ASTVผู้จัดการรายวัน-"พาณิชย์"อ้อนร้านอาหารธงฟ้าใจเย็นๆ อย่าเพิ่งถอนตัว ยันวัตถุดิบราคาถูกมีให้แน่ แต่ต้องรอหน่อย พร้อมเดินหน้าโครงการ 1 ธงฟ้า 1 ชุมชน ขายอาหารราคาถูก 25-30 บาท 10 เมนู แถมจัดสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นขายราคาถูกให้ด้วย คาดนำร่องเปิดได้เม.ย.นี้
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ กำลังเร่งวางระบบในการกระจายวัตถุดิบประกอบอาหารราคาถูกไปให้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการร้านอาหารธงฟ้าอยู่ จึงขอให้ร้านค้าที่เข้าร่วมอย่างเพิ่งออกจากโครงการ และให้มั่นใจได้ว่าจะมีการช่วยเหลือจากภาครัฐแน่นอน ขณะเดียวกันกำลังอยู่ระหว่างจัดทำแผนลดค่าครองชีพทั้งประเทศ เพื่อเสนอให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ และนายกรัฐมนตรีพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทันสัปดาห์หน้า
สำหรับแผนลดค่าครองชีพทั่วประเทศ เบื้องต้นจะเสนอให้กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นเจ้าภาพในการดูแลแก้ปัญหาค่าครองชีพทั้งหมด ซึ่งต่อไปถ้าสินค้าอาหารแพงหรือราคาตกต่ำ เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ เนื้อหมู ไก่ น้ำมันพืช แพง จะมีผู้ว่าฯ เป็นคนมีอำนาจในการดูแล เพราะกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจ และกำลังคนในการดูแลครอบคลุมได้มากกว่า อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการดูแลสินค้าเกษตร ที่ผู้ว่าฯ เคยดูในก่อนหน้านี้
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้เดินหน้าโครงการ 1 ธงฟ้า 1 ชุมชน ในการจำหน่ายอาหารราคาถูกจำนวน 10 เมนู ราคา 25-30 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ตามคำสั่งของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าภายในเดือนเม.ย.นี้ จะสามารถเปิดร้านนำร่องได้ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ และภายในร้านธงฟ้า นอกจากจะมีอาหารราคาประหยัดจำหน่าย ยังได้จัดสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งอุปโภคบริโภค เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอง จำหน่ายในราคาของโครงการธงฟ้าทั่วไป ที่ต่ำกว่าราคาตลาด 30-40% โดยคาดจะมีสินค้าที่ได้วางขายประมาณ 10-20 รายการ
ทั้งนี้ การกำหนดชุมชนไหน พื้นที่ไหน ในการตั้งร้านธงฟ้า กรมฯ จะรวบรวมรายชื่อกำหนดพื้นที่และจะนำเสนอข้อมูลทั้งหมดเข้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติแต่ละชุมชน โดยจะดูจากความเหมาะสมของแต่ละจังหวัด ทั้ง 77 จังหวัด และทุกชุมชน
สำหรับปัญหาเรื่องวัตถุดิบในการประกอบอาหารที่จะจัดส่งไปยังร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการธงฟ้านั้น ขั้นตอนขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับซัปพลายเออร์ โดยกรมฯ จะคำนึกถึงคุณภาพของวัตถุดิบเป็นหลัก ซึ่งได้มอบให้ซัปพลายเออร์ดูทั้งเรื่องแหล่งวัตถุดิบและการขนส่งไปยังร้านธงฟ้าที่เข้าร่วมโครงการกับทางกรมฯ
ส่วนราคาไข่ไก่ในตลาดที่สูงกว่าราคาแนะนำ กรมฯ กำลังเข้าไปตรวจสอบถึงสาเหตุ และเตรียมเรียกผู้ประกอบการมาหารือ เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งต้องดูในเรื่องต้นทุนและปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาด โดยในส่วนของต้นทุนอาหารสัตว์ ขณะนี้รัฐบาลกำลังหาทางช่วยเหลืออยู่ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดต้นต้นทุนลงมา และดึงให้ราคาไข่ไก่ลดลงได้
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขอให้กระทรวงพลังงานดูแลราคาน้ำมัน และก๊าซไม่ให้ปรับขึ้นราคาอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาสินค้าและค่าครองชีพ เพราะเกรงว่าหากน้ำมันเพิ่มสูงมากอาจกระทบต่อกำลังซื้อ ต้นทุนการผลิตสินค้า และกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ กำลังเร่งทำแผนดูแลราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด แต่ราคาอาจไม่ปรับลดลงมากอย่างทันที เพราะต้องรอให้พ่อค้าแม่ค้าปรับตัวด้วย ขณะเดียวกันกระทรวงฯ จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการลดต้นทุนโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีแผนส่งเสริมการค้าภายในประเทศ ผ่านการค้าขายในตลาดสด และทำย่านการค้าทั่วประเทศ เพื่อให้มีการจำหน่ายสินค้ามีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม และเป็นของที่ผลิตจากในประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดกลไกการค้าที่สมบูรณ์ และลดการพึ่งพารายได้จากการส่งออกไปต่างประเทศที่ขณะนี้กำลังเกิดวิกฤตไปทั่วโลก
