ASTVผู้จัดการรายวัน – “โลโมกราฟฟี่” เร่งบูมตลาดกล้องถ่ายรูปอิสระในไทย บริษัทแม่ออสเตรียมลุยเปิดสโตร์ในศูนย์การค้าแห่งแรกของโลกที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่เซ็นเตอร์ รับสาวกโลโม พร้อมขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย เป้าเติบโตปีนี้ 30%
นางสาวมณีแดง กุลทวีทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โลโมกราฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกล้องโลโมในไทย เปิดเผยว่า ตลาดกล้องโลโมหรือกล้องที่ให้ความเป็นอิสระกับผู้ใช้ได้รับความนิยมสูงในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตทางการตลาดที่ชัดเจนและมีแนวโน้มที่เติบโตดีในประเทศไทย แม้ว่าทุกวันนี้ตลาดรวมยังไม่ใหญ่มาก โดยมีประมาณ 100,000
หน่วยรวมทั้งกล้องและอุปกรณ์เสริม แต่ชุมชนกล้องโลโมในไทยมีความแข็งแกร่งและมีชื่อเสียงอย่างมาก
“ไทยถือเป็นตลาดที่มีแนวโน้มดีแห่งหนึ่งในเอเซียเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเซียด้วยกันที่มีเปิดบริษัทจำหน่ายกล้องโลโมแล้ว เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน”
บริษัทแม่ของโลโมที่ออสเตรียจึงเล็งเห็นความสำคัญของตลาดไทย ตัดสินใจลงทุนประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านโลโมกราฟฟี่ แกลลอรี่ สโตร์ ที่ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอร์รี่ ซึ่งถือเป็นร้านแรกในโลกของโลโมที่ตั้งอยูในศูนย์การค้า และไทยถือเป็นสโตร์ที่ 32 ของโลโมทั่วโลก ซึ่งจากเดิมร้านโลโมกราฟฟี่จะตั้งอยู่บนถนนสแตนด์อโลนทั้งหมดทุกประเทศ ที่มีอยู่ในโลกประมาณ 32 แห่ง
และภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะเปิดอีก 3 แห่งรวมเป็น 35 แห่งคือ ที่กวางโจว (จีน) และริโอเดอจาไนโร (บราซิล)ซึ่ง2สโตร์นี้เป็นการรีโนเวต ส่วนอีกที่คือ อิสตันบูล (ตุรกี) เป็นการเปิดสโตร์ใหม่ และเป้าหมายบริษัทแม่ภายใน 3 ปีจากนี้จะขยายเพิ่มอีก 20 สาขาทั่วโลก
การเปิดสโตร์ใหม่ที่ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอร์รี่นี้จะทำให้ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆได้มากขึ้น จากเดิมที่มีร้านที่เรียกกันในโลโมว่าร้านแอมบาสเดอร์ที่สุขุมวิท ก็จะมีลูกค้ากลุ่มที่รู้จักโลโมเท่านั้น แต่ที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่นี้มีคอนเซ็ปท์ของไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าของโลโมที่มีความทันสมัยและมีสไตล์เป็นของตนเอง
โดยสัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็นคนไทย 80% คนต่างชาติ 20%
บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะขยายฐานผู้เล่นกล้องประเภทโลโมนี้ในระยะยาวประมาณ 20-30% จากจำนวนประชากรทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีฐานผู้ใช้กล้องโลโมประมาณ 100,000 กว่าราย และเป้าหมายเพิ่มสมาชิกปีหน้าอีกเท่าตัว
ส่วนช่องทางจำหน่ายอื่นก็จะมีที่ร้านประเภทไลฟ์สไตล์และร้านขายสินค้าเกี่ยวกับกัดแจ๊ทชั้นนำ ไม่ได้มีจำหน่ายที่ร้านกล้องทั่วไป อย่างไรก็ตามมีแผนที่จะขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มตามหัวเมืองใหญ่และจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งโคราช เชียงใหม่ หัวหิน พัทยา เป็นต้น แต่อาจจะเป็นลักษณะการส่งสินค้าให้ร้านค้าจำหน่าย
ซึ่งบริษัทฯมีแนวคิดที่จะออกจัดกิจกรรมตามทำเลพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อดูถึงผลการตอบรับว่าเป็นอย่างไรก่อนตัดสินใจ
สำหรับราคาของกล้องและอุปกรณ์เสริมโลโมนั้น จะมีตั้งแต่ 3,000 บาท ขึ้นไปถึงระดับ 20,000 กว่าบาท และยงมีสินคากลุ่มแฟชั่นเน้น กระเป๋า เสื้อผ้า ฟิล์มโลโม สเตชันเนอรี จำหน่ายอีกด้วย ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วทางโลโมได้มีการปรับราคาทั่วโลกให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกันไม่ต่างกันมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นด้วย โดยสินค้าทั้งหมดนำเข้าจากโรงงานผลิตในจีน
