xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กอ๊อด"ผวาไฟใต้ปะทุ-จี้มทภ.4เคลียร์ญาติ4ศพ-โจรยิงทพ.ปัตตานีดับ1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - "บิ๊กอ๊อด" หวั่นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบฉวยโอกาสราดน้ำมันจุด “ไฟใต้” เร่งส่ง “มทภ.4” ลงเคลียร์ญาติเหยื่อ 4 ศพปัตตานี พร้อมเยี่ยวยาเต็มที่ "รมว.กลาโหม" ลั่นทหารเป็นลูกผู้ชายต้องรับผิดชอบ ถ้าทำเกินกว่าเหตุดำเนินการตามกฎหมาย ด้านศูนย์ทนายมุสลิมจี้ทหารรับผิดชอบ จวกโฆษก กอ.รทน.ออกมาแถลงโดยไม่สนใจข้อเท็จจริงอีกด้านของผู้ที่รอดชีวิต ด้านโจรใต้ตอบโต้ยิ่งทหารพรานปัตตานีดับ 1 นาย

วานนี้ (1 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาลถึงเหตุยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารพราน กับกลุ่มชาวบ้านที่คาดว่าจะเป็นคนร้าย จนเป็นเหตุทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บอีก 5 คน ในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานีว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการหาข้อเท็จจริงอยู่ เราจะไม่พูดก่อน แต่จะให้ กอ.รมน.ภาค 4 รายงานขึ้นมา ซึ่งอยู่ในช่วงดำเนินการและยังไม่ได้รายงานขึ้นมา ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงไปพูดคุยทำความเข้าใจกับครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้ว หากเจ้าหน้าที่ทหารผิดจริงก็จะต้องดูแลเยียวยา ทำให้ทุกคนเกิดความสบายใจขึ้น ซึ่งตนรู้สึกว่าจะไม่มีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเกิดเรื่องลักษณะนี้มักมีคนฉวยโอกาสในการดำเนินงานในแง่จิตวิทยา พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ต้องระวังหลายๆทาง ทั้งในเรื่องของจิตวิทยา และการดูแลไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น โดยจะต้องให้แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นคนดำเนินการ แต่เชื่อว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ก็มีเหตุปะทะกันเกิดขึ้นใน จ.นราธิวาส และยะลา จนมีทหารและพลเรือนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นประจำวัน ซึ่งเราจะต้องระมัดระวังกันทุกทาง

เมื่อถามว่า จะได้ข้อสรุปเรื่องผู้เสียชีวิต 4 ราย เมื่อใด พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า จะสรุปมาให้เร็วที่สุด คิดว่าน่าจะเป็นไปในทางที่ดี และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการใช้ภาพจิตวิทยานำไปฉวยโอกาสในทางอื่นจนเกิดความไม่เข้าใจเกิดขึ้น เพราะภาพรวมในพื้นที่ดีขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมันก็จะขยายภาพจนใหญ่ขึ้น

เมื่อถามว่า มีการตั้งคำถามกันว่าเหตุใดในรถกระบะที่เกิดเหตุจึงมีอาวุธสงคราม รองนายกฯ กล่าวว่า ใช่ เพราะมีอาวุธสงครามอยู่ในรถด้วย เป็นเรื่องที่กำลังสอบสวนกันอยู่ ยืนยันว่าเร็วๆนี้คงจะได้รับรายงาน

**"รมว.กลาโหม"ย้ำเยียวยาเหยื่อเต็มที่

ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า รู้สึกเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ แต่ถึงอย่างไรก็อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดและจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

"ส่วนตัวเชื่อว่า ทหารเป็นลูกผู้ชายหากทำเกินกว่าเหตุ ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น และที่ผ่านมาทหารได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายใต้ขอบเขตมาโดยตลอด และทหารจะเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ จึงไม่สามารถเลือกได้ว่าจะโดนโจมตีในเวลาใด ดังนั้น ทหารจึงต้องมีความพร้อมในด้านยุทธวิธี และเพิ่มความระมัดระวังตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ผมได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าวแล้ว และเห็นตรงกันว่า หากทหารผิดจริง ก็ต้องรับผิดชอบตามกระบวนการทางกฎหมาย"

