ASTVผู้จัดการรายวัน-"บิ๊กอ๊อด"ตั้งกรรมการสอบยิง 4 ศพที่ปัตตานี คาด 1 เดือนรู้ผล ยันหากเจ้าหน้าที่ทำผิดหรือเกินกว่าเหตุ พร้อมเยียวยา ขณะที่กมธ.ปรองดอง ถกปัญหาไฟใต้ ชี้รัฐเสียมวลชน ทำให้แก้ปัญหาได้ยาก เตรียมส่งอนุกมธ.ลงพื้นที่ปัตตานี 10 ก.พ.นี้ ล่าสุดโจรใต้ลอบกัด ดักยิงตำรวจไม้แก่น ขณะกลับจาก รปภ.ครูดับ 1 นายและยิงชาวบ้านนราธิวาสดับอีก 2 ศพเจ็บ 1 ราย
พล.อ.ยุทธ์ศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ทหารพรานใช้อาวุธสงครามยิงชาวบ้านที่หนองจิก เสียชีวิต 4 ราย เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความถูกต้องอยู่ ตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งสิ้นสุดเหตุการณ์ว่าขั้นตอนการดำเนินการ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ได้มีการตรวจสอบหลักฐานที่เป็นพยานบุคคล และวัตถุพยานต่างๆ ด้วย ก็จะให้ความยุติธรรม ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (กอ.รมน.) ส่วนการตั้งคณะกรรมพิเศษที่ประกอบด้วยพลเรือน และทหาร ก็กำลังตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนกรณีนี้ เพื่อให้ได้ผลของการสอบสวนว่าเป็นอย่างไร สำหรับการเสียชีวิตของทั้ง 4 รายว่าเป็นการกระทำของทหารพรานในเหตุการณ์วันนั้นหรือไม่ เพื่อที่จะได้รับการเยียวยาต่อไป คาดการสอบสวนคงจะเรียบร้อยภายใน 1 เดือน
เมื่อถามว่า หากเทียบเคียงสถานการณ์ที่ผ่านมา มันจะมีสาเหตุเกิดก่อนที่จะนำไปสู่ปัญหา พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า มันจะเกิดสถานการณ์เผชิญหน้าก่อน ซึ่งจะต้องระวังตัว และจะนำมาพิจารณาในคณะกรรมการทั้งหมด เพราะสถานการณ์เผชิญหน้าเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ทราบว่า อะไรจะเกิดขึ้นในเป้าหมายนั้นๆ เพราะมีความเคลื่อนไหวตามรายงาน ถ้าเข้าไปโดยไม่ระมัดระวังตัว ก็จะทำให้เกิดการสูญเสีย ซึ่งเห็นกลุ่มก่อความไม่สงบมีการฉวยโอกาสตลอดเวลา อย่างสถานการณ์เมื่อคืนวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา มีการยิงประชาชนเสียชีวิตที่นราธิวาส 1 ศพ และปัตตานี 1 ศพ
เมื่อถามว่า หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ กลายเป็นปัจจัยทำให้เกิดการเรียกร้องหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า หากเจ้าหน้าที่ทำผิด หรือทำเกินกว่าเหตุ ก็ควรก็จะมีให้การเยียวยา แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมา ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ในความเห็นส่วนตัว 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะมีการพิจารณาให้การเยียวยา เพราะบางอย่างเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่เราเอง
เมื่อถามว่า บางฝ่ายเห็นว่า วงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือมีจำนวนมาก สมควรแก่เหตุหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการที่รับผิดชอบเรื่องนี้ คงจะพิจารณาให้เหมาะสม
ที่รัฐสภา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ (กมธ.ปรองดอง) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุมว่า กมธ.ได้มีการหารือถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่ามีต้นเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร โดยได้นำข้อเท็จจริงมาคุยกัน โดยกมธ.ในส่วนของส.ส.ภาคอีสาน มีความเห็นว่า ในการส่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐ โดยเฉพาะทหารลงไปในพื้นที่ ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรมของท้องถิ่น จึงเห็นว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวควรให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหน้าทีมพร้อมกับน้อมนำยุทธศาสตร์หลักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ลงไป แต่ปัญหา ณ ตอนนี้อยู่ที่เรายังไม่เข้าใจคำว่า เข้าใจ คือ อะไร
ทั้งนี้ในวันที่ 10 ก.พ. คณะอนุกมธ.ภาคใต้ ที่มีพล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน จะลงไปที่จ.ปัตตานีเพื่อพบผู้ว่าราชการจังหวัด กอ.รมน. และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 03.50 น.วานนี้ (7 ก.พ.) ร.ต.ท.พงษ์เอก จันตา ร้อยเวร สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บบนถนนภายในหมู่บ้านบือราแง หมู่ 3 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พีรพล ณ พัทลุง ผกก.สภ.สุไหงปาดี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโนวา สีแดง ทะเบียน ท-3538 นราธิวาส ที่ล้มตะแคงอยู่ ทราบชื่อคือนายวิทยา รัตนกุล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 1 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี เป็นนักการภารโรงโรงเรียนมัธยมสุไหงปาดี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ที่กลางหลัง 3 นัด
