ASTVผู้จัดการรายวัน - นักเรียน ร.ร.บัวใหญ่ร้องขอความเป็นธรรม วอน “เวิร์คพ้อยท์” ตรวจสอบรายการ “ชิงช้าสวรรค์” ตัดสินไม่โปร่งใส ชี้พิรุธ ทีมชนะเลิศทราบผลการแข่งขันก่อนทีมอื่นๆ ยื่นจดหมายถึงเสี่ยปัญญา แล้วแต่ไม่เคยได้รับคำตอบ มีแต่ถูกปฏิเสธไม่ทราบเรื่อง
นายบรม เวชสัสถ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบัวใหญ่ เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนจะร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตรายการชิงร้อยชิงช้าสวรรค์ ซึ่งเป็นรายการที่ส่งเสริมเพลงลูกทุ่ง สนับสนุนให้เยาวชนได้แสดงความสามารถ ผ่านการประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง โดยในแต่ละปีจะมีโรงเรียนต่างๆ ส่งวงดนตรีของตนเองเข้าประกวดมากมาย
ทั้งนี้ เนื่องจาก โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ก็ได้ส่งวงดนตรีเข้าประกวดในรายการชิงช้าสวรรค์มาเป็นเวลา 6 ปีนับตั้งแต่รายการออกอากาศ ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนก็สามารถคว้าแชมป์ฤดูกาลและผ่านเข้าสู่รอบชิงแชมป์ออฟเดอะแชมป์อย่างต่อเนื่อง การแข่งขันดำเนินไปด้วยดีตลอดมา จนกระทั่งในการแข่งขันปี 2554 ที่เพิ่งจะบันทึกเทปตัดสินรอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์ไปเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งโรงเรียนบัวใหญ่ได้เข้ารอบดังกล่าวร่วมกับโรงเรียนเทพมิตรศึกษา และโรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอก
แต่ปรากฏว่าทีมโรงเรียนบัวใหญ่ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 แพ้โรงเรียนเทพมิตรที่คว้าแชมป์ออฟเดอะแชมป์ ซึ่งเหตุการณ์ในวันบันทึกเทปรอบตัดสินวันนั้น ตนเอง กับ นายปิยะ มงคลพงษ์ ครูผู้ฝึกสอนการแสดงให้แก่วงดนตรีโรงเรียนบัวใหญ่ พบว่ามีสิ่งผิดปกติหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่โรงเรียนเทพมิตรทราบผลการตัดสินก่อนที่จะมีการประกาศผลก่อน โดยนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าวถึงกับกอดกันร้องห่มร้องไห้ก่อนที่จะมีการประกาศผลด้วยซ้ำ
นอกจากนั้นแล้วยังมีเหตุการณ์หลายๆที่ชวนสงสัย เช่นก่อนหน้าที่จะเข้าสู่รอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์ ประกอบกับทางโรงเรียนบัวใหญ่ไปได้เอกสารผลคะแนนการตัดสินมาจากทีมงานคนหนึ่ง ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่าการตัดสินครั้งนี้มีข้อคืบแคลง จึงได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมส่งไปรษณีย์ไปยัง นายปัญญา นิรันดร์กุล ผู้บริหารบริษัท เวิร์คพ้อยท์ฯ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกล่าวตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีเลขาของนายปัญญาเป็นผู้รับเรื่องไว้ แต่เมื่อสอบถามกลับยังไม่ได้รับความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงเป็นเหตุให้ผู้อำนวยการโรงเรียนบัวใหญ่ กับครูผู้ฝึกสอนการแสดง ต้องนำเอกสารดังกล่าวมาเปิดเผยกับบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบ พร้อมกับวอนให้บริษัทเวิร์คพ้อยท์ช่วยพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ ทีมข่าวบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ ได้เดินทางไปที่โรงเรียนบัวใหญ่ เพื่อสอบถามถึงการร้องเรียนดังกล่าว ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียน และนายเชษฐ์ชาย วรรณประพันธ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียน และอาจารย์ปิยะ มงคลพงษ์ กับอาจารย์ศิริวัฒนา มงคลพงษ์ อาจารย์ชำนายการพิเศษผู้ฝึกสอนวงดนตรีบัวใหญ่ ต่างร่วมกันเปิดเผยข้อมูลและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
อาจารย์ปิยะ กล่าวว่า ในปีที่ 6 ทางโรงเรียนได้แชมป์ประจำฤดูร้อนและได้เข้าสู้รอบไขว้ พอรอบไขว้ชนะก็มาแข่งขันรอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์ แล้วผลการตัดสินที่ได้ออกมันออกมาแบบขัดใจตัวเอง และก็ทีมงาน ทุกคนที่อยู่ในวง ที่ผ่านมาการแพ้หรือชนะทุกแมทซ์ทางโรงเรียนยอมรับสภาพมาตลอดทุกปี
“ในการแข่งขันแต่ละปีจะมี 3 ฤดู ฤดูฝน ฤดูหนาว และฤดูร้อน จะมีการคัดแชมป์ประจำฤดูกับรองแชมป์ประจำฤดูไว้ ฤดูละ 2 ทีม รวม 3 ฤดู มาแข่งขันก็จะมีทีมที่เข้ารอบทั้งหมด 6 ทีมด้วยกัน ซึ่งในการแข่งขันครั้งล่าสุดคือปีที่ 6 โรงเรียนบัวใหญ่ของเราก็เป็นแชมป์ฤดูร้อน โรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอกเป็นรองแชมป์ฤดูร้อน ทางรายการก็จะเอาทีมที่เข้ารอบมาแข่งรอบไขว้กัน คือเอาแชมป์แต่ละฤดูไปแข่งกับรองแชมป์ โดยโรงเรียนบัวใหญ่ไปเจอรองแชมป์โรงเรียนท่าศาลา ผลการแข่งขันออกมาโรงเรียนบัวใหญ่ชนะ เช่นเดียวกับอีกโรงเรียนหนึ่ง แต่ในส่วน 1 โรงเรียนเทพมิตร กลับชนะโรงเรียนบึงกาฬ ในแบบการชนะฟาวล์เพราะว่าโรงเรียนบึงกาฬไม่มาแข่ง”
ทั้งนี้เมื่อสอบถามจากบรรดาผู้ที่เข้าไปแข่งขันกัน จึงได้ทราบว่าทีมงานที่ทำโรงเรียนเทพมิตรกับโรงเรียนบึงกาฬเป็นทีมงานชุดเดียวกัน ครูที่สอนดนตรีและสอนแดนซ์ทั้ง 2 โรงเรียนก็เป็นชุดเดียวกัน จากพฤติกรรมมันเหมือนจะบ่งบอกว่าเป็นการยอมแพ้กันง่ายๆ เหมือนกับหลีกทางให้กันเพื่อให้เทพมิตรเข้ารอบชิงแชมป์ออฟเดอะแชมป์ แต่ถ้าดูกันที่ความสามารถเส่วนตัวคิดว่าโรงเรียนบึงกาฬน่าจะเหนือกว่า
ภาพรวมสรุปมี 3 ทีมผ่านเข้าไปสู่รอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์คือ โรงเรียนเทพนิมิตร , โรงเรียนบัวใหญ่ และโรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอก โดยการแข่งขันทั้งหมดจะแข่งกัน 3 รอบคือ รอบเพลงช้า รอบเพลงเร็ว และรอบเพลงถนัด เริ่มแข่งขันเพลงช้ากับเพลงเร็วไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผลปรากฏออกมารอบเพลงช้าโรงเรียนที่ทำคะแนนสูงสุดก็คือ โรงเรียนเทพนิมิตร 9.1 โรงเรียนบัวใหญ่ 9.0 โรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอก 8.7 ซึ่งคะแนนเหล่านี้ถูกประกาศออกอากาศ จากนั้นก็บันทึกเทปแข่งขันรอบเพลงเร็วต่อ โรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอกได้ 9.4 โรงเรียนเทพมิตร 9.2 ส่วนบ๊วยสุดโรงเรียนบัวใหญ่ได้ 9.1 และทางรายการได้นำเอาคะแนนทั้ง 2 เพลงมารวมกัน โรงเรียนบัวใหญ่ได้ 18.1 โรงเรียนเทพมิตร 18.3 โรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอกได้ 18.1 เท่ากันกับบัวใหญ่