**มทภ.4เร่งเยียวยายิงชาวบ้าน2แนวทาง

ทางด้าน พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ระบุถึงการหารือระหว่าง พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กับญาติผู้เสียชีวิตเหตุทหารพรานใช้อาวุธปืนยิงใส่รถชาวบ้านที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า มีข้อสรุปตรงกันที่จะเร่งเยียวยาผู้เสียหาย ซึ่งมี 2 แนวทางคือ การเยียวยาตามแนวทางของกระทรวงมหาดไทย และการเยียวยาจากกองทัพ หลังทราบว่า เกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ต้องรอผลการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ของอาวุธปืนที่ยังไม่ได้ข้อสรุป

**ผู้ว่าฯสั่งย้ายทหารพรานออกจากพื้นที่

นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในเบื้องต้นได้ขอให้ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ย้ายทหารพรานชุดดังกล่าวออกนอกพื้นที่และให้ทหารชุดอื่นมาอยู่แทนเพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ ขณะเดียวกันได้ให้แนวทางการทำงานในพื้นที่ว่าให้ทุกคนปฏิบัติงานอย่างโปร่งใสเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ที่ได้รับความเสียหายอย่างเป็นธรรม เน้นย้ำไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง ทุกอย่างต้องโปร่งใส ซื่อสัตย์ และตอบคำถามพี่น้องประชาชนได้ทุกเรื่อง เพื่อปัตตานีสันติสุข

ขณะนี้เพื่อให้ชาวบ้านได้สบายใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมา 1 ชุด นอกเหนือจากฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ จะให้คนกลาง คือ อัยการ และตัวแทนภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมมากที่สุด

ส่วนการช่วยเหลือได้มอบเงินให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย มอบเงิน 1 หมื่นบาท และได้รับบาดเจ็บที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี 3 รายอีกรายละ 3 หมื่นบาท ได้แก่นายซอปรี บือราเฮง อายุ 20 ปี และนายมะแอ ดอเลาะ อายุ 74 ปี อาการสาหัสพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ไอซียู และ ด.ช. มะรูดิง แวกาจิ อายุ 15 ปีที่ยังนอนพักรักษาตัวในห้องพักรวมของคนไข้

**ตร.เร่งตรวจสอบอาวุธปืนในรถ4ศพ

พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานแล้ว 3 ปากและจะสืบพยานต่อไปอีก โดยเฉพาะผู้ได้รับบาดเจ็บและเจ้าหน้าที่ทหารพราน ส่วนรถยนต์คันเกิดเหตุชุดพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจร่องรอยของรูกระสุน ซึ่งเป็นหลักฐานหนึ่งที่จะเปรียบเทียบของอาวุธปืนที่ใช้ยิง เช่นเดียวกับอาวุธปืนอาก้า และขนาด .45 ที่พบภายในรถยนต์ได้นำไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดยะลาแล้ว

**ศูนย์ทนายฯมุสลิมจี้ทหารรับผิดชอบ
 

ขณะที่ด้านมูลนิธิศูนย์ทนายมุสลิมได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีที่เกิดขึ้นว่า โดยทางมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมในฐานะองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวและขอประณามผู้ที่กระทำจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ ทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหาย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นข้อมูลในพื้นที่จากการสอบข้อเท็จจริงจากผู้อยู่ที่ร่วมในเหตุการณ์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่แตกต่างกับทางโฆษก กอ.รมน.ที่ได้มีการแถลงทางสื่อมวลชน มูลนิธิศูนย์ฯ จึงขอเรียกร้องให้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ พิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังมีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ยังมีผู้รอดชีวิตอยู่ และได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงที่ยังมีความรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์และความปลอดภัยของตนเอง ซึ่งบุคคลเหล่านั้นล้วนเป็นบุคคลที่มีอายุมากและเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์