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลสุไหงปาดีไปก่อนหน้าแล้วคือ นางวรรณา รัตนกุล อายุ 48 ปีภรรยาของผู้ตายถูกยิงด้วยกระสุนปืนชนิดเดียวกันที่ขา น่อง และสะโพก รวม 3 นัดอาการสาหัสแพทย์ได้นำตัวส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
ต่อมาเวลา 05.20 น.ร.ต.ท.ณรรฐพงษ์ มัคเจริญ ร้อยเวร สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตภายในร้านน้ำชาไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จึงกำลังลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตคือ นายอาซิ มะซีละ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 2 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร ถูกยิงด้วยกระสุนปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ที่หน้าอก 2 นัด
เวลา 17.00 น.คนร้ายได้ลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณถนนสายชนบท บ้านทิศหมาน ม.2 ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เสียชีวิต 1 นาย คือ ด.ต.จำลอง นิลสุวรรณ อายุ 42 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.ไม้แก่น เหตุเกิดขณะที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์กลับมาจากรักษาความปลอดภัยครูช่วงเลิกเรียน โดยมี ร.ต.ท.จรัส โสภิญโญ รอง สวป.เป็นหัวหน้าชุด และพวกรวม 5 นาย ปรากฏว่า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ข้างทางใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่จนต้องหักหลบจนรถเสียหลัก เจ้าหน้าที่ได้ระดมยิงตอบโต้คนร้ายจนหลบหนีเข้าไปในป่า หลังเกิดเหตุปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สุนทร ขวัญเพ็ชร ผกก.สภ.ไม้แก่น ได้สั่งการให้สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่ายกระจายกำลังออกไล่ล่าคนร้าย และปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุทันที เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่สร้างสถานการณ์
พล.อ.ยุทธ์ศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ทหารพรานใช้อาวุธสงครามยิงชาวบ้านที่หนองจิก เสียชีวิต 4 ราย เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความถูกต้องอยู่ ตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งสิ้นสุดเหตุการณ์ว่าขั้นตอนการดำเนินการ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ได้มีการตรวจสอบหลักฐานที่เป็นพยานบุคคล และวัตถุพยานต่างๆ ด้วย ก็จะให้ความยุติธรรม ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (กอ.รมน.) ส่วนการตั้งคณะกรรมพิเศษที่ประกอบด้วยพลเรือน และทหาร ก็กำลังตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนกรณีนี้ เพื่อให้ได้ผลของการสอบสวนว่าเป็นอย่างไร สำหรับการเสียชีวิตของทั้ง 4 รายว่าเป็นการกระทำของทหารพรานในเหตุการณ์วันนั้นหรือไม่ เพื่อที่จะได้รับการเยียวยาต่อไป คาดการสอบสวนคงจะเรียบร้อยภายใน 1 เดือน
เมื่อถามว่า หากเทียบเคียงสถานการณ์ที่ผ่านมา มันจะมีสาเหตุเกิดก่อนที่จะนำไปสู่ปัญหา พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า มันจะเกิดสถานการณ์เผชิญหน้าก่อน ซึ่งจะต้องระวังตัว และจะนำมาพิจารณาในคณะกรรมการทั้งหมด เพราะสถานการณ์เผชิญหน้าเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ทราบว่า อะไรจะเกิดขึ้นในเป้าหมายนั้นๆ เพราะมีความเคลื่อนไหวตามรายงาน ถ้าเข้าไปโดยไม่ระมัดระวังตัว ก็จะทำให้เกิดการสูญเสีย ซึ่งเห็นกลุ่มก่อความไม่สงบมีการฉวยโอกาสตลอดเวลา อย่างสถานการณ์เมื่อคืนวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา มีการยิงประชาชนเสียชีวิตที่นราธิวาส 1 ศพ และปัตตานี 1 ศพ
เมื่อถามว่า หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ กลายเป็นปัจจัยทำให้เกิดการเรียกร้องหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า หากเจ้าหน้าที่ทำผิด หรือทำเกินกว่าเหตุ ก็ควรก็จะมีให้การเยียวยา แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมา ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ในความเห็นส่วนตัว 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะมีการพิจารณาให้การเยียวยา เพราะบางอย่างเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่เราเอง
