ASTVผู้จัดการรายวัน – กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ฟื้นความเชื่อมั่นลูกค้าหลังน้ำท่วมใหญ่ ออกแคมเปญพิเศษ “สร้างบ้านไม่ต้องกลัวน้ำท่วม” รับประกันซ่อมบ้าน 3 ปีหากน้องน้ำมาอีก พร้อมอัดส่วนลดพิเศษอีก 10% ภายในงานรับสร้างบ้าน Focus 2012 ระหว่างวันที่ 1-7 มี.ค.นี้ หลังพบลูกค้าชะลอสร้างบ้านหวั่นน้ำท่วมซ้ำ พร้อมออกแบบบ้านใหม่ 24 แบบ มั่นใจปี 55 ตลาดรับสร้างบ้านฟื้นจากดีมานด์สะสม ความกังวลราคาก่อสร้างปรับขึ้น คาดทั้งปีโต 10-20%
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบิวท์ ทู บิวด์ จำกัด ประกอบด้วย “บิวท์ ทู บิวด์” “บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์” และ “สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์” กล่าวว่า นับจากน้ำท่วมใหญ่ในปีที่ผ่านมาส่งผลให้ลูกค้าไม่มั่นใจและหวั่นเกรงว่าในปีจะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีก ประกอบการนโยบายการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นไม่กล้าซ่อมบ้าน หรือสร้างบ้านใหม่ ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านประมาณ 30-50%
ดังนั้น เพื่อเป็นการฟื้นความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและตัดสินใจสร้างบ้านกับบริษัท จึงออกแคมเปญ “ สร้างบ้านไม่ต้องกลัวน้ำท่วม ” โดยจะรับประกันซ่อมบ้านให้ฟรี 3 ปี ทุกหลัง ทุกทำเล หากเกิดน้ำท่วม นับจากวันเซ็นสัญญาสร้างบ้าน และในกรณีที่บ้านลูกค้าเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ก็จะได้รับการดูแล จากบริษัทฯ โดยในขั้นต้นจะเข้าไปประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น จากนั้นจะทำให้ใหม่ตามสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้บ้านกลับมาอยู่ในสภาพเดิมโดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ งานซ่อมในส่วนที่บริษัทฯ จะเข้าไปดูแลทำให้ใหม่นั้นจะต้องเป็นตัวบ้านหรืออาคารที่เซ็นสัญญากับบริษัทฯ และไม่ได้ต่อเติมเพิ่ม ซึ่งบริษัทฯ จะยึดหลักในการรับประกัน ดูแลบ้านน้ำท่วมจากสัญญาสร้างบ้านเป็นหลัก พร้อมกันนี้ยังได้จัดส่วนลดพิเศษอีก 10% โดยไม่จำกัดจำนวนหลัง โดยผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว จะต้องจองสร้างบ้านกับบริษัทฯ เฉพาะงาน “รับสร้างบ้าน Focus 2012” ระหว่างวันที่ 1-7 มีนาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว บริเวณชั้น G และทำสัญญาสร้างบ้านภายใน 60 วันนับจากวันจองสร้างบ้านเท่านั้น
“การออกแคมเปญดังกล่าวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า โดยไม่ต้องรอการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลที่ยังไม่มีความชัดเจนและไม่เป็นรูปธรรม แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศแนวนโยบายออกมาแล้วก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าโครงการต่างๆจะต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างอย่างน้อย 3 ปีจึงจะแล้วเสร็จ” นายสุธีกล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้การขยายตัวของตลาดรับสร้างบ้านจะมีประมาณ 10-20% จากกำลังซื้อสะสมนับจากเกิดน้ำท่วมในปีที่ผ่านมาและจะกลับสร้างบ้านในปีนี้อย่างแน่นอน ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจของไทยยังคาดว่าจะขยายตัวได้มากกว่าปี 2554 ขณะที่ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจยุโรปก็คลี่คลายลง ขณะที่แรงกดดันจากราคาวัสดุ น้ำมันและค่าแรงทยอยปรับขึ้นทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจสร้างบ้านเร็วขึ้น เพราะเกรงว่าหากสร้างบ้านช้าราคาก่อสร้างบ้านจะต้องแพงขึ้นมากอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มที่สร้างบ้านราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ได้พัฒนาออกแบบบ้านรุ่นใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 