00 กลายเป็นเรื่องน่าชื่นใจขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำประกาศของ ประธานศาลรธน. วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ว่าต่อไปนี้จะเปิดกว้างให้สื่อถ่ายทอดสดการพิจารณาของศาล รธน.รวมไปถึงอนุญาตให้มีการเข้าไปรับฟังการพิจารณาคดีได้อย่างเปิดเผยเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้อย่างละเอียด นี่แหละต้องบอกว่า “เจ๋งจริง” เพราะทำให้ประชาชนได้พิจารณาคิดตามไปด้วย อาจจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่อาจนำไปบิดเบือนได้ง่าย ทั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่การพิจารณารับฟังคำชี้แจงของคู่กรณีระหว่างผู้ร้องให้ตีความ พรก.สองฉบับว่าขัด รธน.หรือไม่ คือ ฝ่ายค้านและวุฒิสมาชิกกับตัวแทนฝ่ายรัฐบาล ในวันพุธที่ 15 ก.พ. ก็ได้ลุ้นไปอีกแบบ
00 ถือว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ของศาล รธน.ที่เปิดกว้างอนุญาตให้ถ่ายทอดการพิจารณาคดีกันโดยตรงไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์วงจรปิดภายในเหมือนแต่ก่อน เพราะถึงอย่างไรมันก็ต้องเผยแพร่ออกมาภายนอกอยู่ดี แต่มักมีแต่เสียง ภาพก็ไม่ชัดฟังผิดๆถูกๆ บางทีเรื่องสำคัญก็เข้าใจผิด เพราะฟังและเห็นเบลอๆอู้อี้ ในเมื่อเป็นเรื่องสำคัญก็ปล่อยฟรีเต็มที่ไปเลย อีกมุมหนึ่งนี่คือการพัฒนาการของศาลไปอีกขั้นก็ได้นะ !!
00 มองในมุม กม.กันบ้างว่ากันว่าการตีความ 2 พรก.ดังกล่าวนี่แหละที่ทำให้รัฐบาลเริ่มหวั่นใจอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าสมมุติ สมมุตินะว่ามันขัด รธน.แล้วผลจะตามมาอย่างไร รัฐบาลต้องรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่ แม้ว่าจะไม่ได้เขียนบังคับเอาไว้ แต่ “ยางอาย” มันก็น่าจะมีกันบ้าง เพราะนี่คือกฎหมายการเงิน ทีนี้มาพูดกันถึงคนที่จะไปชี้แจง ฝ่ายรัฐบาลนั้นเลิกคิดไปได้เลยว่า นายกฯปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะไปศาล มีการออกตัวล่วงหน้าตั้งแต่แรกแล้วว่าจะส่ง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะ รมว.คลังไปแทน ส่วนฝ่ายค้านก็น่าจะเป็น กรณ์ จาติกวณิช ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงเป็นการดวลกันระหว่างดีกรีขุนคลังสองคน คอยฟังให้ดีก็แล้วกัน
00 กระบวนการแก้ไขรธน.ในส่วนของรัฐบาลก็เริ่มเดินแล้วเหมือนกัน ล่าสุดเป็นมติ ครม.เห็นชอบเสนอแก้ไข ม.291 เพื่อเปิดประตูเลือกตั้ง ส.ส.ร.จำนวน 77 คน ส่วนอีก 22 คนให้สภาสรรหามา จากนั้นเมื่อยกร่างเสร็จแล้วก็ให้มีการลงประชามติ ซึ่งก็แหงอยู่แล้วว่าผลจะออกมาอย่างไร ว่าล็อกสเป็กอย่างไร จะลากตั้งเข้ามาได้เท่าไหร่มันก็เห็นกันอยู่แล้ว นี่แหละเขาเรียกว่า “เสื้อคลุมประชาธิปไตย” ซึ่งจะว่าไปแล้วหลายคนเชื่อว่า ร่างรธน.เขาเตรียมเอาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่เก็บไว้ก่อนเท่านั้น และเที่ยวนี้อาจจะพิเศษหน่อยตรงที่ “อิมพอร์ตมาจากดูไบ” เท่านั้น ไม่เชื่อลองถามคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ดูก็ได้ว่าได้เห็นมาตราสำคัญแล้วหรือยัง
00 กระบวนการทั้งหลายทั้งปวงที่ทำกันอยู่นี้หากมองกันอย่างรู้ทันมันก็เป็นเพียงแค่พิธีกรรม ให้ดูสมจริงสมจังว่าเป็นประชาธิปไตย ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ทั้งที่หากถ่างตาดูสักนิดมันก็จะเห็นกระบวนการฉ้อฉล ทั้งข่มขู่ ซื้อเสียงสารพัดซึ่งมันก็แน่นอนว่ารู้ผลล่วงหน้าแล้วว่า ส.ส.ร.ในแต่ละจังหวัดส่วนใหญ่จะเป็นตัวแทนของพรรคใด ถ้าไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ถัดมาเมื่อให้สภาสรรหาอีก 22 คน ก็ในเมื่อเสียงส่วนใหญ่เป็นเพื่อไทยมันก็เดาไม่ยากว่าในจำนวนนั้นจะเป็นคนของพรรคใดมากที่สุด และเมื่อส่งให้ลงประชามติแบบมัดมือชก มันก็เสร็จหน้าเหลี่ยมนะซีพี่น้องจะลากไปทางไหนก็ได้ ทุด !!
