ยะลา - สภาที่ปรึกษา ศอ.บต. ออกแถลงการณ์กรณี 4 ศพ ปัตตานี ชี้หากเจ้าหน้าที่กระทำผิดจริง ก็ต้องออกมายอมรับผิด และต้องนำความจริงตีแผ่ต่อญาติผู้เสียชีวิต และประชาชนในพื้นที่ทราบ โดยจะตั้งคณะกรรมการอีกชุดหนึ่งเฝ้าติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด เพื่อนำความจริงสู่สาธารณะชน
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศรียะลา ชั้น 3 อาคารศาลากลางจังหวัดยะลา เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ได้มีการประชุมสมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยมี นายอาซิส เบ็ญหาวัน ประธานที่ปรึกษาฯ ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม โดยมีการประชุมมีการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ และการพัฒนาพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งในเรื่องที่สภาที่ปรึกษาฯ ให้ความสำคัญในการประชุมในครั้งนี้ คือ กรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.4302 ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่หมู่ที่ 3 บ้านน้ำดำ ต.ปุโล๊ะปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้ออกปฏิบัติการสกัดกั้นคนร้ายก่อเหตุยิงฐานทหารพรานที่บริเวณบ้านกาหยี หมู่ที่ 1 ต.ปุโล๊ะปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเกิดการใช้อาวุธปืนยิงรถยนต์ต้องสงสัย จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านที่อาศัยมาในรถ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที รวม 4 ศพ และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 4 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 ม.ค.55 ที่ผ่านมา
โดยภายหลังเสร็จสิ้นจากการประชุม ทางสภาที่ปรึกษาการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดย นายอาซิส เบ็ญหาวัน ประธานที่ปรึกษา ฯ พร้อมด้วย นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย /สมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ(ด้านสื่อมวลชน) และ นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ /สมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ (ด้านสิทธิมนุษยชน) ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นว่า
โดยก่อนหน้านี้ ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ออกมาแถลงชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางกระแสวิภาควิจารณ์ในหลายหลากหลายความคิดของชาวบ้านในพื้นที่ และญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ศพ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และต้องให้ความกระจ่างแก่สังคม
ซึ่งจากการพิจารณาของสภาที่ปรึกษา ฯ เห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยามวลชนและความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ ภาครัฐเองต้องเร่งดำเนินการคลี่คลายปัญหาดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามบานปลายจนยากต่อการแก้ไข และทางสภาที่ปรึกษาฯ ได้มีมติแถลงการณ์ร่วมกัน 5 ข้อ คือ
1)กองทัพต้องแสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่กล่าวโทษผู้เสียชีวิต และ ผู้ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งไม่ควรด่วนสรุปก่อนที่จะมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง หากปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ ต้องมีการขอโทษอย่างเร่งด่วน และต้องนำคนผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม
2)ต้องมีการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน 3)ให้เปลี่ยนทหารประจำการแทนทหารพราน โดยให้นำทหารจากกองทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ที่เข้าใจในสถานการณ์ วิถีวิชิต และวัฒนธรรมของประชาชนในพื้นที่
4)เสริมบทบาทของพนักงานฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ อาสาสมัครและ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เกิดความเข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพ โดยมีทหารเป็นผู้ให้การสนับสนุน 5)สภาที่ปรึกษาฯ มีหลักการเพื่อสนับสนุนประชาชนในการเข้าถึงความจริง และความยุติธรรม เพื่อนำสันติสุขกลับคืนสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ ทางสภาที่ปรึกษาฯ จะมีการแต่งตั้งกรรมการชุดหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเป็นระยะ ทั้งเจ้าพนักงานสอบสวนที่แต่งตั้งโดยจังหวัด หรือเจ้าพนักงานสอบสวนข้อเท็จจริงที่แต่งตั้งโดยฝ่ายทหาร และจะนำข้อมูลผลการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงทางนิติวิทยาศาสตร์มาเผยแพร่ให้กับพี่สื่อมวลชน และน้องประชาชนทั่วประเทศ ได้รับทราบต่อไป