัติ ตามคาด "พยุงศักดิ์" เผยบอร์ดไฟเขียวจ่ายค่าบริหารฯ ปีละ 60 ล้านบาท โดยมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการในการทำประกันภัยแทนกองทุน รวมทั้งพิจารณาผู้ที่มีสิทธิ์ทำประกันภัยพิบัติ แต่นโยบายในการบริหารจัดการยังอยู่ภายใต้การตัดสินใจของบอร์ด เตรียมเอ็มโอยูประกัน 66 แห่ง เดือนนี้ และจัดเวิร์คชช็อป จนท.ประกัน สัปดาห์หน้า กำหนดเงื่อนไข-การตอบข้อมูล ปชช. คาดเบี้ยจะลดลง-มีผู้ให้ความสนใจทำประกัน 1.3 ล้านครัวเรือน

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ วันนี้ โดยระบุว่า คณะกรรมการตัดสินใจคัดเลือกบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือ ไทยรี (THAI RE) รับดำเนินการบริหารจัดการกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ โดยไทยรีคิดค่าบริหารจัดการประมาณ 60 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการการทำประกันภัยแทนกองทุน รวมทั้งพิจารณาผู้ที่มีสิทธิ์ทำประกันภัยพิบัติ แต่นโยบายในการบริหารจัดการจะยังอยู่ภายใต้การตัดสินใจของของคณะกรรมการกองทุนฯ โดยคาดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจทำประกันภัยพิบัติ 1.3 ล้านครัวเรือน

ส่วนการลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัทประกัน 66 แห่ง เพื่อขายประกันภัยพิบัติ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือนนี้ โดยจะเชิญนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อจะเปิดขายเบี้ยประกัน นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Work Shop) เจ้าหน้าที่ประกันภัย ถึงเงื่อนไขการทำประกันภัยพิบัติ เพื่อจะสามารถตอบข้อซักถามจากนักธุรกิจและประชาชนที่สนใจ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับเงื่อนไขการรับประกัน เพราะในขณะนี้เริ่มมีประชาชนให้ความสนใจและสอบถามเบี้ยประกันดังกล่าวแล้ว

"หลังจากได้มีการชี้แจงและประกาศเบี้ยประกันภัยพิบัติออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เห็นได้จากเบี้ยการรับประกันภัยต่อในต่างประเทศปรับลดลง จากก่อนหน้านี้เบี้ยการรับประกันภัยต่อมีอัตราที่สูงมาก เพราะเหตุอุทกภัยสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจประกันเป็นจำนวนมาก"

นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการได้ให้มีการศึกษาเพื่อพิจารณาขยายความคุ้มครองกรรมธรรม์ภัยพิบัติของกลุ่มธุรกิจจากร้อยละ 30 ของทุนประกัน เป็นไม่เกินร้อยละ 50 เพื่อช่วยเหลือธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่เสียหายจากน้ำท่วมปลายปีที่ผ่านมา และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าจะไม่เกิดน้ำท่วมซ้ำอีก

ส่วนกรณีที่กลุ่มต่อต้านสภาวะโลกร้อนยื่นเรื่องต่อศาลปกครองให้ระงับการก่อสร้างเขื่อนรอบนิคมอุตสาหกรรมนั้น นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ไม่กังวลว่าจะมีผลต่อการจำหน่ายประกันของกองทุน เพราะการสร้างเขื่อนถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเชื่อว่าประเทศมีมาตรการในการป้องกันอุทกภัยได้ และเป็นการป้องกันที่มีเหตุมีผล
กำลังโหลดความคิดเห็น