พอสัปดาห์ต่อมาวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ทุกโรงเรนียนมาแข่งขันรอบสุดท้ายคือรอบเพลงถนัด พอแข่งขันเสร็จออกมาโดยที่ไม่มีการแจ้งคะแนน ก็คือประกาศผลการแข่งขันเลย ซึ่งจะประกาศเลยว่าโรงเรียนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดได้..... และจากนั้นก็ประกาศตำแหน่งชนะเลิศเลย โดยผลออกมาเขาก็ประกาศโรงเรียนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดโรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอก และประกาศโรงเรียนที่ชนะเลิศคือเทพมิตรศึกษา ซึ่งจริงๆ แล้วในการแข่งขันรอบถนัดนี้เราทำได้ดีที่สุด ด้วยความมั่นใจภาคภูมิใจออกมาสมบรูณ์ คณะกรรมการเวลาคอมเม้นท์ออกมาเราก็มั่นใจคิดว่าชนะ แต่ผลออกมาไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ก็ยอมรับแบบฝืนๆ
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนบัวใหญ่ กล่าวว่า รู้สึกผิดหวัง เสียความรู้สึกไม่น่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ดูจากการแข่งขันไม่น่าเป็นอย่างนี้ เราน่าจะได้รับความยุติธรรมมากกว่านี้ รายการเขาเป็นรายการที่ดีเป็นรายการที่สร้างสรรค์เยาวชนอย่างยิ่ง แต่กลับมาให้เยาวชนเสียใจอย่างนี้ เราเสียใจที่ไม่ได้รับความยุติธรรม
นอกจากนี้ ผู้บริหารโรงเรียนบัวใหญ่ได้นำเอกสารผลคะแนนให้ผู้สื่อข่าวดู แต่ขอไม่ให้นำเอกสารดังกล่าวมาเผยแพร่ เพราะกลัวว่าพนักงานที่ให้มาด้วยความไม่ตั้งใจจะเดือดร้อน โดยในเอกสารระบุชื่อของคณะกรรมการที่ทำการตัดสินทั้ง 7 ท่านประกอบไปด้วย ครูแดน บุรีรัมย์ ,ครูประยงค์ ชื่นเย็น ,ครูเรืองยศ พิมพ์ทอง , ครูชลธี ธารทอง ,ครูลพ บุรีรัตน์ ,ครูสลา คุณวุฒิ และครูเทียม ชุติเดช ทองอยู่ มีการแบ่งการให้คะแนนออกเป็น 3 ประเภทคือ เพลงช้า เพลงเร็ว และ เพลงถนัด ซึ่งเพลงช้ากับเพลงเร็วคะแนนได้ถูกประกาศออกอากาศเป็นที่ทราบกันถ้วนหน้า และคะแนนที่ถูกประกาศออกไปกับคะแนนที่อยู่ในเอกสารดังกล่าวตรงกัน
“คะแนนเพลงถนัดที่ไม่ได้ประกาศผลถูกเก็บเป็นความลับนั้นชื่อของอาจารย์ที่ลงคะแนนทั้งหมด 7 ท่านเราดูคะแนนจากเอกสารที่ได้มารวมกัน 2 เพลงคือเพลงช้ากับเพลงเร็ว เรามีคะแนนเท่ากับโรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอก และแพ้เทพมิตรอยู่ 0.2 แต่พอมาดูคะแนนเพลงถนัดปุ๊บ อาจารย์ 7 ท่านให้โรงเรียนบัวใหญ่ชนะ 4 ท่าน เสมอ 2 แต่แพ้ 1 ท่าน แพ้ด้วยคณะกรรมการที่ตัดสินท่านหนึ่ง แพ้อย่างพิศวง แพ้ด้วยคะแนนห่างมโหฬาร ห่างเป็น 10 - 12 คะแนนในแต่ละเพลง”
อย่างไรก็ตามเอเอสทีวี บันเทิงผู้จัดการ ได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัทเวิร์คพ้อยท์ โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการเคลียร์กับโรงเรียนเรียบบัวใหญ่ร้อยแล้วตั้งแต่วันที่แข่งขันรอบชิงแชมป์ออฟเดอะแชม์ ส่วนหนังสือร้องเรียนนั้นยังไม่ทราบรายละเอียด ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวจะเป็นอย่างไรทีมข่าวจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