การที่หน่วยงานของรัฐรีบด่วนออกมาแถลง และสรุปโดยรับฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติฝ่ายเดียวย่อมไม่เป็นธรรมต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งบุคคลเหล่านั้นล้วนแต่เป็นคนในพื้นที่ และต้องใช้ชิวิตอยู่อย่างหวาดระแวงต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

ดังนั้น มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจึงขอเรียกร้องต่อผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ ผู้บังคับบัญชาและผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวว่า มีความเหมาะสมต่อการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อย่างไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นเหตุการณ์แรกแต่ยังมีเหตุการณ์อื่นๆ อีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทำนองนี้ และเหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ล้วนแต่เป็นการสร้างเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่ต่อ ประชาชนในพื้นที่ เมื่อเป็นดังนี้ความสงบในพื้นที่จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

**กมธ.ใต้จี้กองทัพรับผิดชอบ-ขอโทษคนตาย
 

พล.อ.เกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาและการฟื้นฟูการพัฒนาตามวิถีวัฒธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ วุฒิสภา แถลงข่าวภายหลังการประชุมของคณะกรรมาธิการ ถึงเหตุทหารพรานยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 ศพว่า กองทัพต้องแสดงความรับผิดชอบในการให้ข่าว โดยสรุปก่อนที่จะรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย และควรขอโทษผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเคยเกิดเหตุการณ์ที่กองทัพแถลงข่าวเช่นนี้จนเกิดความผิดพลาดและสร้างเงื่อนไขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาแล้วหลายครั้ง

ส่วนสอบสวนควรให้มีผู้แทนภาคประชาชนมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง และให้แถลงผลการสอบสวนอย่างเร่งด่วน และต้องมีการเยียวยา ชดเชย ผู้ได้รับความเสียหายโดยเร่งด่วน รวมถึงให้ทุกฝ่ายเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างแท้จริง

**ยิง ทพ.ดับ-คาดตอบโต้ฆ่าผู้บริสุทธิ์
 

ด้านสถานการณ์ความไม่สงบวานนี้ (1 ก.พ.) เวลา 07.45 น. พ.ต.อ.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกเสียชีวิตบนถนนสายหนองจิก-โคกโพธิ์ บ้านขะเมา หมู่ 2 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดงตกอยู่ในคูน้ำใกล้กันพบศพอาสาสมัครทหารพรานทะนง สินธู อายุ 48 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 43 อยู่บ้านเลขที่ 52 ม.2 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี สภาพศพอยู่ในเครื่องแบบทหารพรานสีดำครึ่งท่อน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น .38 เข้าลำตัว 4 นัด
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์กลับมาจากส่งลูกที่โรงเรียนในเขตเทศบาลตำบลโคกโพธิ์ ระหว่างทางกำลังขับรถเพื่อเข้าเวรที่กรมทหารพรานที่ 43 ภายในค่ายอิงคยุทธบริหารปัตตานีถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ตามประกบยิงจนเสียชีวิต ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อคนร้ายติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ตายมาตลอด เนื่องจากผู้ตายจะขับรถไปส่งลูกทุกวัน เมื่อสบโอกาสจึงก่อเหตุเพื่อตอบโต้กรณีทหารพรานยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 ศพ

**ประกบยิงตำรวจนราฯสาหัส 1 ราย

ต่อมาวลา 13.30 น.คนร้ายได้ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 นายที่บนถนนสายบ้านยานิง-เจาะไอร้อง หมู่ 3 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ทราบชื่อคือ ด.ต.วีระชัย หยูดำ อายุ 40 ปี ผบ.หมู่ ปป.สภ.เจาะไอร้อง โดยเหตุเกิดหลังจากผลัดเปลี่ยนเวรที่ สภ.เจาะไอร้อง แล้ว ด.ต.วีระชัย ได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางกลับบ้านพักที่ตลาดนัดยานิง เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์มาประกบไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายทั้งสองได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นคนละกระบอกยิงใส่ ด.ต.วีระชัย 5 นัดซ้อน จนเสียหลักล้มลงข้างทาง แต่ ด.ต.วีระชัย ใจสู้ชักอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 ม.ม. ออกมายิงตอบโต้จนคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
กำลังโหลดความคิดเห็น