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ กำลังเร่งวางระบบในการกระจายวัตถุดิบประกอบอาหารราคาถูกไปให้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการร้านอาหารธงฟ้าอยู่ จึงขอให้ร้านค้าที่เข้าร่วมอย่างเพิ่งออกจากโครงการ และให้มั่นใจได้ว่าจะมีการช่วยเหลือจากภาครัฐแน่นอน ขณะเดียวกันกำลังอยู่ระหว่างจัดทำแผนลดค่าครองชีพทั้งประเทศ เพื่อเสนอให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ และนายกรัฐมนตรีพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทันสัปดาห์หน้า
สำหรับแผนลดค่าครองชีพทั่วประเทศ เบื้องต้นจะเสนอให้กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นเจ้าภาพในการดูแลแก้ปัญหาค่าครองชีพทั้งหมด ซึ่งต่อไปถ้าสินค้าอาหารแพงหรือราคาตกต่ำ เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ เนื้อหมู ไก่ น้ำมันพืช แพง จะมีผู้ว่าฯ เป็นคนมีอำนาจในการดูแล เพราะกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจ และกำลังคนในการดูแลครอบคลุมได้มากกว่า อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการดูแลสินค้าเกษตร ที่ผู้ว่าฯ เคยดูในก่อนหน้านี้
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้เดินหน้าโครงการ 1 ธงฟ้า 1 ชุมชน ในการจำหน่ายอาหารราคาถูกจำนวน 10 เมนู ราคา 25-30 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ตามคำสั่งของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าภายในเดือนเม.ย.นี้ จะสามารถเปิดร้านนำร่องได้ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ และภายในร้านธงฟ้า นอกจากจะมีอาหารราคาประหยัดจำหน่าย ยังได้จัดสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งอุปโภคบริโภค เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอง จำหน่ายในราคาของโครงการธงฟ้าทั่วไป ที่ต่ำกว่าราคาตลาด 30-40% โดยคาดจะมีสินค้าที่ได้วางขายประมาณ 10-20 รายการ
ทั้งนี้ การกำหนดชุมชนไหน พื้นที่ไหน ในการตั้งร้านธงฟ้า กรมฯ จะรวบรวมรายชื่อกำหนดพื้นที่และจะนำเสนอข้อมูลทั้งหมดเข้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติแต่ละชุมชน โดยจะดูจากความเหมาะสมของแต่ละจังหวัด ทั้ง 77 จังหวัด และทุกชุมชน
สำหรับปัญหาเรื่องวัตถุดิบในการประกอบอาหารที่จะจัดส่งไปยังร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการธงฟ้านั้น ขั้นตอนขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับซัปพลายเออร์ โดยกรมฯ จะคำนึกถึงคุณภาพของวัตถุดิบเป็นหลัก ซึ่งได้มอบให้ซัปพลายเออร์ดูทั้งเรื่องแหล่งวัตถุดิบและการขนส่งไปยังร้านธงฟ้าที่เข้าร่วมโครงการกับทางกรมฯ
ส่วนราคาไข่ไก่ในตลาดที่สูงกว่าราคาแนะนำ กรมฯ กำลังเข้าไปตรวจสอบถึงสาเหตุ และเตรียมเรียกผู้ประกอบการมาหารือ เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งต้องดูในเรื่องต้นทุนและปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาด โดยในส่วนของต้นทุนอาหารสัตว์ ขณะนี้รัฐบาลกำลังหาทางช่วยเหลืออยู่ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดต้นต้นทุนลงมา และดึงให้ราคาไข่ไก่ลดลงได้
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขอให้กระทรวงพลังงานดูแลราคาน้ำมัน และก๊าซไม่ให้ปรับขึ้นราคาอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาสินค้าและค่าครองชีพ เพราะเกรงว่าหากน้ำมันเพิ่มสูงมากอาจกระทบต่อกำลังซื้อ ต้นทุนการผลิตสินค้า และกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ กำลังเร่งทำแผนดูแลราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด แต่ราคาอาจไม่ปรับลดลงมากอย่างทันที เพราะต้องรอให้พ่อค้าแม่ค้าปรับตัวด้วย ขณะเดียวกันกระทรวงฯ จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการลดต้นทุนโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีแผนส่งเสริมการค้าภายในประเทศ ผ่านการค้าขายในตลาดสด และทำย่านการค้าทั่วประเทศ เพื่อให้มีการจำหน่ายสินค้ามีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม และเป็นของที่ผลิตจากในประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดกลไกการค้าที่สมบูรณ์ และลดการพึ่งพารายได้จากการส่งออกไปต่างประเทศที่ขณะนี้กำลังเกิดวิกฤตไปทั่วโลก