คนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงชาวบ้านปัตตานีหวังฆ่ายกครอบครัว แม่ดับคาที่ พ่อและลูกชาย 8 ขวบเจ็บสาหัส ส่วนที่นราธิวาสคนร้ายยิงพ่อค้าน้ำมันเถื่อนเสียชีวิต หลังก่อเหตุมือปืนชิงรถยนต์ของผู้ตายหลบหนีไปด้วย ด้านอัยการจังหวัดปัตตานีเรียกสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ยิง 4 ศพ เผยจะเร่งดำเนินคดีด้วยความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย
เมื่อเวลา 06.30 น.วานนี้ (3ก.พ.) พ.ต.อ.อาซิส อุมายี ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนสาย 42 นราธิวาส-ปัตตานี ม.5 ต.ละหาร จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า จอดอยู่บนถนน สภาพถูกยิงด้วยอาวุธสงครามจนพรุนทั้งคัน พบผู้ได้รับบาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลืออยู่บนถนนด้านหลังรถ 1 ราย และมีเด็กชายนอนเจ็บอยู่ในรถอีก 1 ราย จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลบาเจาะ จ.นราธิวาส ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือนายกอเดร์ ลีเฮง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และ ด.ช.อัฟฟาน ลีเฮง อายุ 8 ปี ลูกชายโดยทั้งสองถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามที่ลำตัวอาการสาหัส
ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ทราบชื่อคือ นางสากีน๊ะ พิทักษ์ อายุ 35 ปี ภรรยาของนายกอเดร์ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธสงครามตามลำตัวหลายนัด นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนอาก้าและเอ็ม 16 ตกเกลื่อนบนถนน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายกอเดร์และครอบครัวรวม 3 คนขับขี่รถเก๋งคันดังกล่าวมาจากบ้านพักเพื่อเข้าตัว อ.สายบุรี ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายใช้รถยนต์ตามประกบก่อนจะใช้อาวุธสงครามกราดยิงหลายสิบนัด นายกอเดร์จึงใช้อาวุธปืนยิงสู้จนคนร้ายหลบหนีไป ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุพบว่าภรรยานายกอเดร์เสียชีวิตคารถ ส่วนลูกชายบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มผู้ก้อเหตุไม่สงบสร้างสถานการณ์ไฟใต้รายวัน
*ยิงพ่อค้ำน้ำมันเถื่อนนราธิวาสดับคาที่
เวลา 07.00 น.พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่หน้าบ้านเลขที่ 8/2 ม.5 ต.บาเร๊ะใต้ ที่เกิดเหตุพบศพนายวชิระ จันทร์ทิตย์ อายุ 36 ปี มีบาดแผลถูกกระสุนปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดที่บริเวณลำตัวและสีข้าง 2 นัด จากการตรวจสอบบริเวณป่ารกทึบข้างบ้านพัก เจ้าหน้าที่พบรอยหญ้าถูกเหยียบย้ำล้มราบกับพื้น แต่ไม่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานใดๆของคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลบาเจาะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
จากการสอบสวนนายมาหามะซูปียัง เต๊ะ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.3 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ที่เดินทางมากับผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายวชิระ พร้อมตนและเพื่อน คือ นายนัสรี บือราเฮง อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.3 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีบรอนส์-ทอง ทะเบียน 3315 นราธิวาส มาจากพื้นที่ อ.ตากใบ โดยบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงมาส่งที่บ้านจุดเกิดเหตุ ระหว่างที่ตนและนายนัสรี ยืนพูดคุยกับเจ้าของบ้านอยู่ภายในบ้านพักนั้น มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ข้างบ้านจุดเกิดเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ยิงใส่นายวชิระ ที่ยืนอยู่หน้าบ้านพัก 2 นัดซ้อน ทำให้นายวชิระ ล้มลง จากนั้นคนร้ายวิ่งไปขับรถยนต์กระบะของนายวชิระ ที่จอดอยู่หน้าบ้านพักหลบหนีไป โดยคนร้ายได้ตะโกนเป็นภาษายาวี ว่าห้ามใคร่ยุ่งมิฉะนั้นจะยิงให้ตาย
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น เกิดจากความขัดแย้งด้านธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อน แต่ไม่ตัดทิ้งประเด็นความมั่นคง เนื่องจากคนร้ายอาจต้องการปล้นรถยนต์กระบะไปประกอบระเบิดเพื่อใช้ก่อวินาศกรรมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
**อัยการเรียกพยานสอบคดี4ศพปัตตานี
วันเดียวกันที่สำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี ได้มีการเรียกสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยทีมสหวิชาชีพ ประกอบไปด้วยเจ้าพนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน นักสังคมสงเคราะห์และบุคคลที่พยานร้องขอ โดยมีการบันทึกเทปวีดีโอการพิจารณาเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาในชั้นศาล โดยมีการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเพื่อนำไปยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อไต่สวนสำนวนการตายของทั้ง 4 ศพ