เมื่อถามว่า บางฝ่ายเห็นว่า วงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือมีจำนวนมาก สมควรแก่เหตุหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการที่รับผิดชอบเรื่องนี้ คงจะพิจารณาให้เหมาะสม
ที่รัฐสภา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ (กมธ.ปรองดอง) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุมว่า กมธ.ได้มีการหารือถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่ามีต้นเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร โดยได้นำข้อเท็จจริงมาคุยกัน โดยกมธ.ในส่วนของส.ส.ภาคอีสาน มีความเห็นว่า ในการส่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐ โดยเฉพาะทหารลงไปในพื้นที่ ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรมของท้องถิ่น จึงเห็นว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวควรให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหน้าทีมพร้อมกับน้อมนำยุทธศาสตร์หลักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ลงไป แต่ปัญหา ณ ตอนนี้อยู่ที่เรายังไม่เข้าใจคำว่า เข้าใจ คือ อะไร
ทั้งนี้ในวันที่ 10 ก.พ. คณะอนุกมธ.ภาคใต้ ที่มีพล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน จะลงไปที่จ.ปัตตานีเพื่อพบผู้ว่าราชการจังหวัด กอ.รมน. และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 03.50 น.วานนี้ (7 ก.พ.) ร.ต.ท.พงษ์เอก จันตา ร้อยเวร สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บบนถนนภายในหมู่บ้านบือราแง หมู่ 3 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พีรพล ณ พัทลุง ผกก.สภ.สุไหงปาดี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโนวา สีแดง ทะเบียน ท-3538 นราธิวาส ที่ล้มตะแคงอยู่ ทราบชื่อคือนายวิทยา รัตนกุล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 1 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี เป็นนักการภารโรงโรงเรียนมัธยมสุไหงปาดี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ที่กลางหลัง 3 นัด
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลสุไหงปาดีไปก่อนหน้าแล้วคือ นางวรรณา รัตนกุล อายุ 48 ปีภรรยาของผู้ตายถูกยิงด้วยกระสุนปืนชนิดเดียวกันที่ขา น่อง และสะโพก รวม 3 นัดอาการสาหัสแพทย์ได้นำตัวส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
ต่อมาเวลา 05.20 น.ร.ต.ท.ณรรฐพงษ์ มัคเจริญ ร้อยเวร สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตภายในร้านน้ำชาไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จึงกำลังลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตคือ นายอาซิ มะซีละ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 2 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร ถูกยิงด้วยกระสุนปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ที่หน้าอก 2 นัด
เวลา 17.00 น.คนร้ายได้ลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณถนนสายชนบท บ้านทิศหมาน ม.2 ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เสียชีวิต 1 นาย คือ ด.ต.จำลอง นิลสุวรรณ อายุ 42 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.ไม้แก่น เหตุเกิดขณะที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์กลับมาจากรักษาความปลอดภัยครูช่วงเลิกเรียน โดยมี ร.ต.ท.จรัส โสภิญโญ รอง สวป.เป็นหัวหน้าชุด และพวกรวม 5 นาย ปรากฏว่า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ข้างทางใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่จนต้องหักหลบจนรถเสียหลัก เจ้าหน้าที่ได้ระดมยิงตอบโต้คนร้ายจนหลบหนีเข้าไปในป่า หลังเกิดเหตุปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สุนทร ขวัญเพ็ชร ผกก.สภ.ไม้แก่น ได้สั่งการให้สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่ายกระจายกำลังออกไล่ล่าคนร้าย และปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุทันที เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่สร้างสถานการณ์