นางสาวมณีแดงกล่าวต่อว่า ปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายโลโมในไทยเพิ่มขึ้น 30% เช่นเดียวกับปีที่แล้ว
นางสาวมณีแดง กุลทวีทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โลโมกราฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกล้องโลโมในไทย เปิดเผยว่า ตลาดกล้องโลโมหรือกล้องที่ให้ความเป็นอิสระกับผู้ใช้ได้รับความนิยมสูงในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตทางการตลาดที่ชัดเจนและมีแนวโน้มที่เติบโตดีในประเทศไทย แม้ว่าทุกวันนี้ตลาดรวมยังไม่ใหญ่มาก โดยมีประมาณ 100,000
หน่วยรวมทั้งกล้องและอุปกรณ์เสริม แต่ชุมชนกล้องโลโมในไทยมีความแข็งแกร่งและมีชื่อเสียงอย่างมาก
“ไทยถือเป็นตลาดที่มีแนวโน้มดีแห่งหนึ่งในเอเซียเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเซียด้วยกันที่มีเปิดบริษัทจำหน่ายกล้องโลโมแล้ว เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน”
บริษัทแม่ของโลโมที่ออสเตรียจึงเล็งเห็นความสำคัญของตลาดไทย ตัดสินใจลงทุนประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านโลโมกราฟฟี่ แกลลอรี่ สโตร์ ที่ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอร์รี่ ซึ่งถือเป็นร้านแรกในโลกของโลโมที่ตั้งอยูในศูนย์การค้า และไทยถือเป็นสโตร์ที่ 32 ของโลโมทั่วโลก ซึ่งจากเดิมร้านโลโมกราฟฟี่จะตั้งอยู่บนถนนสแตนด์อโลนทั้งหมดทุกประเทศ ที่มีอยู่ในโลกประมาณ 32 แห่ง
และภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะเปิดอีก 3 แห่งรวมเป็น 35 แห่งคือ ที่กวางโจว (จีน) และริโอเดอจาไนโร (บราซิล)ซึ่ง2สโตร์นี้เป็นการรีโนเวต ส่วนอีกที่คือ อิสตันบูล (ตุรกี) เป็นการเปิดสโตร์ใหม่ และเป้าหมายบริษัทแม่ภายใน 3 ปีจากนี้จะขยายเพิ่มอีก 20 สาขาทั่วโลก
การเปิดสโตร์ใหม่ที่ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอร์รี่นี้จะทำให้ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆได้มากขึ้น จากเดิมที่มีร้านที่เรียกกันในโลโมว่าร้านแอมบาสเดอร์ที่สุขุมวิท ก็จะมีลูกค้ากลุ่มที่รู้จักโลโมเท่านั้น แต่ที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่นี้มีคอนเซ็ปท์ของไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าของโลโมที่มีความทันสมัยและมีสไตล์เป็นของตนเอง
โดยสัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็นคนไทย 80% คนต่างชาติ 20%
บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะขยายฐานผู้เล่นกล้องประเภทโลโมนี้ในระยะยาวประมาณ 20-30% จากจำนวนประชากรทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีฐานผู้ใช้กล้องโลโมประมาณ 100,000 กว่าราย และเป้าหมายเพิ่มสมาชิกปีหน้าอีกเท่าตัว
ส่วนช่องทางจำหน่ายอื่นก็จะมีที่ร้านประเภทไลฟ์สไตล์และร้านขายสินค้าเกี่ยวกับกัดแจ๊ทชั้นนำ ไม่ได้มีจำหน่ายที่ร้านกล้องทั่วไป อย่างไรก็ตามมีแผนที่จะขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มตามหัวเมืองใหญ่และจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งโคราช เชียงใหม่ หัวหิน พัทยา เป็นต้น แต่อาจจะเป็นลักษณะการส่งสินค้าให้ร้านค้าจำหน่าย
ซึ่งบริษัทฯมีแนวคิดที่จะออกจัดกิจกรรมตามทำเลพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อดูถึงผลการตอบรับว่าเป็นอย่างไรก่อนตัดสินใจ
สำหรับราคาของกล้องและอุปกรณ์เสริมโลโมนั้น จะมีตั้งแต่ 3,000 บาท ขึ้นไปถึงระดับ 20,000 กว่าบาท และยงมีสินคากลุ่มแฟชั่นเน้น กระเป๋า เสื้อผ้า ฟิล์มโลโม สเตชันเนอรี จำหน่ายอีกด้วย ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วทางโลโมได้มีการปรับราคาทั่วโลกให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกันไม่ต่างกันมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นด้วย โดยสินค้าทั้งหมดนำเข้าจากโรงงานผลิตในจีน
นางสาวมณีแดงกล่าวต่อว่า ปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายโลโมในไทยเพิ่มขึ้น 30% เช่นเดียวกับปีที่แล้ว