00 ถือว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ของศาล รธน.ที่เปิดกว้างอนุญาตให้ถ่ายทอดการพิจารณาคดีกันโดยตรงไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์วงจรปิดภายในเหมือนแต่ก่อน เพราะถึงอย่างไรมันก็ต้องเผยแพร่ออกมาภายนอกอยู่ดี แต่มักมีแต่เสียง ภาพก็ไม่ชัดฟังผิดๆถูกๆ บางทีเรื่องสำคัญก็เข้าใจผิด เพราะฟังและเห็นเบลอๆอู้อี้ ในเมื่อเป็นเรื่องสำคัญก็ปล่อยฟรีเต็มที่ไปเลย อีกมุมหนึ่งนี่คือการพัฒนาการของศาลไปอีกขั้นก็ได้นะ !!
00 มองในมุม กม.กันบ้างว่ากันว่าการตีความ 2 พรก.ดังกล่าวนี่แหละที่ทำให้รัฐบาลเริ่มหวั่นใจอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าสมมุติ สมมุตินะว่ามันขัด รธน.แล้วผลจะตามมาอย่างไร รัฐบาลต้องรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่ แม้ว่าจะไม่ได้เขียนบังคับเอาไว้ แต่ “ยางอาย” มันก็น่าจะมีกันบ้าง เพราะนี่คือกฎหมายการเงิน ทีนี้มาพูดกันถึงคนที่จะไปชี้แจง ฝ่ายรัฐบาลนั้นเลิกคิดไปได้เลยว่า นายกฯปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะไปศาล มีการออกตัวล่วงหน้าตั้งแต่แรกแล้วว่าจะส่ง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะ รมว.คลังไปแทน ส่วนฝ่ายค้านก็น่าจะเป็น กรณ์ จาติกวณิช ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงเป็นการดวลกันระหว่างดีกรีขุนคลังสองคน คอยฟังให้ดีก็แล้วกัน
00 กระบวนการแก้ไขรธน.ในส่วนของรัฐบาลก็เริ่มเดินแล้วเหมือนกัน ล่าสุดเป็นมติ ครม.เห็นชอบเสนอแก้ไข ม.291 เพื่อเปิดประตูเลือกตั้ง ส.ส.ร.จำนวน 77 คน ส่วนอีก 22 คนให้สภาสรรหามา จากนั้นเมื่อยกร่างเสร็จแล้วก็ให้มีการลงประชามติ ซึ่งก็แหงอยู่แล้วว่าผลจะออกมาอย่างไร ว่าล็อกสเป็กอย่างไร จะลากตั้งเข้ามาได้เท่าไหร่มันก็เห็นกันอยู่แล้ว นี่แหละเขาเรียกว่า “เสื้อคลุมประชาธิปไตย” ซึ่งจะว่าไปแล้วหลายคนเชื่อว่า ร่างรธน.เขาเตรียมเอาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่เก็บไว้ก่อนเท่านั้น และเที่ยวนี้อาจจะพิเศษหน่อยตรงที่ “อิมพอร์ตมาจากดูไบ” เท่านั้น ไม่เชื่อลองถามคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ดูก็ได้ว่าได้เห็นมาตราสำคัญแล้วหรือยัง
00 กระบวนการทั้งหลายทั้งปวงที่ทำกันอยู่นี้หากมองกันอย่างรู้ทันมันก็เป็นเพียงแค่พิธีกรรม ให้ดูสมจริงสมจังว่าเป็นประชาธิปไตย ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ทั้งที่หากถ่างตาดูสักนิดมันก็จะเห็นกระบวนการฉ้อฉล ทั้งข่มขู่ ซื้อเสียงสารพัดซึ่งมันก็แน่นอนว่ารู้ผลล่วงหน้าแล้วว่า ส.ส.ร.ในแต่ละจังหวัดส่วนใหญ่จะเป็นตัวแทนของพรรคใด ถ้าไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ถัดมาเมื่อให้สภาสรรหาอีก 22 คน ก็ในเมื่อเสียงส่วนใหญ่เป็นเพื่อไทยมันก็เดาไม่ยากว่าในจำนวนนั้นจะเป็นคนของพรรคใดมากที่สุด และเมื่อส่งให้ลงประชามติแบบมัดมือชก มันก็เสร็จหน้าเหลี่ยมนะซีพี่น้องจะลากไปทางไหนก็ได้ ทุด !!
