00 เหิมเกริมขึ้นทุกวันสำหรับ “แม้ว” ทักษิณ ชินวัตร คิดเอาแต่ได้ ไม่เห็นหัวคนไทยอยู่ในสายตา โกหกหลอกต้มคนไปได้ทั่วโลก ล่าสุดอ้างตัวเลขขึ้นมาลอยๆว่า มีถึง 66 ล้านคน ที่สนับสนุนการแก้ไขรธน. เออ ถ้าบอกว่า 6 คนในวงศ์วานว่านเครือ เทือกเถาเหล่ากอของตัวเอง ก็ว่าไปอย่าง และที่น่าถีบหน้าเป็นอย่างยิ่งก็คือ คำยืนยันว่า “ตัวเองไม่ผิด” คนแบบนี้ถือว่าน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงที่สุด
00 แต่หากว่าไปแล้วถือว่าสาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะเห็นว่าเขามีทุกอย่างอยู่ในมือพร้อมหมดแล้ว ทั้งอำนาจในฐานะเป็นเจ้าของรัฐบาลไทย ชี้นิ้วสั่งการไปทางไหนก็ได้ ตัวเองก็เป็นยิ่งกว่านายกฯ ทำตัวอยู่เหนือกม. ก็ลองดูกันไป ที่บอกว่าจะกลับไทยในปีนี้แบบที่ไม่มีความผิด มาแบบฮีโร่ ก็ลองดูว่ามันจะเป็นจริงได้หรือไม่ อย่าลืมว่าทุกอย่างมันพลิกผันได้ในชั่วข้ามคืน
00 มีคนบอกว่า ถ้าจะก้าวข้าม ทักษิณ ให้ได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ก็ต้องเปิดทางให้เต็มที่ อย่าไปปิดๆ เปิดๆ เพราะคนพวกนี้จะใช้เป็นข้ออ้างหลอกต้มชาวบ้านไปเรื่อยๆ เหมือนกับเวลานี้กำลังใช้รูปแบบ ปชต.เสียงข้างมากมาเป็นภาพลวงตา ทั้งที่หากติดตามแบ็กกราวด์ที่ตัว “แม้ว” และคนรอบข้าง มันก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักการเมืองหน้าเดิม ที่หากินอยู่กับเผด็จการ ทุจริตงบประมาณมาตลอดชีวิต แต่แล้วจู่ๆ ดันกลายเป็นนักประชาธิปไตยผู้เสียสละเพื่อประชาชนหน้าตาเฉย ที่เป็นแบบนี้เพราะการเมืองบ้านเรา สื่อบ้านเรา ระบบการตรวจสอบ มันห่วยแตก ถึงได้กลับตาลปัตรอย่างที่เห็น ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งหากจะก้าวข้าม บางครั้งก็ต้องกัดฟันทนให้สังคมได้เห็นสันดาน เห็นธาตุแท้ เหมือนกับในช่วงปี 48-49 ในช่วง “ปรากฏการณ์พันธมิตรฯ” แต่น่าเสียดายที่ถูก “สนธิ บัง” สวมรอย จัดการ “ไม่สะเด็ดน้ำ” ทำให้คืนชีพขึ้นมาใหม่ และทำท่าแข็งแกร่งกว่าเดิมอีก
00 เริ่มลงทะเบียนไปรับรางวัลจากการ “เผาเมือง” จนทำให้ “แม้ว” ยึดอำนาจรัฐได้สำเร็จ เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) เป็นวันแรก แต่ก็ยังลูกผีลูกคน ยังไม่แน่ว่าจะได้ เพราะมีเสียงคัดค้าน เริ่มจากฝ่ายปชป. ไปร้องศาลปกครองไม่ให้จ่ายเงินจนกว่าจะมีการพิสูจน์ว่าเป็นการทำผิดกม.หรือไม่ ดีไม่ดีงานนี้อาจมีคนติดคุกเพิ่มก็ได้ โดยเฉพาะคนที่เสนอเรื่องเข้าไปอย่าง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รวมไปถึง ครม.ทั้งคณะ ที่อนุมัติเงิน 2 พันล้านบาท มาจ่ายเป็นโบนัส
00 พิจารณาจากท่าทีแล้วก็ต้องบอกว่า ฝ่ายนักลงทุนญี่ปุ่นยังไม่เชื่อน้ำยารัฐบาล “ปูนิ่ม” ว่าจะมีปัญญารับมือกับปัญหาน้ำท่วม ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คำพูดของ ประธาน “เจโทร” ( องค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่น ) ที่ฟังน้ำเสียงแล้วเหมือนกับไม่ไว้หน้านายกฯไทยเอาเสียเลย โดยเฉพาะการจี้ให้เปิดเผยแผนป้องกันที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาให้เห็นภาพ ก็ต้องบอกว่าแม้รัฐบาลจะยกคณะใหญ่ไปสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งคนที่รับภาระหนักก็คือ รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ต้องรับหน้าเสื่อร่ายยาว แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ การเดินทางไปญี่ปุ่นแบบ “ตัดหน้า” ของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่แม้จะย้ำว่าไปช่วยสร้างความเชื่อมั่น แต่ใครจะรู้ว่า เป็นการให้ข้อมูล “ความจริงอีกด้าน” หรือเปล่า มิน่าพวกลิ่วล้อเพื่อไทย ถึงได้เต้นกันนัก !!