22 แบบ เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่ม มีทางเลือกเพิ่มขึ้น โดยเน้นงานดีไซน์ที่ทันสมัยและฟังก์ชั่นใช้งานที่เหมาะสมกับเทรนด์การอยู่อาศัยในปี 2555 แบบบ้านรุ่นใหม่ ประกอบด้วย แบบบ้านของ “บิวท์ ทู บิวด์” ที่พัฒนาขึ้นใหม่ จำนวน 8 แบบ ในชื่อ “Modern Retro By Built To Build” พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 300-500 ตารางเมตร ราคาปลูกสร้างเริ่มที่ 5-9 ล้านบาท ขณะที่ “บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์” มีแบบบ้านใหม่ จำนวน 8 แบบ ภายใต้ชื่อ “Bangkok Retro By Bangkok House Builder” พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 200-250 ตารางเมตร ราคา ปลูกสร้างเริ่มที่ 2-4 ล้านบาท และ “สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์” พัฒนาขึ้นใหม่อีก 8 แบบ ในชื่อ “New Series By Small House Builder” พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 90-180 ตารางเมตร ราคาปลูกสร้างเริ่มต้นที่ 1-2 ล้านบาท
สำหรับเป้ารายได้ในปีนี้ ทั้งกลุ่มวางไว้ที่ 900 ล้านบาท เติบโตประมาณ 30% จากปีในปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ประมาณ 700 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น “บิวท์ ทู บิวด์” 400 ล้านบาท “บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์” 300 ล้านบาท ขณะที่ “สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์” ตั้งเป้ารายได้เติบโตไว้ที่ 200 ล้านบาท เนื่องจากยังคงมีความต้องการเป็นจำนวนมาก และคาดว่ากำลังซื้อส่วนหนึ่งน่าจะมาจากกลุ่มผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านเก่าถูกน้ำท่วมหนัก และประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและฟื้นฟูแล้วไม่คุ้ม เมื่อเทียบกับการสร้างบ้านหลังใหม่ ดังนั้นจึงหันมาสร้างบ้านขนาดเล็กบนที่ดินเดิม ในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทแทน
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบิวท์ ทู บิวด์ จำกัด ประกอบด้วย “บิวท์ ทู บิวด์” “บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์” และ “สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์” กล่าวว่า นับจากน้ำท่วมใหญ่ในปีที่ผ่านมาส่งผลให้ลูกค้าไม่มั่นใจและหวั่นเกรงว่าในปีจะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีก ประกอบการนโยบายการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นไม่กล้าซ่อมบ้าน หรือสร้างบ้านใหม่ ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านประมาณ 30-50%
ดังนั้น เพื่อเป็นการฟื้นความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและตัดสินใจสร้างบ้านกับบริษัท จึงออกแคมเปญ “ สร้างบ้านไม่ต้องกลัวน้ำท่วม ” โดยจะรับประกันซ่อมบ้านให้ฟรี 3 ปี ทุกหลัง ทุกทำเล หากเกิดน้ำท่วม นับจากวันเซ็นสัญญาสร้างบ้าน และในกรณีที่บ้านลูกค้าเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ก็จะได้รับการดูแล จากบริษัทฯ โดยในขั้นต้นจะเข้าไปประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น จากนั้นจะทำให้ใหม่ตามสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้บ้านกลับมาอยู่ในสภาพเดิมโดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ งานซ่อมในส่วนที่บริษัทฯ จะเข้าไปดูแลทำให้ใหม่นั้นจะต้องเป็นตัวบ้านหรืออาคารที่เซ็นสัญญากับบริษัทฯ และไม่ได้ต่อเติมเพิ่ม ซึ่งบริษัทฯ จะยึดหลักในการรับประกัน ดูแลบ้านน้ำท่วมจากสัญญาสร้างบ้านเป็นหลัก พร้อมกันนี้ยังได้จัดส่วนลดพิเศษอีก 10% โดยไม่จำกัดจำนวนหลัง โดยผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว จะต้องจองสร้างบ้านกับบริษัทฯ เฉพาะงาน “รับสร้างบ้าน Focus 2012” ระหว่างวันที่ 1-7 มีนาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว บริเวณชั้น G และทำสัญญาสร้างบ้านภายใน 60 วันนับจากวันจองสร้างบ้านเท่านั้น
