xs
xsm
sm
md
lg

สศช.กดจีดีพี0% ธปท.สวนต่ำเกิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาพัฒน์เผยตัวเลขเศรษฐกิจปี 54 โตแค่ 0.1% อ้างน้ำท่วมเสียหาย 3.2 แสนล้าน ทำให้ไตรมาส 4 ติดลบถึง 9% คาดปี 55 ขยายตัว 5.5-6.5% ขณะที่แบงก์ชาติเห็นต่าง ประเมินไว้ตัวเลขปี 54 ที่ 1% เผยขอดูความแตกต่างข้อมูลระหว่าง 2 หน่วยงาน ก่อนทบทวนเศรษฐกิจไทยปี 55-56 ใหม่ ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ย้ำมีโอกาสปรับสูงขึ้นได้ เหตุฐานปี 54 ต่ำ


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีว่า ช่วงไตรมาส 4 ปี2554 ที่ผ่านมาติดลบ 9% และเมื่อปรับฤดูกาลแล้วเหลือติดลบ 10.7% จากผลกระทบของอุทกภัย ซึ่งส่งผลมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น ส่งผลให้อัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยเฉลี่ยทั้งปี2554 ขยายตัวเพียง 0.1% จากก่อนหน้านี้คาดว่าจะเติบโตได้ 1.5%

ทั้งนี้ สถานการณ์อุทกภัยทำให้จีดีพีในปี 2554 สูญหายไปกว่า 320,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาคการเกษตร อุตสาหกรรม ภาคบริการ กระทบต่อจีดีพีลดลง 3.7% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 3.8% ทำให้จีดีพีเติบโตเหลือแค่ 0.1%

"น้ำท่วมทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศหยุดการผลิต หยุดการเดินทาง การใช้จ่ายครัวเรือนหดตัวขณะที่อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น การลงทุนหดตัวทั้งการก่อสร้างและเครื่องมือเครื่องจักรถูกน้ำท่วม ส่งออกหดตัว รวมทั้งท่องเที่ยว"

เลขาธิการสภาพัฒน์กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2555 คาดว่าจีดีพีจะขยายเพิ่มถึง 5.5-6.5% จากเดิมคาดโต 4.5-5.5% โดยคาดว่าภาคการผลิตจะฟื้นตัวได้เต็มที่ในไตรมาสสองของปีนี้ โดยปัจจัยที่จะสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้คือ การลงทุนด้านการก่อสร้างต่าง ๆ ซึ่งภาคเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวได้รวดเร็ว โดยเฉพาะท่องเที่ยวและการส่งออก ขณะที่รายได้ภาคครัวเรือนสูงขึ้นจากการปรับขึ้นค่าจ้างและค่าแรงขั้นต่ำ และ อัตราดอกเบี้ยต่ำช่วงครึ่งปีแรก

สภาพัฒน์อ้างถึงธนาคารโลกประเมินว่าประเทศไทยจะต้องใช้เงินมากกว่า 798,000 ล้านบาท ในการฟื้นฟูประเทศทั้งในส่วนของภาคเอกชนและภาครัฐ ประกอบกับภาครัฐจะมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง การซ่อมรางรถไฟทั่วประเทศ ส่วนภาคเอกชนก็จะมีการลงทุนอีกจำนวนมาก แต่การประเมินดังกล่าวอยู่ภายใต้คาดการณ์ว่าไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงเหมือนในปีก่อน

ทางด้านปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ได้แก่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว โดยเฉพะยุโรป ตลาดเงินตลาดทุน และปัจจัยจากอัตราแลกเปลี่ยน

***แบงก์ชาติเห็นต่างสภาพัฒน์
ด้านนายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวยอมรับว่าการที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจริงของปี 54ขยายตัวแค่ 0.1% ซึ่งธปท.ประเมินไว้ที่ระดับ 1% ถือว่าต่ำกว่าที่ธปท.ประมาณการไว้ค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตาม ธปท.จะขอดูความแตกต่างของข้อมูลของธปท.และสภาพัฒน์ก่อน เพื่อทบทวนประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 55 และปี 56 ใหม่หรือไม่ ซึ่งธปท.จะประเมินภาพรวมเศรษฐกิจอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 21 มี.ค.นี้

“เป็นเรื่องปกติ หากฐานปีก่อนหน้าต่ำลงก็จะมีโอกาสส่งผลให้ตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจในปีถัดมาปรับตัวสูงขึ้นได้ และขณะนี้ในเชิงแรงส่งเศรษฐกิจทั้งในส่วนการลงทุน การบริโภค รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐยังมีแรงส่งค่อนข้างดีอยู่และไม่เห็นสัญญาณว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ขณะเดียวกันมองว่าการฟื้นฟูของอุตสาหกรรมจากกรณีน้ำท่วมน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในช่วงต้นไตรมาส 3 ของปีนี้ แต่ก็ต้องดูตัวเลขสุดท้ายที่เรากับสภาพัฒน์มีว่าแตกต่างกันตรงไหน โดยเฉพาะช่วงเดือนธ.ค.ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมว่าจะมีผลอย่างไรต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยในปี 55 นี้อย่างไรด้วย”

ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า จากเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงที่ผ่านมายังไม่ได้กระทบต่อภาคการท่องเที่ยวมากนักและเห็นว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วง เพราะเห็นว่าภาคการท่องเที่ยวจะใช้เวลาการฟื้นตัวเร็วสุดเมื่อเทียบกับทุกภาคเศรษฐกิจ ซึ่งเห็นได้จากไม่ว่ามีปัญหาเรื่องภัยพิบัติ การเมืองในประเทศที่รุนแรงในอดีต ภาคการท่องเที่ยวก็ได้รับแค่ในระยะสั้นเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ธปท.ได้ประมาณการเศรษฐกิจไทยว่า ในปี 55 จะขยายตัว 4.9% และในปี 56 ไว้ที่ระดับ 5.6% ขณะที่เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4 ของปี 54 ซึ่งได้รับผลกระทบหนักจากปัญหาน้ำท่วมภายในประเทศ ทำให้ธปท.คาดว่าเศรษฐกิจหดตัวมากสุดเป็นประวัติการณ์ คือติดลบ 7.4% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า และติดลบ 5.2% เมื่อเทียบเป็นช่วงระยะเดียวกันของปีก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น