00 แต่หากว่าไปแล้วถือว่าสาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะเห็นว่าเขามีทุกอย่างอยู่ในมือพร้อมหมดแล้ว ทั้งอำนาจในฐานะเป็นเจ้าของรัฐบาลไทย ชี้นิ้วสั่งการไปทางไหนก็ได้ ตัวเองก็เป็นยิ่งกว่านายกฯ ทำตัวอยู่เหนือกม. ก็ลองดูกันไป ที่บอกว่าจะกลับไทยในปีนี้แบบที่ไม่มีความผิด มาแบบฮีโร่ ก็ลองดูว่ามันจะเป็นจริงได้หรือไม่ อย่าลืมว่าทุกอย่างมันพลิกผันได้ในชั่วข้ามคืน
00 มีคนบอกว่า ถ้าจะก้าวข้าม ทักษิณ ให้ได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ก็ต้องเปิดทางให้เต็มที่ อย่าไปปิดๆ เปิดๆ เพราะคนพวกนี้จะใช้เป็นข้ออ้างหลอกต้มชาวบ้านไปเรื่อยๆ เหมือนกับเวลานี้กำลังใช้รูปแบบ ปชต.เสียงข้างมากมาเป็นภาพลวงตา ทั้งที่หากติดตามแบ็กกราวด์ที่ตัว “แม้ว” และคนรอบข้าง มันก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักการเมืองหน้าเดิม ที่หากินอยู่กับเผด็จการ ทุจริตงบประมาณมาตลอดชีวิต แต่แล้วจู่ๆ ดันกลายเป็นนักประชาธิปไตยผู้เสียสละเพื่อประชาชนหน้าตาเฉย ที่เป็นแบบนี้เพราะการเมืองบ้านเรา สื่อบ้านเรา ระบบการตรวจสอบ มันห่วยแตก ถึงได้กลับตาลปัตรอย่างที่เห็น ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งหากจะก้าวข้าม บางครั้งก็ต้องกัดฟันทนให้สังคมได้เห็นสันดาน เห็นธาตุแท้ เหมือนกับในช่วงปี 48-49 ในช่วง “ปรากฏการณ์พันธมิตรฯ” แต่น่าเสียดายที่ถูก “สนธิ บัง” สวมรอย จัดการ “ไม่สะเด็ดน้ำ” ทำให้คืนชีพขึ้นมาใหม่ และทำท่าแข็งแกร่งกว่าเดิมอีก
00 เริ่มลงทะเบียนไปรับรางวัลจากการ “เผาเมือง” จนทำให้ “แม้ว” ยึดอำนาจรัฐได้สำเร็จ เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) เป็นวันแรก แต่ก็ยังลูกผีลูกคน ยังไม่แน่ว่าจะได้ เพราะมีเสียงคัดค้าน เริ่มจากฝ่ายปชป. ไปร้องศาลปกครองไม่ให้จ่ายเงินจนกว่าจะมีการพิสูจน์ว่าเป็นการทำผิดกม.หรือไม่ ดีไม่ดีงานนี้อาจมีคนติดคุกเพิ่มก็ได้ โดยเฉพาะคนที่เสนอเรื่องเข้าไปอย่าง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รวมไปถึง ครม.ทั้งคณะ ที่อนุมัติเงิน 2 พันล้านบาท มาจ่ายเป็นโบนัส
00 พิจารณาจากท่าทีแล้วก็ต้องบอกว่า ฝ่ายนักลงทุนญี่ปุ่นยังไม่เชื่อน้ำยารัฐบาล “ปูนิ่ม” ว่าจะมีปัญญารับมือกับปัญหาน้ำท่วม ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คำพูดของ ประธาน “เจโทร” ( องค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่น ) ที่ฟังน้ำเสียงแล้วเหมือนกับไม่ไว้หน้านายกฯไทยเอาเสียเลย โดยเฉพาะการจี้ให้เปิดเผยแผนป้องกันที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาให้เห็นภาพ ก็ต้องบอกว่าแม้รัฐบาลจะยกคณะใหญ่ไปสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งคนที่รับภาระหนักก็คือ รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ต้องรับหน้าเสื่อร่ายยาว แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ การเดินทางไปญี่ปุ่นแบบ “ตัดหน้า” ของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่แม้จะย้ำว่าไปช่วยสร้างความเชื่อมั่น แต่ใครจะรู้ว่า เป็นการให้ข้อมูล “ความจริงอีกด้าน” หรือเปล่า มิน่าพวกลิ่วล้อเพื่อไทย ถึงได้เต้นกันนัก !!