สำหรับเทปบันทึกรายการชิงช้าสวรรค์รอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์ปี 2554 ขณะนี้ยังไม่ได้ออกอากาศ ซึ่งคาดว่าจะออกอากาศปลายเดือนมีนาคมนี้ (ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ทั้งหมดได้ที่ www.manager.co.th)
นายบรม เวชสัสถ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบัวใหญ่ เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนจะร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตรายการชิงร้อยชิงช้าสวรรค์ ซึ่งเป็นรายการที่ส่งเสริมเพลงลูกทุ่ง สนับสนุนให้เยาวชนได้แสดงความสามารถ ผ่านการประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง โดยในแต่ละปีจะมีโรงเรียนต่างๆ ส่งวงดนตรีของตนเองเข้าประกวดมากมาย
ทั้งนี้ เนื่องจาก โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ก็ได้ส่งวงดนตรีเข้าประกวดในรายการชิงช้าสวรรค์มาเป็นเวลา 6 ปีนับตั้งแต่รายการออกอากาศ ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนก็สามารถคว้าแชมป์ฤดูกาลและผ่านเข้าสู่รอบชิงแชมป์ออฟเดอะแชมป์อย่างต่อเนื่อง การแข่งขันดำเนินไปด้วยดีตลอดมา จนกระทั่งในการแข่งขันปี 2554 ที่เพิ่งจะบันทึกเทปตัดสินรอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์ไปเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งโรงเรียนบัวใหญ่ได้เข้ารอบดังกล่าวร่วมกับโรงเรียนเทพมิตรศึกษา และโรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอก
แต่ปรากฏว่าทีมโรงเรียนบัวใหญ่ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 แพ้โรงเรียนเทพมิตรที่คว้าแชมป์ออฟเดอะแชมป์ ซึ่งเหตุการณ์ในวันบันทึกเทปรอบตัดสินวันนั้น ตนเอง กับ นายปิยะ มงคลพงษ์ ครูผู้ฝึกสอนการแสดงให้แก่วงดนตรีโรงเรียนบัวใหญ่ พบว่ามีสิ่งผิดปกติหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่โรงเรียนเทพมิตรทราบผลการตัดสินก่อนที่จะมีการประกาศผลก่อน โดยนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าวถึงกับกอดกันร้องห่มร้องไห้ก่อนที่จะมีการประกาศผลด้วยซ้ำ
นอกจากนั้นแล้วยังมีเหตุการณ์หลายๆที่ชวนสงสัย เช่นก่อนหน้าที่จะเข้าสู่รอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์ ประกอบกับทางโรงเรียนบัวใหญ่ไปได้เอกสารผลคะแนนการตัดสินมาจากทีมงานคนหนึ่ง ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่าการตัดสินครั้งนี้มีข้อคืบแคลง จึงได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมส่งไปรษณีย์ไปยัง นายปัญญา นิรันดร์กุล ผู้บริหารบริษัท เวิร์คพ้อยท์ฯ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกล่าวตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีเลขาของนายปัญญาเป็นผู้รับเรื่องไว้ แต่เมื่อสอบถามกลับยังไม่ได้รับความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงเป็นเหตุให้ผู้อำนวยการโรงเรียนบัวใหญ่ กับครูผู้ฝึกสอนการแสดง ต้องนำเอกสารดังกล่าวมาเปิดเผยกับบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบ พร้อมกับวอนให้บริษัทเวิร์คพ้อยท์ช่วยพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ ทีมข่าวบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ ได้เดินทางไปที่โรงเรียนบัวใหญ่ เพื่อสอบถามถึงการร้องเรียนดังกล่าว ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียน และนายเชษฐ์ชาย วรรณประพันธ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียน และอาจารย์ปิยะ มงคลพงษ์ กับอาจารย์ศิริวัฒนา มงคลพงษ์ อาจารย์ชำนายการพิเศษผู้ฝึกสอนวงดนตรีบัวใหญ่ ต่างร่วมกันเปิดเผยข้อมูลและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