นายประยูร พัฒนอมร อัยการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไปทั้งประเทศและมีการเน้นย้ำในเรื่องของการพิจารณาไต่สวนให้รอบคอบจากผู้ใหญ่เบื้องบน ซึ่งตนจะเร่งรวบรวมสำนวนพยานหลักฐานให้เสร็จภายใน 30 วัน และอยากจะให้ญาติผู้เสียชีวิตตลอดจนเจ้าหน้าที่คู่กรณีมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และยืนยันว่าจะดูแลความยุติธรรมให้ทั้งสองฝ่ายให้ดีที่สุด
เมื่อเวลา 06.30 น.วานนี้ (3ก.พ.) พ.ต.อ.อาซิส อุมายี ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนสาย 42 นราธิวาส-ปัตตานี ม.5 ต.ละหาร จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า จอดอยู่บนถนน สภาพถูกยิงด้วยอาวุธสงครามจนพรุนทั้งคัน พบผู้ได้รับบาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลืออยู่บนถนนด้านหลังรถ 1 ราย และมีเด็กชายนอนเจ็บอยู่ในรถอีก 1 ราย จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลบาเจาะ จ.นราธิวาส ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือนายกอเดร์ ลีเฮง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และ ด.ช.อัฟฟาน ลีเฮง อายุ 8 ปี ลูกชายโดยทั้งสองถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามที่ลำตัวอาการสาหัส
ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ทราบชื่อคือ นางสากีน๊ะ พิทักษ์ อายุ 35 ปี ภรรยาของนายกอเดร์ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธสงครามตามลำตัวหลายนัด นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนอาก้าและเอ็ม 16 ตกเกลื่อนบนถนน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายกอเดร์และครอบครัวรวม 3 คนขับขี่รถเก๋งคันดังกล่าวมาจากบ้านพักเพื่อเข้าตัว อ.สายบุรี ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายใช้รถยนต์ตามประกบก่อนจะใช้อาวุธสงครามกราดยิงหลายสิบนัด นายกอเดร์จึงใช้อาวุธปืนยิงสู้จนคนร้ายหลบหนีไป ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุพบว่าภรรยานายกอเดร์เสียชีวิตคารถ ส่วนลูกชายบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มผู้ก้อเหตุไม่สงบสร้างสถานการณ์ไฟใต้รายวัน
*ยิงพ่อค้ำน้ำมันเถื่อนนราธิวาสดับคาที่
เวลา 07.00 น.พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่หน้าบ้านเลขที่ 8/2 ม.5 ต.บาเร๊ะใต้ ที่เกิดเหตุพบศพนายวชิระ จันทร์ทิตย์ อายุ 36 ปี มีบาดแผลถูกกระสุนปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดที่บริเวณลำตัวและสีข้าง 2 นัด จากการตรวจสอบบริเวณป่ารกทึบข้างบ้านพัก เจ้าหน้าที่พบรอยหญ้าถูกเหยียบย้ำล้มราบกับพื้น แต่ไม่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานใดๆของคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลบาเจาะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
จากการสอบสวนนายมาหามะซูปียัง เต๊ะ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.3 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ที่เดินทางมากับผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายวชิระ พร้อมตนและเพื่อน คือ นายนัสรี บือราเฮง อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.3 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีบรอนส์-ทอง ทะเบียน 3315 นราธิวาส มาจากพื้นที่ อ.ตากใบ โดยบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงมาส่งที่บ้านจุดเกิดเหตุ ระหว่างที่ตนและนายนัสรี ยืนพูดคุยกับเจ้าของบ้านอยู่ภายในบ้านพักนั้น มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ข้างบ้านจุดเกิดเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ยิงใส่นายวชิระ ที่ยืนอยู่หน้าบ้านพัก 2 นัดซ้อน ทำให้นายวชิระ ล้มลง จากนั้นคนร้ายวิ่งไปขับรถยนต์กระบะของนายวชิระ ที่จอดอยู่หน้าบ้านพักหลบหนีไป โดยคนร้ายได้ตะโกนเป็นภาษายาวี ว่าห้ามใคร่ยุ่งมิฉะนั้นจะยิงให้ตาย
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น เกิดจากความขัดแย้งด้านธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อน แต่ไม่ตัดทิ้งประเด็นความมั่นคง เนื่องจากคนร้ายอาจต้องการปล้นรถยนต์กระบะไปประกอบระเบิดเพื่อใช้ก่อวินาศกรรมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
**อัยการเรียกพยานสอบคดี4ศพปัตตานี
วันเดียวกันที่สำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี ได้มีการเรียกสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยทีมสหวิชาชีพ ประกอบไปด้วยเจ้าพนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน นักสังคมสงเคราะห์และบุคคลที่พยานร้องขอ โดยมีการบันทึกเทปวีดีโอการพิจารณาเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาในชั้นศาล โดยมีการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเพื่อนำไปยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อไต่สวนสำนวนการตายของทั้ง 4 ศพ
นายประยูร พัฒนอมร อัยการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไปทั้งประเทศและมีการเน้นย้ำในเรื่องของการพิจารณาไต่สวนให้รอบคอบจากผู้ใหญ่เบื้องบน ซึ่งตนจะเร่งรวบรวมสำนวนพยานหลักฐานให้เสร็จภายใน 30 วัน และอยากจะให้ญาติผู้เสียชีวิตตลอดจนเจ้าหน้าที่คู่กรณีมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และยืนยันว่าจะดูแลความยุติธรรมให้ทั้งสองฝ่ายให้ดีที่สุด