ASTVผู้จัดการรายวัน - รมว.ไอซีที ประกาศ 28 ธ.ค.นี้นำร่องเปิด Wi-Fi ฟรี 20,000 จุดในเฟสแรกที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่ ความเร็ว 2 เมกะบิต และตามสถานศึกษา สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ ก่อนที่ในปี 55 จะเดินหน้าเฟส 2 ให้ครบ 40,000 จุด ด้านกสทช.เผยเรื่องร้องเรียนบริการโทรคมนาคมปี 2554 รวมกว่า 4,615 เรื่อง เอไอเอส-ดีแทค-ทรู-ฮัทช์ โดนทั่วหน้าทั้งคิดค่าบริการผิดพลาด มาตรฐานการให้บริการ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ในวันที่ 28 ธ.ค.นี้กระทรวงไอซีทีจะเปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย (Wi-Fi) ฟรีในพื้นที่กทม. และ สถานศึกษา สถานที่ราชการ สวนสาธารณะด้วยความเร็ว 2 เมกะบิต โดยให้บริษัท ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งตามแผนงานในเฟสที่ 1 จะให้บริการทั้งหมด 20,000 จุด โดยจะเริ่มทยอยเปิดบริการในแต่ละพื้นที่ แต่คาดว่าจะเปิดบริการได้ทั้งหมดภายในต้นเดือนม.ค.ปี 2555
สำหรับในเฟสที่ 2 จะเน้นในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า เขตอุตสาหกรรม และชุมชนต่างๆ โดยจะติดตั้งเพิ่มขึ้นอีก 20,000 จุดรวมเป็น 40,000 จุด ซึ่งอาจจะใช้เงินจากกองทุนพัฒนากิจการสาธารณะบริการโทรคมนาคมตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) มาตรา 56 ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตจากกสทช.ต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนปีละ 4%
เป้าหมายของไอซีที ในการเปิดบริการฟรีไว-ไฟเพราะต้องการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยกลุ่มเป้าหมายคือนักศึกษา นักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการผ่านโน้ตบุ๊ก ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อมุ่งเน้นสู่ความเป็นสมาร์ทไทยแลนด์
ขณะที่ในส่วนของผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ อาจจะหารือให้เข้ามาร่วมในโครงการฟรีไว-ไฟโดยรูปแบบจะพิจารณาดูว่าช่องสัญญาณและความจุโครงข่าย (คาปาซิตี้) หรือแบนด์วิธที่เหลือจากให้บริการ 3G หรือHSPA ในเชิงพาณิชย์ สามารถแบ่งมาให้บริการฟรี ไว-ไฟได้หรือไม่ โดยเป้าหมายสูงสุดของกระทรวงไอซีที คือต้องการให้ประชาชนในประเทศไทยสามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้นจากเดิม เพื่อให้อันดับICT World Ranking ที่ไทยอยู่ในอันดับที่ 59 ในตอนนี้มีอันดับสูงกว่าเดิมเนื่องจากในปัจจุบันมีอันดับต่ำกว่าเวียดนามที่อยู่ที่ 55
ทั้งนี้ในเฟสแรก 20,000 จุดตามสถานที่ราชการแบ่งเป็น ศาลาว่ากลางจังหวัด 79 แห่ง ที่ว่าการอำเภอ 878 แห่ง ตำบล 7,355 โรงเรียน 12,355 แห่ง โรงพยาบาล และอนามัย 1,278 แห่ง สถานีตำรวจ 8,269 แห่ง และ POI (point of interest) 10,000 แห่ง เช่น สถานีขนส่ง สนามบิน และสวนสาธาราณะ และแหล่งท่องเที่ยว
**ปี53ยอดร้องเรียนกว่า4พันเรื่อง**
ด้าน น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า การร้องเรียนในส่วนของธุกริจโทรคมนาคมในปี2554 มีปริมาณเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา และมีประเด็นเหมือนเดิม ซึ่งบางเรื่องผู้บริโภคเห็นว่าเสียหายไม่มากก็ไม่ร้องเรียน เมื่อไม่ร้องเรียนมาที่กสทช. ทางกสทช.ก็จะไม่รู้ถึงปัญหา
โดยตั้งแต่เดือนม.ค. 2554-15 ธ.ค. 2554 รวมทั้งสิ้น 4,615 เรื่อง เข้าสู่กระบวนการของกลุ่มภารกิจด้านการคุ้มครองฯ จำนวน 2,077 เรื่อง คิดเป็น 45% ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด และเป็นเรื่องที่ไม่เข้าสู่กระบวนการของกลุ่มภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคฯ จำนวน 2,538 เรื่อง คิดเป็น55% ทั้งนี้ สาเหตุที่เรื่องไม่เข้าสู่กระบวนการร้องเรียนส่วนใหญ่มาจากเอกสารไม่ครบ เช่น ไม่แนบสำเนาบัตรประชาชน หรือหนังสือมอบอำนาจ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,014 เรื่อง หรือคิดเป็น 39.95%
ขณะที่ช่องการรับเรื่องร้องเรียนที่ผู้บริโภคใช้มากที่สุด คือ โทรศัพท์ 37% รองลงมาคือ โทรสารคิดเป็น 28% และอีเมลอีก 19%