“การออกแคมเปญดังกล่าวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า โดยไม่ต้องรอการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลที่ยังไม่มีความชัดเจนและไม่เป็นรูปธรรม แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศแนวนโยบายออกมาแล้วก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าโครงการต่างๆจะต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างอย่างน้อย 3 ปีจึงจะแล้วเสร็จ” นายสุธีกล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้การขยายตัวของตลาดรับสร้างบ้านจะมีประมาณ 10-20% จากกำลังซื้อสะสมนับจากเกิดน้ำท่วมในปีที่ผ่านมาและจะกลับสร้างบ้านในปีนี้อย่างแน่นอน ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจของไทยยังคาดว่าจะขยายตัวได้มากกว่าปี 2554 ขณะที่ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจยุโรปก็คลี่คลายลง ขณะที่แรงกดดันจากราคาวัสดุ น้ำมันและค่าแรงทยอยปรับขึ้นทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจสร้างบ้านเร็วขึ้น เพราะเกรงว่าหากสร้างบ้านช้าราคาก่อสร้างบ้านจะต้องแพงขึ้นมากอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มที่สร้างบ้านราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ได้พัฒนาออกแบบบ้านรุ่นใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 22 แบบ เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่ม มีทางเลือกเพิ่มขึ้น โดยเน้นงานดีไซน์ที่ทันสมัยและฟังก์ชั่นใช้งานที่เหมาะสมกับเทรนด์การอยู่อาศัยในปี 2555 แบบบ้านรุ่นใหม่ ประกอบด้วย แบบบ้านของ “บิวท์ ทู บิวด์” ที่พัฒนาขึ้นใหม่ จำนวน 8 แบบ ในชื่อ “Modern Retro By Built To Build” พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 300-500 ตารางเมตร ราคาปลูกสร้างเริ่มที่ 5-9 ล้านบาท ขณะที่ “บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์” มีแบบบ้านใหม่ จำนวน 8 แบบ ภายใต้ชื่อ “Bangkok Retro By Bangkok House Builder” พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 200-250 ตารางเมตร ราคา ปลูกสร้างเริ่มที่ 2-4 ล้านบาท และ “สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์” พัฒนาขึ้นใหม่อีก 8 แบบ ในชื่อ “New Series By Small House Builder” พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 90-180 ตารางเมตร ราคาปลูกสร้างเริ่มต้นที่ 1-2 ล้านบาท
สำหรับเป้ารายได้ในปีนี้ ทั้งกลุ่มวางไว้ที่ 900 ล้านบาท เติบโตประมาณ 30% จากปีในปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ประมาณ 700 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น “บิวท์ ทู บิวด์” 400 ล้านบาท “บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์” 300 ล้านบาท ขณะที่ “สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์” ตั้งเป้ารายได้เติบโตไว้ที่ 200 ล้านบาท เนื่องจากยังคงมีความต้องการเป็นจำนวนมาก และคาดว่ากำลังซื้อส่วนหนึ่งน่าจะมาจากกลุ่มผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านเก่าถูกน้ำท่วมหนัก และประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและฟื้นฟูแล้วไม่คุ้ม เมื่อเทียบกับการสร้างบ้านหลังใหม่ ดังนั้นจึงหันมาสร้างบ้านขนาดเล็กบนที่ดินเดิม ในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทแทน
