00 ทำเอาชาวบ้านชาวช่อง “หูผึ่ง” กันไปตามคาดหมาย หลังจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ.อดีตเจ้าพ่อ “แชร์ชาเตอร์” เอกยุทธ อัญชันบุตร ปล่อยภาพที่ตัวเองถูกชกหน้าจนมีร่องรอยฟกช้ำเห็นอย่างชัดเจน พร้อมทั้งบอกใบ้ว่า ถูกชกหลังที่เห็น “นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่โรงแรมโฟร์ซีซันไม่นาน ความหมายก็คือ ถูกชกหลังจากเธอคล้อยหลังไป จากนั้นก็นัดแถลงข่าวในตอนเย็นวันเดียวกัน ขยายความเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง ทำนองว่าเห็นเธอ “หายเข้าไป” ในโรงแรม เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. กลับออกมาเวลา 16.00 น. แถมยังระบุเสร็จสรรพอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าในช่วงเวลาดังกล่าว มีการแจ้งเป็น “ภารกิจส่วนตัว”
00 เอกยุทธเจ้าเก่ายังบอกว่า ให้เวลาทั้ง เฉลิม อยู่บำรุง ที่คุมตำรวจ และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ภายใน 1 วัน ให้ดำเนินคดีกับคนที่อ้างว่าเป็นนายตำรวจคนสนิท ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นคนลงมือทำร้าย ไม่งั้นจะแฉเพิ่มเติมเป็นรายวันออกมาเรื่อยๆ ได้ยินอย่างนี้ ในฐานะที่ชอบสู่รู้เรื่องชาวบ้าน ใจหนึ่งอยากให้ “เหลิม และผบ.ตร.” อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร เพราะจะได้รู้จากปากเอกยุทธ เสียทีว่ามันมีสาเหตุจากเรื่องอะไรกันแน่ และที่สำคัญ นายกฯปู “ไปทำอะไรที่นั่น” และ “ไปหาใครเป็นการส่วนตัว” ที่สำคัญเธอไปจริงหรือเปล่า ส่วนเรื่องที่เอกยุทธโดนชก น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่นอน แต่เป็นเพราะอะไร เป็นเพราะ “ปากมาก” หรือเปล่า อยากรู้จริงๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ “แมงเมาท์” อยากรู้วุ้ย !!
00 ดูจากสัญญาณแล้ว เชื่อว่าหลังจากวันที่ 29 ก.พ.นี้ รัฐบาลจะต้องไฟเขียวหันมาเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันอีกรอบแน่นอน โดยจะเก็บทั้งเบนซิน และดีเซล ส่วนจะเก็บแบบล็อตใหญ่รวดเดียว ลิตรละ 5 บาท หรือแบบทยอยปรับครั้งละบาทจนครบ เตรียมชงให้ รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง พิจารณาก่อนในเร็วๆ นี้ แต่ดูตามแนวโน้มแล้วน่าจะออกมาแบบอย่างหลังมากกว่า เพื่อไม่ให้ชาวบ้านช็อก แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันก็ไม่ต่างกัน เพราะในที่สุดแล้วก็ต้องตายอยู่ดี แต่จะตายช้าตายเร็วเท่านั้นแหละน่า และเรื่องราคาน้ำมันนี่แหละ ถือว่าเป็นข่าวร้ายสุดสุด !!
00 เอาเป็นว่าราคาน้ำมันเป็นต้นตอสำคัญทำให้ค่าครองชีพ ราคาสินค้า ค่าขนส่งแพงหูดับตับไหม้ นาทีนี้ เชื่อว่า “ปูเอาไม่อยู่” แน่นอน และคำพูดที่บอกว่ารัฐบาลนี้เอาใจบริษัทน้ำมัน โดยเฉพาะ ปตท.ผิดปกติมากกว่าเห็นใจชาวบ้านรากหญ้า ก็เห็นจะจริง และในฐานะที่กระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ในรัฐวิสาหกิจดังกล่าว มันไม่มีน้ำหนักไปทัดทานอะไรได้เลยเรอะ... เวรกรรม!!
00 เวลานี้ไม่รู้จะไปหากินข้าวผัดกระเพราหมู-ไก่ ในราคาแนะนำจานละ 25 บาทของกระทรวงพาณิชย์ ยุค บุญทรง เตริยาภิรมย์ ได้ที่ไหนบ้าง เพราะหันไปทางไหน มีแต่พุ่งกระฉูด ราคาไม่ต่ำกว่าจานละ 30 บาท และถ้าวันไหนนึกสนุกอยากเพิ่มไข่ดาว ก็ซัดเข้าไป 40 บาท โอ แม่เจ้า นี่หรือจะกระชากค่าครองชีพลงมา ทุด !!
00 คงจะรู้รสชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า บางครั้งการอัพเกรดขึ้นมาเป็น “อำมาตย์” นั้นมันไม่ง่าย และยิ่งเข้ามายืนอยู่ในที่แจ้ง มีแสงส่องเข้ามา มันก็เริ่มเห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเรื่อยๆ อย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ที่กำลังถูกฝ่ายค้านยื่นสอบกรณีถือหุ้นในบริษัทที่รับงานว่าจ้างปรึกษาด้านมวลชนสัมพันธ์กว่า 14 สัญญามูลค่าหลายสิบล้านบาท มันก็ไม่ธรรมดา และงานนี้สาวไปสาวมา อาจได้เจออะไรดีๆตามมาอีก ก็ดีเหมือนกัน ที่ผ่านมาปากดีนัก ในทางตรงข้ามถูกตรวจสอบบ้าง ชาวบ้านก็ได้ประโยชน์ ได้รู้ความจริงว่า ใครโกหก ใครใช้มวลชนหาประโยชน์ทำมาหากิน !!
00 เอกยุทธเจ้าเก่ายังบอกว่า ให้เวลาทั้ง เฉลิม อยู่บำรุง ที่คุมตำรวจ และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ภายใน 1 วัน ให้ดำเนินคดีกับคนที่อ้างว่าเป็นนายตำรวจคนสนิท ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นคนลงมือทำร้าย ไม่งั้นจะแฉเพิ่มเติมเป็นรายวันออกมาเรื่อยๆ ได้ยินอย่างนี้ ในฐานะที่ชอบสู่รู้เรื่องชาวบ้าน ใจหนึ่งอยากให้ “เหลิม และผบ.ตร.” อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร เพราะจะได้รู้จากปากเอกยุทธ เสียทีว่ามันมีสาเหตุจากเรื่องอะไรกันแน่ และที่สำคัญ นายกฯปู “ไปทำอะไรที่นั่น” และ “ไปหาใครเป็นการส่วนตัว” ที่สำคัญเธอไปจริงหรือเปล่า ส่วนเรื่องที่เอกยุทธโดนชก น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่นอน แต่เป็นเพราะอะไร เป็นเพราะ “ปากมาก” หรือเปล่า อยากรู้จริงๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ “แมงเมาท์” อยากรู้วุ้ย !!
00 ดูจากสัญญาณแล้ว เชื่อว่าหลังจากวันที่ 29 ก.พ.นี้ รัฐบาลจะต้องไฟเขียวหันมาเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันอีกรอบแน่นอน โดยจะเก็บทั้งเบนซิน และดีเซล ส่วนจะเก็บแบบล็อตใหญ่รวดเดียว ลิตรละ 5 บาท หรือแบบทยอยปรับครั้งละบาทจนครบ เตรียมชงให้ รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง พิจารณาก่อนในเร็วๆ นี้ แต่ดูตามแนวโน้มแล้วน่าจะออกมาแบบอย่างหลังมากกว่า เพื่อไม่ให้ชาวบ้านช็อก แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันก็ไม่ต่างกัน เพราะในที่สุดแล้วก็ต้องตายอยู่ดี แต่จะตายช้าตายเร็วเท่านั้นแหละน่า และเรื่องราคาน้ำมันนี่แหละ ถือว่าเป็นข่าวร้ายสุดสุด !!
00 เอาเป็นว่าราคาน้ำมันเป็นต้นตอสำคัญทำให้ค่าครองชีพ ราคาสินค้า ค่าขนส่งแพงหูดับตับไหม้ นาทีนี้ เชื่อว่า “ปูเอาไม่อยู่” แน่นอน และคำพูดที่บอกว่ารัฐบาลนี้เอาใจบริษัทน้ำมัน โดยเฉพาะ ปตท.ผิดปกติมากกว่าเห็นใจชาวบ้านรากหญ้า ก็เห็นจะจริง และในฐานะที่กระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ในรัฐวิสาหกิจดังกล่าว มันไม่มีน้ำหนักไปทัดทานอะไรได้เลยเรอะ... เวรกรรม!!
00 เวลานี้ไม่รู้จะไปหากินข้าวผัดกระเพราหมู-ไก่ ในราคาแนะนำจานละ 25 บาทของกระทรวงพาณิชย์ ยุค บุญทรง เตริยาภิรมย์ ได้ที่ไหนบ้าง เพราะหันไปทางไหน มีแต่พุ่งกระฉูด ราคาไม่ต่ำกว่าจานละ 30 บาท และถ้าวันไหนนึกสนุกอยากเพิ่มไข่ดาว ก็ซัดเข้าไป 40 บาท โอ แม่เจ้า นี่หรือจะกระชากค่าครองชีพลงมา ทุด !!
00 คงจะรู้รสชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า บางครั้งการอัพเกรดขึ้นมาเป็น “อำมาตย์” นั้นมันไม่ง่าย และยิ่งเข้ามายืนอยู่ในที่แจ้ง มีแสงส่องเข้ามา มันก็เริ่มเห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเรื่อยๆ อย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ที่กำลังถูกฝ่ายค้านยื่นสอบกรณีถือหุ้นในบริษัทที่รับงานว่าจ้างปรึกษาด้านมวลชนสัมพันธ์กว่า 14 สัญญามูลค่าหลายสิบล้านบาท มันก็ไม่ธรรมดา และงานนี้สาวไปสาวมา อาจได้เจออะไรดีๆตามมาอีก ก็ดีเหมือนกัน ที่ผ่านมาปากดีนัก ในทางตรงข้ามถูกตรวจสอบบ้าง ชาวบ้านก็ได้ประโยชน์ ได้รู้ความจริงว่า ใครโกหก ใครใช้มวลชนหาประโยชน์ทำมาหากิน !!