อาจารย์ปิยะ กล่าวว่า ในปีที่ 6 ทางโรงเรียนได้แชมป์ประจำฤดูร้อนและได้เข้าสู้รอบไขว้ พอรอบไขว้ชนะก็มาแข่งขันรอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์ แล้วผลการตัดสินที่ได้ออกมันออกมาแบบขัดใจตัวเอง และก็ทีมงาน ทุกคนที่อยู่ในวง ที่ผ่านมาการแพ้หรือชนะทุกแมทซ์ทางโรงเรียนยอมรับสภาพมาตลอดทุกปี
“ในการแข่งขันแต่ละปีจะมี 3 ฤดู ฤดูฝน ฤดูหนาว และฤดูร้อน จะมีการคัดแชมป์ประจำฤดูกับรองแชมป์ประจำฤดูไว้ ฤดูละ 2 ทีม รวม 3 ฤดู มาแข่งขันก็จะมีทีมที่เข้ารอบทั้งหมด 6 ทีมด้วยกัน ซึ่งในการแข่งขันครั้งล่าสุดคือปีที่ 6 โรงเรียนบัวใหญ่ของเราก็เป็นแชมป์ฤดูร้อน โรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอกเป็นรองแชมป์ฤดูร้อน ทางรายการก็จะเอาทีมที่เข้ารอบมาแข่งรอบไขว้กัน คือเอาแชมป์แต่ละฤดูไปแข่งกับรองแชมป์ โดยโรงเรียนบัวใหญ่ไปเจอรองแชมป์โรงเรียนท่าศาลา ผลการแข่งขันออกมาโรงเรียนบัวใหญ่ชนะ เช่นเดียวกับอีกโรงเรียนหนึ่ง แต่ในส่วน 1 โรงเรียนเทพมิตร กลับชนะโรงเรียนบึงกาฬ ในแบบการชนะฟาวล์เพราะว่าโรงเรียนบึงกาฬไม่มาแข่ง”
ทั้งนี้เมื่อสอบถามจากบรรดาผู้ที่เข้าไปแข่งขันกัน จึงได้ทราบว่าทีมงานที่ทำโรงเรียนเทพมิตรกับโรงเรียนบึงกาฬเป็นทีมงานชุดเดียวกัน ครูที่สอนดนตรีและสอนแดนซ์ทั้ง 2 โรงเรียนก็เป็นชุดเดียวกัน จากพฤติกรรมมันเหมือนจะบ่งบอกว่าเป็นการยอมแพ้กันง่ายๆ เหมือนกับหลีกทางให้กันเพื่อให้เทพมิตรเข้ารอบชิงแชมป์ออฟเดอะแชมป์ แต่ถ้าดูกันที่ความสามารถเส่วนตัวคิดว่าโรงเรียนบึงกาฬน่าจะเหนือกว่า
ภาพรวมสรุปมี 3 ทีมผ่านเข้าไปสู่รอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์คือ โรงเรียนเทพนิมิตร , โรงเรียนบัวใหญ่ และโรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอก โดยการแข่งขันทั้งหมดจะแข่งกัน 3 รอบคือ รอบเพลงช้า รอบเพลงเร็ว และรอบเพลงถนัด เริ่มแข่งขันเพลงช้ากับเพลงเร็วไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผลปรากฏออกมารอบเพลงช้าโรงเรียนที่ทำคะแนนสูงสุดก็คือ โรงเรียนเทพนิมิตร 9.1 โรงเรียนบัวใหญ่ 9.0 โรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอก 8.7 ซึ่งคะแนนเหล่านี้ถูกประกาศออกอากาศ จากนั้นก็บันทึกเทปแข่งขันรอบเพลงเร็วต่อ โรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอกได้ 9.4 โรงเรียนเทพมิตร 9.2 ส่วนบ๊วยสุดโรงเรียนบัวใหญ่ได้ 9.1 และทางรายการได้นำเอาคะแนนทั้ง 2 เพลงมารวมกัน โรงเรียนบัวใหญ่ได้ 18.1 โรงเรียนเทพมิตร 18.3 โรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอกได้ 18.1 เท่ากันกับบัวใหญ่