ส่วนเรื่องร้องเรียนที่เข้าสู่กระบวนการของกลุ่มภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคฯ จำนวน 2,077 เรื่องนั้น เป็นเรื่องร้องเรียนที่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จจำนวน 1,627 เรื่อง หรือคิดเป็น78 % ของเรื่องที่ได้รับ และอยู่ระหว่างดำเนินการ 450 เรื่อง คิดเป็น22% แบ่งเป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ 75% อินเทอร์เน็ต 19% โทรศัพท์พื้นฐาน 3.9% โทรศัพท์สาธารณะ 2.1%
สำหรับเรื่องร้องเรียนในส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่ ประเด็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุด คือ การกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า พบว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กับ บริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย (ฮัทช์)ได้รับเรื่องร้องเรียนมากที่สุด รองลงมาประเด็น คิดค่าบริการผิดพลาด และมาตรฐานการให้บริการ เช่น สัญญาณไม่ดี ไม่ชัด หลุดบ่อย
ในขณะที่ปัญหาเกี่ยวกับการใช้บริการคงสิทธิเลขหมาย ถูกระงับบริการโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ถูกยึดเลขหมายแล้วนำไปจำหน่ายให้ผู้บริโภครายใหม่ก่อนครบ 180 วัน ไม่สามารถใช้บริการที่สมัครได้ เปลี่ยนเงื่อนไขบริการโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เป็นต้น ซึ่งบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเครชั่น (ดีแทค) และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ได้รับเรื่องร้องเรียนมากที่สุด
ในส่วนของการใช้บริการ อินเทอร์เน็ต ประเด็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุด คือ มาตรฐานการให้บริการ เช่น ถูกระงับบริการโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า สัญญาณไม่ดีและความเร็วต่ำกว่าโฆษณา เป็นต้น รองลงมาคือ การคิดค่าบริการผิดพลาด และการขอยกเลิกบริการ ตามลำดับ โดยบริษัทที่ถูกร้องเรียนในประเด็นปัญหาดังกล่าวได้แก่ บริษัท ทริปเปิ้ลทรี อินเทอร์เน็ต บริษัท ทีโอที และบริษัท ทรูอินเทอร์เน็ต ส่วนการใช้งานโทรศัพท์พื้นฐาน ประเด็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดคือ การคิดค่าบริการผิดพลาดและมาตรฐานการให้บริการ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ในวันที่ 28 ธ.ค.นี้กระทรวงไอซีทีจะเปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย (Wi-Fi) ฟรีในพื้นที่กทม. และ สถานศึกษา สถานที่ราชการ สวนสาธารณะด้วยความเร็ว 2 เมกะบิต โดยให้บริษัท ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งตามแผนงานในเฟสที่ 1 จะให้บริการทั้งหมด 20,000 จุด โดยจะเริ่มทยอยเปิดบริการในแต่ละพื้นที่ แต่คาดว่าจะเปิดบริการได้ทั้งหมดภายในต้นเดือนม.ค.ปี 2555
สำหรับในเฟสที่ 2 จะเน้นในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า เขตอุตสาหกรรม และชุมชนต่างๆ โดยจะติดตั้งเพิ่มขึ้นอีก 20,000 จุดรวมเป็น 40,000 จุด ซึ่งอาจจะใช้เงินจากกองทุนพัฒนากิจการสาธารณะบริการโทรคมนาคมตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) มาตรา 56 ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตจากกสทช.ต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนปีละ 4%
เป้าหมายของไอซีที ในการเปิดบริการฟรีไว-ไฟเพราะต้องการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยกลุ่มเป้าหมายคือนักศึกษา นักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการผ่านโน้ตบุ๊ก ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อมุ่งเน้นสู่ความเป็นสมาร์ทไทยแลนด์
ขณะที่ในส่วนของผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ อาจจะหารือให้เข้ามาร่วมในโครงการฟรีไว-ไฟโดยรูปแบบจะพิจารณาดูว่าช่องสัญญาณและความจุโครงข่าย (คาปาซิตี้) หรือแบนด์วิธที่เหลือจากให้บริการ 3G หรือHSPA ในเชิงพาณิชย์ สามารถแบ่งมาให้บริการฟรี ไว-ไฟได้หรือไม่ โดยเป้าหมายสูงสุดของกระทรวงไอซีที คือต้องการให้ประชาชนในประเทศไทยสามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้นจากเดิม เพื่อให้อันดับICT World Ranking ที่ไทยอยู่ในอันดับที่ 59 ในตอนนี้มีอันดับสูงกว่าเดิมเนื่องจากในปัจจุบันมีอันดับต่ำกว่าเวียดนามที่อยู่ที่ 55