พอสัปดาห์ต่อมาวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ทุกโรงเรนียนมาแข่งขันรอบสุดท้ายคือรอบเพลงถนัด พอแข่งขันเสร็จออกมาโดยที่ไม่มีการแจ้งคะแนน ก็คือประกาศผลการแข่งขันเลย ซึ่งจะประกาศเลยว่าโรงเรียนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดได้..... และจากนั้นก็ประกาศตำแหน่งชนะเลิศเลย โดยผลออกมาเขาก็ประกาศโรงเรียนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดโรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอก และประกาศโรงเรียนที่ชนะเลิศคือเทพมิตรศึกษา ซึ่งจริงๆ แล้วในการแข่งขันรอบถนัดนี้เราทำได้ดีที่สุด ด้วยความมั่นใจภาคภูมิใจออกมาสมบรูณ์ คณะกรรมการเวลาคอมเม้นท์ออกมาเราก็มั่นใจคิดว่าชนะ แต่ผลออกมาไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ก็ยอมรับแบบฝืนๆ
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนบัวใหญ่ กล่าวว่า รู้สึกผิดหวัง เสียความรู้สึกไม่น่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ดูจากการแข่งขันไม่น่าเป็นอย่างนี้ เราน่าจะได้รับความยุติธรรมมากกว่านี้ รายการเขาเป็นรายการที่ดีเป็นรายการที่สร้างสรรค์เยาวชนอย่างยิ่ง แต่กลับมาให้เยาวชนเสียใจอย่างนี้ เราเสียใจที่ไม่ได้รับความยุติธรรม
นอกจากนี้ ผู้บริหารโรงเรียนบัวใหญ่ได้นำเอกสารผลคะแนนให้ผู้สื่อข่าวดู แต่ขอไม่ให้นำเอกสารดังกล่าวมาเผยแพร่ เพราะกลัวว่าพนักงานที่ให้มาด้วยความไม่ตั้งใจจะเดือดร้อน โดยในเอกสารระบุชื่อของคณะกรรมการที่ทำการตัดสินทั้ง 7 ท่านประกอบไปด้วย ครูแดน บุรีรัมย์ ,ครูประยงค์ ชื่นเย็น ,ครูเรืองยศ พิมพ์ทอง , ครูชลธี ธารทอง ,ครูลพ บุรีรัตน์ ,ครูสลา คุณวุฒิ และครูเทียม ชุติเดช ทองอยู่ มีการแบ่งการให้คะแนนออกเป็น 3 ประเภทคือ เพลงช้า เพลงเร็ว และ เพลงถนัด ซึ่งเพลงช้ากับเพลงเร็วคะแนนได้ถูกประกาศออกอากาศเป็นที่ทราบกันถ้วนหน้า และคะแนนที่ถูกประกาศออกไปกับคะแนนที่อยู่ในเอกสารดังกล่าวตรงกัน
“คะแนนเพลงถนัดที่ไม่ได้ประกาศผลถูกเก็บเป็นความลับนั้นชื่อของอาจารย์ที่ลงคะแนนทั้งหมด 7 ท่านเราดูคะแนนจากเอกสารที่ได้มารวมกัน 2 เพลงคือเพลงช้ากับเพลงเร็ว เรามีคะแนนเท่ากับโรงเรียนเทศบาล 5 วัดหัวป้อมนอก และแพ้เทพมิตรอยู่ 0.2 แต่พอมาดูคะแนนเพลงถนัดปุ๊บ อาจารย์ 7 ท่านให้โรงเรียนบัวใหญ่ชนะ 4 ท่าน เสมอ 2 แต่แพ้ 1 ท่าน แพ้ด้วยคณะกรรมการที่ตัดสินท่านหนึ่ง แพ้อย่างพิศวง แพ้ด้วยคะแนนห่างมโหฬาร ห่างเป็น 10 - 12 คะแนนในแต่ละเพลง”
อย่างไรก็ตามเอเอสทีวี บันเทิงผู้จัดการ ได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัทเวิร์คพ้อยท์ โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการเคลียร์กับโรงเรียนเรียบบัวใหญ่ร้อยแล้วตั้งแต่วันที่แข่งขันรอบชิงแชมป์ออฟเดอะแชม์ ส่วนหนังสือร้องเรียนนั้นยังไม่ทราบรายละเอียด ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวจะเป็นอย่างไรทีมข่าวจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
สำหรับเทปบันทึกรายการชิงช้าสวรรค์รอบแชมป์ออฟเดอะแชมป์ปี 2554 ขณะนี้ยังไม่ได้ออกอากาศ ซึ่งคาดว่าจะออกอากาศปลายเดือนมีนาคมนี้ (ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ทั้งหมดได้ที่ www.manager.co.th)