ทั้งนี้ในเฟสแรก 20,000 จุดตามสถานที่ราชการแบ่งเป็น ศาลาว่ากลางจังหวัด 79 แห่ง ที่ว่าการอำเภอ 878 แห่ง ตำบล 7,355 โรงเรียน 12,355 แห่ง โรงพยาบาล และอนามัย 1,278 แห่ง สถานีตำรวจ 8,269 แห่ง และ POI (point of interest) 10,000 แห่ง เช่น สถานีขนส่ง สนามบิน และสวนสาธาราณะ และแหล่งท่องเที่ยว
**ปี53ยอดร้องเรียนกว่า4พันเรื่อง**
ด้าน น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า การร้องเรียนในส่วนของธุกริจโทรคมนาคมในปี2554 มีปริมาณเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา และมีประเด็นเหมือนเดิม ซึ่งบางเรื่องผู้บริโภคเห็นว่าเสียหายไม่มากก็ไม่ร้องเรียน เมื่อไม่ร้องเรียนมาที่กสทช. ทางกสทช.ก็จะไม่รู้ถึงปัญหา
โดยตั้งแต่เดือนม.ค. 2554-15 ธ.ค. 2554 รวมทั้งสิ้น 4,615 เรื่อง เข้าสู่กระบวนการของกลุ่มภารกิจด้านการคุ้มครองฯ จำนวน 2,077 เรื่อง คิดเป็น 45% ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด และเป็นเรื่องที่ไม่เข้าสู่กระบวนการของกลุ่มภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคฯ จำนวน 2,538 เรื่อง คิดเป็น55% ทั้งนี้ สาเหตุที่เรื่องไม่เข้าสู่กระบวนการร้องเรียนส่วนใหญ่มาจากเอกสารไม่ครบ เช่น ไม่แนบสำเนาบัตรประชาชน หรือหนังสือมอบอำนาจ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,014 เรื่อง หรือคิดเป็น 39.95%
ขณะที่ช่องการรับเรื่องร้องเรียนที่ผู้บริโภคใช้มากที่สุด คือ โทรศัพท์ 37% รองลงมาคือ โทรสารคิดเป็น 28% และอีเมลอีก 19%
ส่วนเรื่องร้องเรียนที่เข้าสู่กระบวนการของกลุ่มภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคฯ จำนวน 2,077 เรื่องนั้น เป็นเรื่องร้องเรียนที่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จจำนวน 1,627 เรื่อง หรือคิดเป็น78 % ของเรื่องที่ได้รับ และอยู่ระหว่างดำเนินการ 450 เรื่อง คิดเป็น22% แบ่งเป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ 75% อินเทอร์เน็ต 19% โทรศัพท์พื้นฐาน 3.9% โทรศัพท์สาธารณะ 2.1%
สำหรับเรื่องร้องเรียนในส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่ ประเด็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุด คือ การกำหนดระยะเวลาการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้า พบว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กับ บริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย (ฮัทช์)ได้รับเรื่องร้องเรียนมากที่สุด รองลงมาประเด็น คิดค่าบริการผิดพลาด และมาตรฐานการให้บริการ เช่น สัญญาณไม่ดี ไม่ชัด หลุดบ่อย
ในขณะที่ปัญหาเกี่ยวกับการใช้บริการคงสิทธิเลขหมาย ถูกระงับบริการโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ถูกยึดเลขหมายแล้วนำไปจำหน่ายให้ผู้บริโภครายใหม่ก่อนครบ 180 วัน ไม่สามารถใช้บริการที่สมัครได้ เปลี่ยนเงื่อนไขบริการโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เป็นต้น ซึ่งบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเครชั่น (ดีแทค) และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ได้รับเรื่องร้องเรียนมากที่สุด
ในส่วนของการใช้บริการ อินเทอร์เน็ต ประเด็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุด คือ มาตรฐานการให้บริการ เช่น ถูกระงับบริการโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า สัญญาณไม่ดีและความเร็วต่ำกว่าโฆษณา เป็นต้น รองลงมาคือ การคิดค่าบริการผิดพลาด และการขอยกเลิกบริการ ตามลำดับ โดยบริษัทที่ถูกร้องเรียนในประเด็นปัญหาดังกล่าวได้แก่ บริษัท ทริปเปิ้ลทรี อินเทอร์เน็ต บริษัท ทีโอที และบริษัท ทรูอินเทอร์เน็ต ส่วนการใช้งานโทรศัพท์พื้นฐาน ประเด็นปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดคือ การคิดค่าบริการผิดพลาดและมาตรฐานการให้บริการ
